สวัสดีค่ะทุกคนที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ คือเรื่องมันเป็นมาอย่างนี้ค่ะ
....
วันนี้เราตัดสินใจเดินเข้าช็อปของกุชชี่ครั้งแรกค่ะ หลังจากที่เดินเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายครั้ง เราเริ่มชื่นชอบกุชชี่ตั้งแต่ที่เขาเริ่มรีแบรนด์ตัวเองใหม่อะค่ะ(ไม่แน่ใจว่าใช้คำว่ารีแบรนด์ได้รึเปล่านะ) ก็ตั้งแต่ที่เสื้อและรองเท้าผ้าใบกุชชี่ดังๆประมาณนั่นแหละค่ะ แล้วเมื่อหลายวันก่อนเราเห็นแฟชั่นสนามบินของวงwannaone แล้วเราเห็นแดเนียลใส่แจ็กเก็ตกุชชี่ วันนี้เราเลยลองเดินเข้าไปดูสักหน่อย อยากรู้ราคาไรงี้ค่ะ แล้วคือเห็นกระเป๋าแบบคาดตัวจากไอจีของพี่โทนี่ รากแก่นด้วย ก็เลยอยากทราบราคาด้วย พอเราเดินเข้าร้าน เราก็เดินไปดูๆจับๆตามประสาอะค่ะ ก็พลิกดูป้ายราคาทุกตัว/ใบที่จับเลย ด้วยความอยากรู้อยากเห็นนั่นเอง แล้วพี่พนักงานเขาก็เข้ามาถามค่ะว่า “มีอะไรให้ช่วยไหมคะ สนใจแบบไหน อยากดูคอลเลคชั่นอะไรรึเปล่า” เราก็ตอบว่า “มาดูเฉยๆค่ะ ขอเดินดูก่อน” ทำนองนี้ พี่เขาก็ท่าทางดูสงสัยในตัวเรามากเลยค่ะ เขาก็ถามแบบเดิมเป็นครั้งที่สอง เราก็ตอบเหมือนเดิมค่ะ พอเราหยิบกระเป๋าขึ้นมาดู พี่เขาก็เข้ามาแล้วเชิญเราออกจากโซนกระเป๋า พร้อมบอกว่า “ตรงนี้เป็นที่ของพนักงานนะคะ ถ้าอยากดูเดี๋ยวหยิบให้” เราก็งงนิดหน่อยแต่ไม่เข้าใจมากๆค่ะ55 เพราะว่าตอนแรกก็ดูได้นะ ทำไมอยู่ๆเชิญออกมา เราก็เริ่มเซ็งนิสนุงเพราะว่าพอเราจะรูดซิปกระเป๋า พี่เขาก็เอามือเข้ามาแทรกเพื่อรูดให้ เราเลยปล่อย แล้วพี่เขาก็ถามว่าจะสะพายไหม เราก็บอกไม่เป็นไรแล้วเดินมาที่มุมรองเท้า พี่เขาก็เดินตามมาและถามอีกว่า “อยากดูคอลเลคชั่นไหน ตรงนี้มุมรองเท้าผู้ชาย ของผู้หญิงอยู่มุมนู้นนะคะ” เราก็หันไปตอบว่า”ขอดูก่อนนะคะจะดูเฉยๆค่ะ” พี่เขาก็ยังคงทำหน้าฉงนใส่เราค่ะ เราก็เลยเปลี่บนมุมไปเดินดูมุมเสื้อผ้าผู้หญิง ท่าทางเราก็เดินดูๆจับๆลูบๆแล้วก็พลิกป้ายราคาค่ะ ท่าทางคงเด๋อมากๆใช่ไหมล่ะคะ555 แต่เราว่ามันก็ท่าทางเดินซื้อเสื้อผ้าทั่วไปรึเปล่า คือไม่รู้สิ ปกติเราเดินแต่จตุจักรอะ แล้วคือเราก็เห็นคนทั่วไปก็ทำงี้ มันก็ปกตินะ ทุกคนก็มีท่าทางของตัวเอง หรือว่าพอมาทำในร้านไฮเอนด์แล้วมันแปลกหรอ แค่สงสัยนะ5555 ขณะที่กำลังดูอยู่ พี่พนักงานผู้หญิงคนนี้ก็ยังไม่ลดละ เดินมาถามเราอีกว่า”ลูกค้าสนใจคอลเลคชั่นไหนเป็นพิเศษรึเปล่าคะ เห็นพลิกดูราคาทุกตัวเลย” ใจความประมาณนี้ เราก็ตอบแบบเดิมแหละ “ดูเฉยๆค่ะ” พี่เขาก็ยังคงฉงน “ดูเฉยๆ? สนใจคอลเลคชั่นไหนเป็นพิเศษรึเปล่าคะ” เราก็เลยถามกลับไปว่า “ดูเฉยๆไม่ได้หรอคะ (ยิ้มแบบสีหน้าธรรมดา)” พี่เขาก็เหมือนจะเก็ทและก็หยุดถาม จังหวะเดียวกันกับที่ลูกค้าชาวจีนมีปัญหาเรื่องบัตร พี่เขาเลยหายไปจัดการ แล้วเราดูเสร็จก็เดินออกจากร้านไป
** ในประโยคสนทนาจะใจความประมาณนี้นะคะ ไม่ได้พิมพ์เป้ะมาก เราเป็นคนความจำสั้นค่ะ แต่เนื้อหาที่พิมพ์ครบถ้วนค่ะ**
....
คือเราสงสัย แบบงงๆอะ เราไม่เคยเข้าช็อปแบรนด์ไฮเอนด์ที่ต่างประเทศนะ แต่ว่าการที่พนักงานขายปฏิบัติกับลูกค้าแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติรึเปล่าอะ ประมาณว่าstandardของแบรนด์ไฮเอนด์รึเปล่า ทำไมเราถึงรู้สึกว่าพนักงานที่อเมริกาเขาไม่เห็นเซ้าซี้แบบนี้เลย แล้วการที่มาดูเฉยๆนี่มันแปลกหรอคะ555 การที่เราเข้าร้านไฮเอนด์แปลว่าเราต้องมีสินค้าในใจตลอดเลยหรอ ตลกดีอะ ตลกตรงที่แบบเขาถามเราซ้ำๆจนเรารำคาญนี่แหละ เราเคยเดินเคาน์เตอร์แบรนด์เครื่องสำอางค์ พี่พนักงานก็ถามนะ “สนใจอะไรถามได้นะคะ” เราก็บอกว่า”ขอดูก่อนนะคะ” อืมเขาก็ไม่ยุ่งนะ แต่ทำไมนะ... ทำไมกัน... เรางงค่ะ เราไม่ได้ต่อว่าพี่พนักงานช็อปกุชชี่นะคะ เราแค่สงสัยเฉยๆ ครั้งต่อไปถ้าเราเข้าช็อป เราจะได้เตรียมตัวถูกค่ะ คือเราจะบอกว่าการที่เดินเข้าช็อปแบรนด์ไฮเอนด์เป็นอะไรที่ท้าทายมากเลยนะคะ กว่าการที่คนคนนึง(เรา)จะรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปได้อะ เรากังวลนะ เราเป็นแค่นักศึกษาไง(แต่วันที่เราไปเราใส่ชุดไปรเวทค่ะ แต่ก็เรียบร้อยนะคะ ไม่ได้ลากแตะ) เอาจริงเราทำใจกับพวกสายตาว่าจะโดนมองว่ามีเงินหรอ ถึงกล้าเดินเข้าช็อปหรูๆแบบนี้ ต่างๆนานา เกร็งไปหมด ละพอเจอพี่พนักงานคนนี้ ทุกอย่างเป็นเหมือนที่คิดเลย แต่แปลกที่เรานิ่งไม่ตื่นตูม555 เรารู้สึกว่าการเดินช็อปแบบนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมาก ตอนเด็กแค่เดินไปขอซอสมะเขือเทศก็เขินจนจะบ้าแล้ว ถ้าใครอยากลองทดสอบความกล้าในใจตัวเองและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เราแนะนำเลยค่ะ เดินเข้าช็อปไฮเอนด์ เลือกห้างแพงๆคนเงียบๆ ยิ่งดีค่ะ ถ้าเราผ่านมาได้เราจะแกร่งขึ้นค่ะ555 เว่อร์มั้ย แต่ถ้าลองดูก็ได้นะคะ มาแชร์ให้เราฟังก็ได้
...
เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกนะคะ ถ้าผิดพลาดหรือยาวไปก็ขออภัยด้วยค่ะ สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้อย่างเสรีเลยนะคะ คนเด๋อๆอย่างเราอยากได้ความรู้เพิ่มค่ะ แต่อ่อนโยนหน่อยนะคะ คำพูดที่รุนแรง บางทีใจดวงน้อยๆของเราก็รับไม่ไหวค่ะ <3
ประสบการณ์เดินเข้าช็อปGUCCIครั้งแรก
....
วันนี้เราตัดสินใจเดินเข้าช็อปของกุชชี่ครั้งแรกค่ะ หลังจากที่เดินเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายครั้ง เราเริ่มชื่นชอบกุชชี่ตั้งแต่ที่เขาเริ่มรีแบรนด์ตัวเองใหม่อะค่ะ(ไม่แน่ใจว่าใช้คำว่ารีแบรนด์ได้รึเปล่านะ) ก็ตั้งแต่ที่เสื้อและรองเท้าผ้าใบกุชชี่ดังๆประมาณนั่นแหละค่ะ แล้วเมื่อหลายวันก่อนเราเห็นแฟชั่นสนามบินของวงwannaone แล้วเราเห็นแดเนียลใส่แจ็กเก็ตกุชชี่ วันนี้เราเลยลองเดินเข้าไปดูสักหน่อย อยากรู้ราคาไรงี้ค่ะ แล้วคือเห็นกระเป๋าแบบคาดตัวจากไอจีของพี่โทนี่ รากแก่นด้วย ก็เลยอยากทราบราคาด้วย พอเราเดินเข้าร้าน เราก็เดินไปดูๆจับๆตามประสาอะค่ะ ก็พลิกดูป้ายราคาทุกตัว/ใบที่จับเลย ด้วยความอยากรู้อยากเห็นนั่นเอง แล้วพี่พนักงานเขาก็เข้ามาถามค่ะว่า “มีอะไรให้ช่วยไหมคะ สนใจแบบไหน อยากดูคอลเลคชั่นอะไรรึเปล่า” เราก็ตอบว่า “มาดูเฉยๆค่ะ ขอเดินดูก่อน” ทำนองนี้ พี่เขาก็ท่าทางดูสงสัยในตัวเรามากเลยค่ะ เขาก็ถามแบบเดิมเป็นครั้งที่สอง เราก็ตอบเหมือนเดิมค่ะ พอเราหยิบกระเป๋าขึ้นมาดู พี่เขาก็เข้ามาแล้วเชิญเราออกจากโซนกระเป๋า พร้อมบอกว่า “ตรงนี้เป็นที่ของพนักงานนะคะ ถ้าอยากดูเดี๋ยวหยิบให้” เราก็งงนิดหน่อยแต่ไม่เข้าใจมากๆค่ะ55 เพราะว่าตอนแรกก็ดูได้นะ ทำไมอยู่ๆเชิญออกมา เราก็เริ่มเซ็งนิสนุงเพราะว่าพอเราจะรูดซิปกระเป๋า พี่เขาก็เอามือเข้ามาแทรกเพื่อรูดให้ เราเลยปล่อย แล้วพี่เขาก็ถามว่าจะสะพายไหม เราก็บอกไม่เป็นไรแล้วเดินมาที่มุมรองเท้า พี่เขาก็เดินตามมาและถามอีกว่า “อยากดูคอลเลคชั่นไหน ตรงนี้มุมรองเท้าผู้ชาย ของผู้หญิงอยู่มุมนู้นนะคะ” เราก็หันไปตอบว่า”ขอดูก่อนนะคะจะดูเฉยๆค่ะ” พี่เขาก็ยังคงทำหน้าฉงนใส่เราค่ะ เราก็เลยเปลี่บนมุมไปเดินดูมุมเสื้อผ้าผู้หญิง ท่าทางเราก็เดินดูๆจับๆลูบๆแล้วก็พลิกป้ายราคาค่ะ ท่าทางคงเด๋อมากๆใช่ไหมล่ะคะ555 แต่เราว่ามันก็ท่าทางเดินซื้อเสื้อผ้าทั่วไปรึเปล่า คือไม่รู้สิ ปกติเราเดินแต่จตุจักรอะ แล้วคือเราก็เห็นคนทั่วไปก็ทำงี้ มันก็ปกตินะ ทุกคนก็มีท่าทางของตัวเอง หรือว่าพอมาทำในร้านไฮเอนด์แล้วมันแปลกหรอ แค่สงสัยนะ5555 ขณะที่กำลังดูอยู่ พี่พนักงานผู้หญิงคนนี้ก็ยังไม่ลดละ เดินมาถามเราอีกว่า”ลูกค้าสนใจคอลเลคชั่นไหนเป็นพิเศษรึเปล่าคะ เห็นพลิกดูราคาทุกตัวเลย” ใจความประมาณนี้ เราก็ตอบแบบเดิมแหละ “ดูเฉยๆค่ะ” พี่เขาก็ยังคงฉงน “ดูเฉยๆ? สนใจคอลเลคชั่นไหนเป็นพิเศษรึเปล่าคะ” เราก็เลยถามกลับไปว่า “ดูเฉยๆไม่ได้หรอคะ (ยิ้มแบบสีหน้าธรรมดา)” พี่เขาก็เหมือนจะเก็ทและก็หยุดถาม จังหวะเดียวกันกับที่ลูกค้าชาวจีนมีปัญหาเรื่องบัตร พี่เขาเลยหายไปจัดการ แล้วเราดูเสร็จก็เดินออกจากร้านไป
** ในประโยคสนทนาจะใจความประมาณนี้นะคะ ไม่ได้พิมพ์เป้ะมาก เราเป็นคนความจำสั้นค่ะ แต่เนื้อหาที่พิมพ์ครบถ้วนค่ะ**
....
คือเราสงสัย แบบงงๆอะ เราไม่เคยเข้าช็อปแบรนด์ไฮเอนด์ที่ต่างประเทศนะ แต่ว่าการที่พนักงานขายปฏิบัติกับลูกค้าแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติรึเปล่าอะ ประมาณว่าstandardของแบรนด์ไฮเอนด์รึเปล่า ทำไมเราถึงรู้สึกว่าพนักงานที่อเมริกาเขาไม่เห็นเซ้าซี้แบบนี้เลย แล้วการที่มาดูเฉยๆนี่มันแปลกหรอคะ555 การที่เราเข้าร้านไฮเอนด์แปลว่าเราต้องมีสินค้าในใจตลอดเลยหรอ ตลกดีอะ ตลกตรงที่แบบเขาถามเราซ้ำๆจนเรารำคาญนี่แหละ เราเคยเดินเคาน์เตอร์แบรนด์เครื่องสำอางค์ พี่พนักงานก็ถามนะ “สนใจอะไรถามได้นะคะ” เราก็บอกว่า”ขอดูก่อนนะคะ” อืมเขาก็ไม่ยุ่งนะ แต่ทำไมนะ... ทำไมกัน... เรางงค่ะ เราไม่ได้ต่อว่าพี่พนักงานช็อปกุชชี่นะคะ เราแค่สงสัยเฉยๆ ครั้งต่อไปถ้าเราเข้าช็อป เราจะได้เตรียมตัวถูกค่ะ คือเราจะบอกว่าการที่เดินเข้าช็อปแบรนด์ไฮเอนด์เป็นอะไรที่ท้าทายมากเลยนะคะ กว่าการที่คนคนนึง(เรา)จะรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปได้อะ เรากังวลนะ เราเป็นแค่นักศึกษาไง(แต่วันที่เราไปเราใส่ชุดไปรเวทค่ะ แต่ก็เรียบร้อยนะคะ ไม่ได้ลากแตะ) เอาจริงเราทำใจกับพวกสายตาว่าจะโดนมองว่ามีเงินหรอ ถึงกล้าเดินเข้าช็อปหรูๆแบบนี้ ต่างๆนานา เกร็งไปหมด ละพอเจอพี่พนักงานคนนี้ ทุกอย่างเป็นเหมือนที่คิดเลย แต่แปลกที่เรานิ่งไม่ตื่นตูม555 เรารู้สึกว่าการเดินช็อปแบบนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมาก ตอนเด็กแค่เดินไปขอซอสมะเขือเทศก็เขินจนจะบ้าแล้ว ถ้าใครอยากลองทดสอบความกล้าในใจตัวเองและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เราแนะนำเลยค่ะ เดินเข้าช็อปไฮเอนด์ เลือกห้างแพงๆคนเงียบๆ ยิ่งดีค่ะ ถ้าเราผ่านมาได้เราจะแกร่งขึ้นค่ะ555 เว่อร์มั้ย แต่ถ้าลองดูก็ได้นะคะ มาแชร์ให้เราฟังก็ได้
...
เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกนะคะ ถ้าผิดพลาดหรือยาวไปก็ขออภัยด้วยค่ะ สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้อย่างเสรีเลยนะคะ คนเด๋อๆอย่างเราอยากได้ความรู้เพิ่มค่ะ แต่อ่อนโยนหน่อยนะคะ คำพูดที่รุนแรง บางทีใจดวงน้อยๆของเราก็รับไม่ไหวค่ะ <3