. หลายเหตุการณ์โดยรอบ ในการช่วย 13 ชีวิตในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย

.    เปิดจุดรอด “ถ้ำหลวง” คนเคยสำรวจเผย พ้นจุดหาดพัทยา มีหินสูงเป็นโถงมหึมา
จากการค้นหานักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่ารวม 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย
เข้าสู่วันที่ 5 ของการค้นหา เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานระดมกำลังกันอย่างเต็มที่

    ทีมข่าวเดินทางมาพบ นายปรีชา ศรีเพชร อดีตปลัดอำเภอแม่สาย ผู้เคยสำรวจภายในถ้ำหลวง

โดยวาดภาพเส้นทางจำลองแสดงกับกับทีมข่าว พร้อมอธิบายสถานที่จุดต่างๆ ภายในถ้ำ
โดยยืนยันว่า ภายในถ้ำไม่มีเขาวงกต อย่างที่บางสื่อฯ นำเสนอ
ทั้งนี้ ในอดีตประมาณ 20 - 25 ปีก่อน  นายปรีชาเคยเข้าไปสำรวจในถ้ำหลวง
พื้นที่ภายในมีหลากหลาย ทั้งเดินลุยน้ำ ลุยโคลน แต่ไม่ได้วัดระยะทางที่เข้าไปอย่างแน่ชัด
ใช้เวลาเข้าไปในถ้ำจนกลับออกมา ตั้งแต่ 18.00 – 06.00 น. หรือ กว่า 12 ชั่วโมง แบบไม่หยุดพัก

    นายปรีชา อธิบายว่า เมื่อเข้าไปในถ้ำ จะเป็นลักษณะการเดินลงที่ต่ำไปเรื่อยๆจนเจอโถงแรก ซึ่งมีเนินหินสูง
จากนั้นเมื่อเดินต่อ จะพบทาง 3 แยก  เมื่อผ่านเส้นทางนี้ไปได้ ตนเคยเดินไปทางขวา เป็นทางตัน
ส่วนทางซ้ายจะพบทางลอด มีความสูงระดับเอว ระยะทางประมาณ 20 - 30 เมตร
ซึ่งจากข้อมูลข่าวที่มีการนำเสนอ คาดว่าเป็นจุดที่ 4 - 5 กิโลเมตร ที่หน่วยซีลติดอยู่
หากเดินต่อไป จะพบกับหาดทรายขาว อยู่ภายในโถงขนาดใหญ่สุดภายในถ้ำ
จุดนี้เป็นจุดที่เรียกว่า "ชายหาดพัทยา คาดว่าสามารถจุคนได้ 100 - 200 คน
จากนั้นถ้าเดินต่อไป  จะพบบ่อโคลน ระยะทางประมาณ 20 - 30 เมตร
เมื่อลุยผ่านไป จะเจอโถงที่มีเนินหิน และ มีน้ำล้อมรอบ  จุดนี้สำหรับนั่งเล่นได้  
แต่จากการสั่งเกต พบว่ามีรอยน้ำที่เคยท่วมในถ้ำสูงเกือบถึงเพดาน
หากเดินต่อไปได้จะพบถ้ำรอด ซึ่งเป็นทางลอดเข้าไปที่มีน้ำท่วมมิด หากจะผ่านไปได้ต้องดำน้ำไป
ใช้เวลาดำน้ำเพียงอึดใจ ก็จะไปพบกับทางที่เป็นเนิน
ถ้าผ่านไป จะเป็นพื้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน
จนกระทั่งไปพบปลายถ้ำเป็นเสาหิน ที่มีข้อความเขียนว่า “สุดทางแล้ว”

    นายปรีชากล่าว ส่วนตัวเชื่อว่าเด็กๆ น่าจะอยู่ที่จุดนี้ และเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากเป็นเนินสูง

และจากการสังเกต พบว่าจุดนี้ระดับน้ำท่วมไม่ถึง  เพราะไม่มีรอยคราบน้ำท่วมเหมือนจุดอื่น
หากเด็กๆ อยู่จุดนี้ จะรอดจากน้ำแน่  แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือ อาหาร
นอกจากนี้ ตลอดทางเดินจนสุดทางภายในถ้ำ ตนไม่เคยพบปล่องอากาศแต่อย่างใด
แต่อากาศภายในนั้นค่อนข้างดี และเพียงพอต่อการหายใจ

     จุดน้ำหลากเข้าถ้ำหลวง ทีม “ดำรงค์ พิเดช” ชี้   หากเบี่ยงน้ำทันช่วย 13 ชีวิตเร็วขึ้น
จากกรณี นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ โพสต์ข้อความการช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง จ.เชียงราย
โดยระบุ  คนในพื้นที่พัฒนาดอยตุงทั้ง 27 หมู่บ้าน โดยเฉพาะ บ้านผาฮี้ ผาหมี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ หรือประชาชนในบริเวณนั้น
ให้ช่วยกันระดมหาช่องทางที่น้ำไหลเข้าไปเติมในถ้ำหลวง  เพื่อปิดกั้นหรือเบี่ยงเส้นทางน้ำนั้น

     (30 มิ.ย. 61) ทีมข่าวทีวี พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมไฟป่า พื้นที่ทรงงานดอยตุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กว่า 10 คน
เดินเท้าสำรวจเส้นทางน้ำ  หาโพรงที่คาดว่าน้ำจะซึมเข้าไปในผิวดิน  และอาจเข้าไปรวมกับน้ำในถ้ำหลวง
ซึ่งเป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต
โดยเส้นทางที่ลงสำรวจ จะต้องลงเดินเท้า ไปหาจุดที่ ลำธารมูเซอร์-ผาฮี้ และ ลำธารอาข่า-ผาฮี้ ไหลมารวมกัน
ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของถ้ำหลวง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ท้ายถ้ำ”

    จากการเดินเท้าลงไปจากหมู่บ้านมูเซอร์-ผาฮี้ พบเส้นทางเป็นทางลงเขาดินเหนียว สองฝั่งเป็นป่าทึบ
ประกอบกับระหว่างทางมีฝนลง  ทำให้เดินสำรวจด้วยความยากลำบาก
ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงพบจุดที่ลำธาร 2 สายมารวมกัน เรียกว่า “ห้วยผาฮี้”

    นายเกษมชัย แสนชัย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่า เปิดเผยว่า
กลุ่มตนได้รับมอบหมายภารกิจให้สำรวจเส้นทางน้ำที่ไหลมารวมกัน ว่ามีจุดใดที่น้ำสามารถไหลเข้าไปสมทบภายในถ้ำหลวงได้บ้าง
หากพบว่ามี  จะทำการเบี่ยงเส้นทางน้ำหรืออุดรูไว้
แต่ในขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีโพรงขนาดใหญ่ มีเพียงบางจุดเป็นช่องเล็กๆ ซึ่งได้ปิดไว้แล้ว
ทั้งนี้ ต้องสำรวจให้ละเอียด  เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางในการช่วยทั้ง 13 คนให้ออกจากถ้ำหลวงได้


    "สุรทิน ชัยชมพู" ผู้ปิดทองหลังพระ เจาะบาดาล ลดน้ำเข้า "ถ้ำหลวง"
นายสุรทิน ชัยชมพู อายุ 53 ปี หน้าตาซื่อๆ มาช่วยด้วยหัวใจ

แกบอก "ค่าจ้างของแก คือ ชีวิตเด็กทั้ง 13 คน  ภารกิจไม่สำเร็จ ไม่กลับบ้าน"
เป็นฮีโร่พื้นบ้าน เจาะน้ำบาดาล ลดน้ำเข้าถ้ำสำเร็จ
    หลังจาก 7 วันเต็มๆที่เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยทุ่มกำลังลงไปที่ถ้ำหลวง
แต่การสูบน้ำออกจากถ้ำท่ามกลางห่าฝนและน้ำป่าไหลเข้าเติม
เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ทีมค้นหา ทำงานลำบาก และต้องถอยทัพหลายครั้ง
ระยะทางในถ้ำที่ไกลหลายกิโลเมตร  สภาพแวดล้อมที่แคบ มืดมิด อันตราย
เพราะธรรมชาติออกแบบให้มันลึกลับและซับซ้อน

    เมื่อสุรทิน นายกสมาคมขุดเจาะน้ำบาดาล และสมาชิกปรากฎตัว
อุปสรรคที่ขวางกั้นหน่วยซีล ก็แทบหายไปทันที
เมื่อได้รับคำอนุญาตจากทางการ ทีมงานก็ขุดเจาะทะลวงหน้าปากถ้ำ และ หลังถ้ำ
เพื่อสกัดน้ำป่าไม่ให้ไหลเข้าถ้ำ  ท่ามกลางความวิตกว่าจะส่งผลกระทบ
ที่เป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่และเด็กที่อาจจะยังรอดชีวิตอยู่ในถ้ำ  
สายๆ คาราวานเครื่องสูบน้ำพญานาคก็มาสมทบ   จึงเห็นน้ำบาดาลพุ่งขึ้นฟ้าแล้วไหลลงไปยังจุดรับน้ำ


     หนุ่มนครปฐม เจ้าของเครื่องสูบน้ำพลังช้าง เพื่อช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง
การช่วยเหลือ นักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าอคาเดมี ที่ติดค้างภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย
มีอุปสรรคสำคัญคือระดับน้ำสูง กีดขวางเส้นทาง  ทำให้ค้นหาผู้สูญหายยาก
ภายหลังจึงมีการรวมกลุ่มของชาวจังหวัดนครปฐม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าของนากุ้ง และมีเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่
เสนอตัวนำเครื่องสูบนำไปช่วยเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการค้นหาผู้สูญหาย

    "เอกชัย แซ่เตียว" หรือที่รู้จักในนาม "เอก ท่อสูบน้ำซิ่ง" เปิดเผยว่า ตนและเพื่อนอีก 4 คน ทำธุรกิจบ่อกุ้ง
นอกจากนี้ยังให้บริการเช่าเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ จ.นครปฐม ราชบุรี และสมุทรสาคร
เมื่อเห็นภาพข่าว จึงอาสานำเครื่องสูบน้ำที่มีไปช่วย  แต่ติดขัดเรื่องการขนส่ง เพราะท่อสูบน้ำมีขนาดใหญ่
จึงประกาศขอความช่วยเหลือจากคนในพื้นที่ และได้รับการประสานงานจากนักการเมืองท้องถิ่น และผู้ประกอบการขนส่ง
ช่วยอำนวยความสะดวก นำท่อสูบน้ำ 4 ท่อ เดินทางไป จ.เชียงราย
โดยเริ่มเดินทางตั้งแต่วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน  ไปถึงจุดหมายปลายทางช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา
ก่อนทำการติดตั้งและดำเนินการสูบน้ำ

    เจ้าของเครื่องสูบน้ำให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เครื่องสูบน้ำเหล่านี้เป็นฝีมือการประดิษฐ์ของช่างคนไทย
โดยดัดแปลงเครื่องยนต์ของรถบรรทุกเทรลเลอร์ ซึ่งมีกำลัง 360 แรงม้า


    ด้วยศักยภาพของเครื่องยนต์  สามารถสูบน้ำออกจากพื้นที่รอบถ้ำอย่างรวดเร็ว

    
    ศักยภาพ รพ.สนาม-ห้องฉุกเฉินเคลื่อนที่ พร้อมดูแล 13 ชีวิตหลังออกจากถ้ำ

โรงพยาบาลสนาม (ห้องฉุกเฉินเคลื่อนที่) ของกรมแพทย์ทหารบก ถูกนำมาติดตั้งในพื้นที่วนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน
เพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแล นักฟุตบอล และโค้ชทีมหมูป่าอคาเดมี
พล.ต.ปราโมทย์ อิ่มวัฒนา ผู้แทนเจ้ากรมแพทย์ทหารบก เปิดเผยว่า ห้องฉุกเฉินเคลื่อนมีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยทุกระดับ
เจ้าหน้าที่สามารถติดตั้ง โดยใช้เวลา 4 นาทีเท่านั้น  ภายในมีระบบน้ำและไฟที่สมบูรณ์
โครงสร้างภายในคล้ายเบาะลม มีผนัง 2 ชั้นเพื่อป้องกันอากาศจากภายนอก  
นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งเครื่องปรับอากาศด้วย  แต่ภารกิจครั้งนี้ใช้อากาศธรรมชาติ

    ห้องฉุกเฉินเคลื่อนที่แห่งนี้ รองรับผู้ป่วยได้ถึง 20 คน โดยแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนตามอาการป่วย
คือ เต้นท์แดง จะรับผู้ป่วยเร่งด่วน มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตขั้นสูง  รองลงมาเป็นเต้นท์สีเหลือง
ส่วนเต้นท์สีเขียว จะรับผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย
    ห้องฉุกเฉินเคลื่อนที่นี้ ถูกนำมาใช้ในภารกิจค้นหาผู้สูญหายในถ้ำหลวงเป็นภารกิจแรก สามารถใช้เป็นห้องผ่าตัดขนาดเล็ก
โดยมีอุปกรณ์และเครื่องมือตามมาตรฐานการรักษา ผู้แทนกรมแพทย์ทหารบกกล่าวยืนยันว่าเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่ประจำ
มีความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เมื่อนำตัวออกมาจากถ้ำอย่างเต็มที่

    ชาวเน็ตแห่ชื่นชมร้านซักผ้าฟรี ให้หน่วยซีล

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตแห่ชื่นชมทีมงานร้านซักผ้าแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ที่รับซักผ้าให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ถ้ำหลวง
อย่าง หน่วยซีล และ ทหารสหรัฐ โดยไม่คิดเงิน ซึ่งชาวเน็ตรายหนึ่งถึงกับยกย่องให้สาวๆ จากร้านซักรีดเหล่านี้
เป็น "ฮีโร่หญิง มาพร้อมพลังขจัดคราบ"
ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความขอบคุณทีมงานร้านซักผ้าร้านนี้ และยังอวยพรให้เจริญรุ่งเรือง ทั้งธุรกิจ และชีวิตส่วนตัว

    คอหวยผิดหวัง เลขเด็ด 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง ขายดีเกลี้ยงแผง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (1 ก.ค.) จากข่าวทีมหมูป่าอะคาเดมี่ทั้ง 13 คน ติดอยู่ในถ้ำหลวง
เป็นข่าวที่ทั้งประเทศและทั่วโลกต่างสนใจ และเอาใจช่วยให้ออกมาจากถ้ำอย่างปลอดภัย
    ตัวเลข 13 ที่นักเตะและผู้ช่วยโค้ชที่เข้าไปติดอยู่ในถ้ำหลวง  
ผู้ที่ชื่นชอบการเสี่ยงโชคได้นำเลขดังกล่าวมาเสี่ยงโชคกันเป็นจำนวนมาก
และในวันนี้ตามแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาล  จากการสำรวจพบว่า มีประชาชนตามหาเลข 13 และ 31 เป็นจำนวนมาก
แต่ต้องผิดหวังไปตามๆ กัน เนื่องจากเลข 13 และ 31 ถูกจำหน่ายหมดแผงตั้งแต่ช่วงวันแรกๆที่มีข่าวแล้ว

ที่มาข้อมูล  :   Workpoint tv , Amarintv , sanook  ,  Komkrit Duangmanee    
ภาพ : Sunitra Naleang , สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่ , เรารักกองทัพบก , ข่าวทหาร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่