เราเดินทางเมื่อวันที่ 10-21 เมษายน 61 ทริปนี้มีผู้ร่วมทริป 4 คน ซึ่ง 2 คนในทริปพอพูดภาษาจีนได้ สามารถซื้อของ ติดต่อรถรถ สั่งอาหาร เรียกคิดเงิน จองที่พักให้เราตลอดทริป เป็นผู้มีพระคุณต่อเรามากกกก  เพราะอีก 2 คน รวมเราพูดภาษาจีนไม่ได้เลย........

วันที่ 1 Chongqing
เราเริ่มออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองตอน 4.30 ไปถึงสนามบิน Chongqing ประมาณ 10.30 น. แล้วเราก็นั่งแท๊กซี่ไปที่พักที่จองไว้กับ Airbnb โดยใช้วิธีการโทรหาเจ้าของที่พักแล้วให้เค้าคุยกับแท็กซี่ให้ ประกอบกับการเปิดแมพของเรา และแมพของคนขับแท็กซี่ (คนขับจะไม่ยอมดูแผนที่จาก Google Map เข้าใจว่ามันเป็นภาษาอังกฤษ เค้าก็จะปฏิเสธ และก็จะดูแต่แมพของเค้า) ซึ่งก็ค่อนข้างทุลักทุเลเล็กน้อย คนขับจอดรถเพื่อดูแผนที่เป็นระยะๆ พร้อมกับบ่นภาษาจีนที่เราฟังไม่รู้เรื่องไปตลอดทาง แต่สุดท้ายก็มาส่งเราถึงจุดหมายจนได้ มาถึงก็ตื่นเต้นเลย

ที่พักของเราเป็น apartment มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีห้องครัว ห้องโถงพักผ่อน แต่เนื่องจากว่าเราจองไว้แค่ 2 ห้อง เจ้าของที่พักก็เลยล็อคห้องนึงไว้ ถือว่าโอเคมากกับราคาเฉลี่ยคนละประมาณ 70 หยวน

มื้อเที่ยงเราออกมาหาของกินแถวๆ ที่พัก เราสั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อหมาล่าของเรา กับบะหมี่เย็นๆ หวานๆ จานนึงกิน 2 คน เพราะงกประกอบกับเพื่อน 2 คน ซึ่งเคยมาจีนแนะนำว่าอาหารจานใหญ่ถ้าสั่งคนละจานจะกินไม่หมด ในส่วนของก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก็มีความมันระดับสูง และเผ็ดร้อนชาลิ้นมากกก เนื้อวัวตุ๋นอร่อยดี รสชาติอาหารก็ถือว่าผ่าน ร้านนี้มีข้าวต้มฟรีให้กินกับผักกาดดองฟรีบนโต๊ะด้วยแหละ

แวะซื้อน้ำหวานจากร้านขายของ ขวดน่ารักดี รสชาติสีเขียวอร่อยกว่าสีส้ม ส่วนขวดกลางเป็นกระติกน้ำคู่ชีพที่เราพกน้ำไปกินทุกที่เลย

ตอนเย็นเราออกไปเดินเมืองโบราณ "สือชี่โข่ว" (Ancient Town of Ciqikou) โดยการโบกแท็กซี่จากที่พักไปขึ้นรถไฟฟ้า ลงสถานี Ci Qi Kou  ออก Exit 1 เดินไปไม่นานก็ถึงเมืองโบราณ ที่นี่ก็จะมีขายของกิน เครื่องดื่ม ของที่ระลึกตลอดทาง

ร้านนี้ขายอาหารเส้น มีโชว์ตีแป้งอยู่หน้าร้าน เราชื่นชอบลีลาคุณลุงก็เลยแวะร้านนี้เลย 555
ก๋วยเตี๋ยวเครื่องในไก่แบบเผ็ด เส้นหนึบๆ มาก เส้นอร่อย แต่น้ำซุปคือ เผ็ด ชา ไม่ค่อยมีรสชาติอื่นๆ

เรานั่งรถไฟฟ้าไปลง Jiefangbei Square ต่อ ย่านนี้จะมี shop brand name หลายๆ ร้าน อารมณ์คล้ายๆ ย่าน Siam บ้านเรา

แวะร้านปิ้งย่างหม่าล่าตรงทางลงสถานีรถไฟฟ้า มีเนื้อสัตว์หลายอย่างเลย

วันที่ 2 Daocheng
เราตื่นแต่เช้าขึ้นแท็กซี่ไปสนามบินเพื่อจะบินไปลง Daocheng ซึ่งก็ต้องเผื่อเวลาสื่อสารกับแท็กซี่ที่จะไปสนามบินนิดนึง จากนั้นก็ขึ้นเครื่องสายการบิน Sichuan Airlines ที่จองผ่าน website จากเมืองไทยไป

สนามบินที่ Daocheng สูงจากระดับน้ำทะเล 4,411 ม. เนื่องจากเราบินขึ้นไปพื้นที่สูงอย่างรวดเร็วเลยทำให้เพื่อนร่วมทริปบางคนมีอาการวิงเวียน อาเจียน วูบจากการแพ้ที่สูง ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่สนามบินก็ให้การช่วยเหลือ ปฐมพยาบาลดีมาก พยายามใช้แอพแปลภาษาเพื่อสื่อสารคำถามเป็นภาษาไทยกับพวกเรา

เราเหมารถทั้งหมด 2 คัน เพื่อไปลงที่ทางเข้าที่ย่าติง ที่ต้องใช้ 2 คันก็เพราะว่าเฮียคนขับรถคันแรกบอกเราว่าไม่สามารถไปส่งถึงย่าติง ก็เลยติดต่อหารถที่จะไปส่งให้เราอีกคัน สุดท้ายเราตัดสินใจนอนที่ปากทางเข้าย่าติง

ที่พักของเรามีเตียงไฟฟ้า ราคาห้องละเท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว แต่รู้ว่าถูกมาก ชั้นล่างจะเป็นร้านอาหาร
อาหารที่เราสั่งกินจากที่พัก เป็นอาหารเซตใหญ่ อร่อย ไม่แพงด้วย

โยเกิร์ตจามรี มีหลายรส มีความมัน เข้มข้น อร่อยมาก ขวดละ 5 หยวน

ร้านหม่าล่าที่ย่าติงมั่ง

วันที่ 3-4 Yading
วันนี้เรานั่งรถบัสจากหน้าที่พักเข้าย่าติง ค่ารถบัสคนละ 5 หยวน พอมาถึงก็เสียค่าเข้าอุทยานคนละ 285 หยวน เป็นราคารวมรสบัสที่จะใช้ในอุทยานแล้ว

เราได้ที่พักคืนละ 130 หยวน/คืน สำหรับ 2 คน สภาพห้องพักก็ดีมาก มีโถส้วมแบบชักโครกไม่ต้องขาแข็งเวลานั่ง 5555 เรานอนที่นี่กัน 2 คืน

วันนี้เราเดินขึ้นกันแบบชิลๆ ไปดูวัด และทะเลสาบไข่มุก แล้วกลับที่พัก

ทะเลสาบไข่มุก

กระรอกที่นี่เชื่องมาก มาเล่นกับเราที่ศาลาพักระหว่างทาง

อาหารเย็นของเรา ซึ่งคุณลุงเจ้าของที่พักแนะนำให้ไปกินที่บ้านของลุงเลย ได้ชมการทำอาหารแบบใกล้ชิด open kitchen เลยทีเดียว

วันที่ 4
วันนี้เป็นการเดินแบบจริงจังแล้ว เราออกจากที่พักสายหน่อย เนื่องจากมีอาการมึน ลุกไม่ขึ้นจากการแพ้ที่สูง แล้วเราก็ออกเดินทาง ซึ่งวันนี้จะต้องนั่งรถบัสขึ้นไปอีกหน่อย หลังจากนั้นเราจะต้องออกเดินทางกันแบบจริงจัง


เดินๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พอเดินไปได้ค่อนทางจะถึงทะเลสาบน้ำนม ก็มีหิมะตกลงมาตลอดทาง ยิ่งสูงก็ยิ่งลมแรงขึ้นและหิมะลงหนาขึ้น

เราซื้ออาหารกล่องแบบเติมน้ำแล้วกินได้เลยขึ้นมาเพราะเราต้องเดินที่นี่เกือบทั้งวัน ไม่มีร้านอาหารขาย ต้องพกน้ำ ขนม อาหารมาให้พร้อม

จุด highlight ของวันนี้คือ ทะเลสาบน้ำนม ของจริงสวยมาก น้ำใสแจ๋ว แต่พอไปถึงแทบไม่มีอารมณ์จะถ่ายรูป เพราะลมแรงมาก

เราเดินกันอยู่เกือบทั้งวัน เดินเสร็จประมาณ 6 โมงเย็น หมดแรง ใช้พลังงานเยอะมาก
วันนี้เราก็ยังมีอาการวิงเวียนกันอยู่ เลยไม่ได้ออกไปกินข้าวเย็นกัน อาศัยของกินที่เตรียมมากินในห้องนอนเลย

วันที่ 5 Daocheng
เรานั่งรถบัสกลับมาหน้าอุทยาน แวะทานข้าวแบบเดิมที่ที่พักเดิมแล้วเหมารถเข้าพักหน้าอุทยานมาที่เมือง Daocheng เพื่อแวะพักชุบตัว 1 คืน หลังจากที่ไปตรากตรำเดินที่ย่าติงมา 5555

ที่พักหน้าอุทยานของอาเฮียนี่ก็ให้บริการแบบ all in service เลย ไม่ว่าจะเป็นที่พัก อาหาร รถโดยสาร อาเฮียมีครบ อาเฮียช่วยขับรถวนหาที่พักที่  Daocheng  ให้ด้วย ในที่สุดก็ได้ที่พักซึ่งห้องพักน่ารักมากๆ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 2 คน คืนละ 130 หยวนเอง

ที่พักมีบริการพาไปซื้อตั๋วรถบัสไป Kangding และวันรุ่งขึ้นก็พาเรามาส่งขึ้นรถบัสแต่เช้าอีกด้วย (คนจีนที่เราเจอมานี่มีแต่คนใจดีทุกคนเลย)

จริงๆ อยากพักห้องนี้แต่เค้ายังทำความสะอาดไม่เสร็จ

บรรยากาศรอบๆ เมือง

วันที่ 6-7 Kangding
เรามาขึ้นรถบัสกันแต่เช้ามากกกก ประมาณตี 5 กว่า ซึ่งวันนี้เราจะนั่งรถไปเมือง Kangding ใช้เวลาประมาณ 9 ชม. เราใช้ชีวิตทั้งวันอยู่บนรถบัส หลับแล้วหลับอีก ระหว่างทางมีหิมะตกตลอดทาง รถบัสจะแวะให้เข้าห้องน้ำตามข้างทาง ซึ่งก็เป็นห้องน้ำแบบจีนแท้

ในที่สุดเราก็ถึง หลังจากทนเมื่อยก้นกันมาแบบยาวนาน เรามาถึงเมือง Kangding และเดินหาที่พักกันอยู่หลายเจ้า จนในที่สุดก็ได้ห้องพักของเจ่เจ้ที่มายืนเรียกลูกค้าริมถนน 100 หยวน/คืน 2 คน
เราหาร้านอาหารใกล้ๆ อพาร์ทเม้นท์ ฝากท้องทุกมื้อเลย เป็นร้านเกี๊ยว ก๋วยเตี๋ยว โจ๊ก