สวัสดีคะ วันนี้จะมารีวิว การเดินทางเที่ยวรถไฟสายน้ำตก กับ รฟท. และเงินในกระเป๋า 200 บาท แบบผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้
สำหรับทริปนี้เริ่มจากการจองตั่วรถไฟ ที่สถานีหัวลำโพง บอกไปน้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งเค้าจะจัดทัวร์เฉพาะ วันเสาร์ อาทิตย์ เท่านั้น เราเลือกไปวันเสาร์เพราะคนไม่ค่อยเยอะ ส่วนราคาตั๋วไปกลับ 120 บาท สำหรับ ชั้นธรรมดา ถามว่าร้อนมั้ยก็พอทน และแบบปรับอากาศ แต่สำหรับเราแบบธรรมดาดีกว่า เพราะ ได้สัมผัสธรรมชาติมากกว่า และสะดวกในการเก็บภาพระหว่างทาง ส่วนการจองที่นั่ง ให้จองฝั่งซ้ายมือนะคะ เพราะ จะได้เห็นวิวที่สวยกว่า
และแล้วก็ถึงเวลาเดินทาง รถเริ่มออกจากหัวลำโพง ตอน 6.30 ซึ่งเราขี้เกลียดตื่น เลยมาขึ้นตรงศาลายา รถไฟมาถึงที่ศาลายา ตอน 7.20
สภาพที่นั่งแบบชั้นธรรมดา มันก็จะแคบๆ หน่อย สำหรับคนตัวใหญ่ เข่าชนเข่า
จากนั้นออกเดินทางไปที่จุดหมายแรก คือ สถานีรถไฟนครปฐม ตอนประมาณ เกือบ 8 โมง โดยเค้าจะจอดให้เราถ่ายรูป ตุนเสบียง และ ขึ้นไปไหว้พระปฐมเจดีย์ โดยให้เวลาประมาณ 25 นาที
จากนั้นก็นั่งรถไฟยาวไปถึงกาญจนบุรี
ตรงนี้พี่ไกด์รถไฟ แกบอกว่าคือผืนป่าอะเมซอน เวลาจะถึงจุดสวยๆ เค้าก็จะประกาศ ให้รู้เพื่อถ่ายรูปเก็บไว้ จะบอกเรื่อยๆเลย
ประมาณ 11 โมง ก็ถึง สะพานมรณะ ด้วยการเลือกที่นั่งฝั่งซ้ายมือ ทำให้เราสามารถถ่ายวิวได้สะดวก
สะพานมรณะ
จุดนี้เค้าจะขับชลอให้เราถ่ายภาพไปเรื่อยๆ
จะขับมาถึง สะพานข้ามแม่น้ำแคว เกือบเที่ยง เค้าจอดให้เราลงไปถ่ายรูป ประมาณ 25 นาที
และหลังจากนั้นก็นั่งรถไฟต่อไปที่น้ำตกไทรโยคน้อย โดยวันนี้เราโชคดีตรงที่เค้าไปส่งเราถึงน้ำตกเลย ไม่ต้องต่อรถ
ถึงน้ำตกประมาณ บ่ายโมง เรามีเวลาเล่นถึงบ่าย 2 โมงครึ่ง ก็จะรวมตัวขึ้นรถกลับกรุงเทพ (เค้าให้นั่งที่เดิมนะแม้จะ ตีตั๋วไปกลับคนละที่นั่ง)
ไปวันเสาร์คนไม่ค่อยเยอะ เท่าไร ในส่วนของบริเวณอุทยานน้ำตกไทรโยคน้อย เค้าก็มีอาหารขาย มีห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ถือว่าสะอาดพอควร มีร้านขายเสื้อผ้า เช่าห่วงยาง เช่าเสื่อ ส่วนด้านบนจะมีบรรไดเดินขึ้นไป จะมีรถ ซาเล้ง พาเราไปเที่ยวถ้ำ และวังบาดาล ค่าบริการไปกลับคนละ 20 บาท
สำหรับของกินที่บอกเลยว่าอร่อยมากๆๆ คือโรตีมะพร้าวอ่อน ลูกนี้ 40 บาท หวาน หอม มัน แต่ต้องลงมาจากน้ำตกแล้วเดินข้ามถนนไปซื้อ
ถึงเวลาบ่าย 2 ครึ่ง ก็นั่งรถกลับ จุดสุดท้ายขากลับที่จะแวะชมก็คือ สถานีกาญจนบุรี ประมาณ 16.00 เค้าจะแวะให้ถ่ายรูป ซื้อของฝากจนถึง 17.00 แล้วเดินทางยาวกลับกรุงเทพ
ที่ไกด์แนะนำให้ ก็คือสุสานทหาร จะเดินไปก็ได้ หรือนั่ง 2 แถว ที่จอดรอที่สถานีไปก็ได้ ค่าบริการไปกลับคนละ 10 บาท
สำหรับที่สุสาน ก็จะมีด้านหน้าที่ทำประตูโค้งแบบยุโรป รอบๆ ก็มีคาเฟ่ ไสตล์ยุปโรป ส่วนด้านในสุสานนั้นไม่ค่อยน่าพิศสมัยสักเท่าไรสำหรับเรา (..มันหลุมศพนะเฟ้ย... มายืนถ่ายรูปฉีกยิ้มก็ไม่ใช่เรื่อง...)
ถึงเวลา 17.00 ก็รวมพลขึ้นรถกลับกรุเทพ แต่รถไฟดันเสีย จอดแช่กว่าจะออกได้ก็เสียเวลา เกือบครึ่งชั่วโมง
และแล้วก็ถึงสถานีศาลายา ตอน ทุ่มนิดๆ ส่วนคนลงสถานนีหัวลำโพง น่าจะถึง 2 ทุ่มกว่าๆ
สำหรับทริปนั่งรถไฟไปน้ำตกไทรโยค
สิ่งที่ควรทำก็คือ
1.จองที่นั่งฝั่งซ้ายมือ จะได้วิวสวยถ่ายรูปง่าย
2. กินโรตีอร่อยมากเวอร์
และสิ่งที่ไม่ค่อยอยากแนะนำให้ทำสักเท่าไรคือ
การสั่งซื้อาหารบนรถไฟ และของฝากที่มีเจ้าหน้าที่เอามาเดินให้เราเลือกซื้อ (ก็จะมีขนมหม้อแกง ขนมไทย ปลาเค็ม ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ) ตอนขาไป และได้ของตอนขากลับ
เราสั่งก๋วยเตี่ยวราชบุรี (เค้าแนะนำว่าอร่อย) แต่ เมื่อแกะห่อเส้นติดเป็นแผ่น รสชาติพอกินได้ ส่วนทอดมัน ก็เย็นและน้ำมันเยิ้มมากๆ แต่ด้วยความหิวก็กินหมด
เที่ยวรถไฟน้ำตกไทรโยคน้อย
สำหรับทริปนี้เริ่มจากการจองตั่วรถไฟ ที่สถานีหัวลำโพง บอกไปน้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งเค้าจะจัดทัวร์เฉพาะ วันเสาร์ อาทิตย์ เท่านั้น เราเลือกไปวันเสาร์เพราะคนไม่ค่อยเยอะ ส่วนราคาตั๋วไปกลับ 120 บาท สำหรับ ชั้นธรรมดา ถามว่าร้อนมั้ยก็พอทน และแบบปรับอากาศ แต่สำหรับเราแบบธรรมดาดีกว่า เพราะ ได้สัมผัสธรรมชาติมากกว่า และสะดวกในการเก็บภาพระหว่างทาง ส่วนการจองที่นั่ง ให้จองฝั่งซ้ายมือนะคะ เพราะ จะได้เห็นวิวที่สวยกว่า
และแล้วก็ถึงเวลาเดินทาง รถเริ่มออกจากหัวลำโพง ตอน 6.30 ซึ่งเราขี้เกลียดตื่น เลยมาขึ้นตรงศาลายา รถไฟมาถึงที่ศาลายา ตอน 7.20
สภาพที่นั่งแบบชั้นธรรมดา มันก็จะแคบๆ หน่อย สำหรับคนตัวใหญ่ เข่าชนเข่า
จากนั้นออกเดินทางไปที่จุดหมายแรก คือ สถานีรถไฟนครปฐม ตอนประมาณ เกือบ 8 โมง โดยเค้าจะจอดให้เราถ่ายรูป ตุนเสบียง และ ขึ้นไปไหว้พระปฐมเจดีย์ โดยให้เวลาประมาณ 25 นาที
จากนั้นก็นั่งรถไฟยาวไปถึงกาญจนบุรี
ตรงนี้พี่ไกด์รถไฟ แกบอกว่าคือผืนป่าอะเมซอน เวลาจะถึงจุดสวยๆ เค้าก็จะประกาศ ให้รู้เพื่อถ่ายรูปเก็บไว้ จะบอกเรื่อยๆเลย
ประมาณ 11 โมง ก็ถึง สะพานมรณะ ด้วยการเลือกที่นั่งฝั่งซ้ายมือ ทำให้เราสามารถถ่ายวิวได้สะดวก
สะพานมรณะ
จุดนี้เค้าจะขับชลอให้เราถ่ายภาพไปเรื่อยๆ
จะขับมาถึง สะพานข้ามแม่น้ำแคว เกือบเที่ยง เค้าจอดให้เราลงไปถ่ายรูป ประมาณ 25 นาที
และหลังจากนั้นก็นั่งรถไฟต่อไปที่น้ำตกไทรโยคน้อย โดยวันนี้เราโชคดีตรงที่เค้าไปส่งเราถึงน้ำตกเลย ไม่ต้องต่อรถ
ถึงน้ำตกประมาณ บ่ายโมง เรามีเวลาเล่นถึงบ่าย 2 โมงครึ่ง ก็จะรวมตัวขึ้นรถกลับกรุงเทพ (เค้าให้นั่งที่เดิมนะแม้จะ ตีตั๋วไปกลับคนละที่นั่ง)
ไปวันเสาร์คนไม่ค่อยเยอะ เท่าไร ในส่วนของบริเวณอุทยานน้ำตกไทรโยคน้อย เค้าก็มีอาหารขาย มีห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ถือว่าสะอาดพอควร มีร้านขายเสื้อผ้า เช่าห่วงยาง เช่าเสื่อ ส่วนด้านบนจะมีบรรไดเดินขึ้นไป จะมีรถ ซาเล้ง พาเราไปเที่ยวถ้ำ และวังบาดาล ค่าบริการไปกลับคนละ 20 บาท
สำหรับของกินที่บอกเลยว่าอร่อยมากๆๆ คือโรตีมะพร้าวอ่อน ลูกนี้ 40 บาท หวาน หอม มัน แต่ต้องลงมาจากน้ำตกแล้วเดินข้ามถนนไปซื้อ
ถึงเวลาบ่าย 2 ครึ่ง ก็นั่งรถกลับ จุดสุดท้ายขากลับที่จะแวะชมก็คือ สถานีกาญจนบุรี ประมาณ 16.00 เค้าจะแวะให้ถ่ายรูป ซื้อของฝากจนถึง 17.00 แล้วเดินทางยาวกลับกรุงเทพ
ที่ไกด์แนะนำให้ ก็คือสุสานทหาร จะเดินไปก็ได้ หรือนั่ง 2 แถว ที่จอดรอที่สถานีไปก็ได้ ค่าบริการไปกลับคนละ 10 บาท
สำหรับที่สุสาน ก็จะมีด้านหน้าที่ทำประตูโค้งแบบยุโรป รอบๆ ก็มีคาเฟ่ ไสตล์ยุปโรป ส่วนด้านในสุสานนั้นไม่ค่อยน่าพิศสมัยสักเท่าไรสำหรับเรา (..มันหลุมศพนะเฟ้ย... มายืนถ่ายรูปฉีกยิ้มก็ไม่ใช่เรื่อง...)
ถึงเวลา 17.00 ก็รวมพลขึ้นรถกลับกรุเทพ แต่รถไฟดันเสีย จอดแช่กว่าจะออกได้ก็เสียเวลา เกือบครึ่งชั่วโมง
และแล้วก็ถึงสถานีศาลายา ตอน ทุ่มนิดๆ ส่วนคนลงสถานนีหัวลำโพง น่าจะถึง 2 ทุ่มกว่าๆ
สำหรับทริปนั่งรถไฟไปน้ำตกไทรโยค
สิ่งที่ควรทำก็คือ
1.จองที่นั่งฝั่งซ้ายมือ จะได้วิวสวยถ่ายรูปง่าย
2. กินโรตีอร่อยมากเวอร์
และสิ่งที่ไม่ค่อยอยากแนะนำให้ทำสักเท่าไรคือ
การสั่งซื้อาหารบนรถไฟ และของฝากที่มีเจ้าหน้าที่เอามาเดินให้เราเลือกซื้อ (ก็จะมีขนมหม้อแกง ขนมไทย ปลาเค็ม ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ) ตอนขาไป และได้ของตอนขากลับ
เราสั่งก๋วยเตี่ยวราชบุรี (เค้าแนะนำว่าอร่อย) แต่ เมื่อแกะห่อเส้นติดเป็นแผ่น รสชาติพอกินได้ ส่วนทอดมัน ก็เย็นและน้ำมันเยิ้มมากๆ แต่ด้วยความหิวก็กินหมด