สวัสดีค่ะ เริ่มเรื่องเลยนะคะ เราคบผู้ชายอยู่คนนึง อายุมากกว่าเรา5ปี แล้วที่บ้านไม่ชอบผู้ชายคนนี้มาก
แม่พูดว่าเค้าไม่มีอนาคต อายุก็เยอะแล้ว แต่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง หนี้สินเต็มตัวไปหมด
เหล้าก็กิน ตอนแรกเรารู้สึกเลยว่าเราหลงเขามาก แม่พูดอะไรก็ไม่ฟัง ทะเลาะกับแม่ ขัดใจแม่ตลอด
เราคิดแค่ว่าไม่เห็นเป็นไรเลย ชีวิตคนเราเกิดมาต้นทุนไม่เท่ากัน แล้วเมื่อเดือนที่แล้วแม่ก็พูดมาอีกว่า
ที่แม่พูดจริงไหม ไม่ได้บอกให้เลิก ลองใช้วิธีห่างออกมา เราเลยมายัอนมองที่แม่พูด เขาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
เราคบแล้วเราเหนื่อย เราเครียด จะไปไหนทำอะไร คอยเช็คเราตลอดถ้าหายไปนานๆนี่มีปัญหาแล้ว
ทั้งๆที่ก่อนเราจะไปไหน เราบอกก่อนตลอด ไปนี่นะ ไปทำอะไรบอกทุกครั้ง เขาก็จะโทรมาถามอยู่ไหนแล้ว ไปกับใคร ใช่รึเปล่า
เหมือนไม่ไว้ใจกัน ทั้งๆที่เวลาเขาไปกับเพื่อนเราจะโทรถามแค่ว่าถึงไหนแล้ว กลับเมื่อไหร ของเราเราต้องคอลวีดีโอให้เขาดู
ว่าเรามากับเพื่อนจริงๆมากับที่บ้านจริงๆ ช่วงนี้มีบอลโลกก็จะเล่นพนันบ่อยหน่อย แทงบอลแทบทุกคู่ที่เป็นคู่ดัง โดนกินทุกคู่
ยังไม่ได้จ่ายเขา เงินเดือนหมื่นห้า ผ่อนรถก็แทบจะไม่เหลือกินแล้ว เหลือกินได้แค่อาทิตย์เดียวเงินหมด หลังจากนั้นกินกับที่บ้าน
หนี้เพื่อนก็ยังไม่ได้ใช้เขา ตอนแรกๆที่ได้งานนี้ทำก็แบ่งเงินเป็นสัดส่วน เงินเดือนออก เราจะบอกให้เขาจ่ายค่ารถ ค่าโทรศัพท์
ค่าบัตรที่กดเงินสดมาใช้ ค่าที่ยืมคนอื่นมา เคลียร์ให้จบไปก่อนในแต่ละเดือน หนี้สินพวกนี้มีมาก่อนที่จะมาคบกับเรา
เมื่อเดือนก่อนใช้หนี้หมดไปแล้วคนนึง แต่กลับมามีหนี้บอลเพิ่ม เงินเดือนในส่วนของเขาเราไม่เคยใช้เป็นของตัวเอง
เพราะเรายังไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราอยู่กับที่บ้านของเรา เราสนิทกับทางบ้านเขา แต่เขาแทบไม่รู้จักกับที่บ้านเราเลย
ปัญหามันคือเขาเคยบอกว่า เขาจะปรับตัวเองให้เราอดทนไปกับเขานะ อดทนหน่อยให้รถหมด กลายเป็นเราไม่กล้าบอกเลิกเขา
สงสารเขา ไม่รู้จะพูดยังไงกับเขา กลัวเขาไม่จบ กลัวตัวเองใจอ่อน ตอนนี้รู้สึกตัวเองเป็นคนคิดเยอะ คิดแทนเขาไปหมด
คิดว่าเขาจะรู้สึกแบบนั้นแบบนี้ คิดว่าตัวเองจะใจอ่อน มาเสียใจเองทีหลัง ยึดติดกับคำพูดของเขา
รู้ว่าไปไม่รอด แต่ก็ยื้อเวลา
แม่พูดว่าเค้าไม่มีอนาคต อายุก็เยอะแล้ว แต่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง หนี้สินเต็มตัวไปหมด
เหล้าก็กิน ตอนแรกเรารู้สึกเลยว่าเราหลงเขามาก แม่พูดอะไรก็ไม่ฟัง ทะเลาะกับแม่ ขัดใจแม่ตลอด
เราคิดแค่ว่าไม่เห็นเป็นไรเลย ชีวิตคนเราเกิดมาต้นทุนไม่เท่ากัน แล้วเมื่อเดือนที่แล้วแม่ก็พูดมาอีกว่า
ที่แม่พูดจริงไหม ไม่ได้บอกให้เลิก ลองใช้วิธีห่างออกมา เราเลยมายัอนมองที่แม่พูด เขาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
เราคบแล้วเราเหนื่อย เราเครียด จะไปไหนทำอะไร คอยเช็คเราตลอดถ้าหายไปนานๆนี่มีปัญหาแล้ว
ทั้งๆที่ก่อนเราจะไปไหน เราบอกก่อนตลอด ไปนี่นะ ไปทำอะไรบอกทุกครั้ง เขาก็จะโทรมาถามอยู่ไหนแล้ว ไปกับใคร ใช่รึเปล่า
เหมือนไม่ไว้ใจกัน ทั้งๆที่เวลาเขาไปกับเพื่อนเราจะโทรถามแค่ว่าถึงไหนแล้ว กลับเมื่อไหร ของเราเราต้องคอลวีดีโอให้เขาดู
ว่าเรามากับเพื่อนจริงๆมากับที่บ้านจริงๆ ช่วงนี้มีบอลโลกก็จะเล่นพนันบ่อยหน่อย แทงบอลแทบทุกคู่ที่เป็นคู่ดัง โดนกินทุกคู่
ยังไม่ได้จ่ายเขา เงินเดือนหมื่นห้า ผ่อนรถก็แทบจะไม่เหลือกินแล้ว เหลือกินได้แค่อาทิตย์เดียวเงินหมด หลังจากนั้นกินกับที่บ้าน
หนี้เพื่อนก็ยังไม่ได้ใช้เขา ตอนแรกๆที่ได้งานนี้ทำก็แบ่งเงินเป็นสัดส่วน เงินเดือนออก เราจะบอกให้เขาจ่ายค่ารถ ค่าโทรศัพท์
ค่าบัตรที่กดเงินสดมาใช้ ค่าที่ยืมคนอื่นมา เคลียร์ให้จบไปก่อนในแต่ละเดือน หนี้สินพวกนี้มีมาก่อนที่จะมาคบกับเรา
เมื่อเดือนก่อนใช้หนี้หมดไปแล้วคนนึง แต่กลับมามีหนี้บอลเพิ่ม เงินเดือนในส่วนของเขาเราไม่เคยใช้เป็นของตัวเอง
เพราะเรายังไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราอยู่กับที่บ้านของเรา เราสนิทกับทางบ้านเขา แต่เขาแทบไม่รู้จักกับที่บ้านเราเลย
ปัญหามันคือเขาเคยบอกว่า เขาจะปรับตัวเองให้เราอดทนไปกับเขานะ อดทนหน่อยให้รถหมด กลายเป็นเราไม่กล้าบอกเลิกเขา
สงสารเขา ไม่รู้จะพูดยังไงกับเขา กลัวเขาไม่จบ กลัวตัวเองใจอ่อน ตอนนี้รู้สึกตัวเองเป็นคนคิดเยอะ คิดแทนเขาไปหมด
คิดว่าเขาจะรู้สึกแบบนั้นแบบนี้ คิดว่าตัวเองจะใจอ่อน มาเสียใจเองทีหลัง ยึดติดกับคำพูดของเขา