http://uat.points-redemption.marriott.com/redemption%20http://uat.points-redemption.marriott.com/redemption
เท่าที่ดูคร่าวๆ สาวก marRIOTt อาจจะต้องมีบ่น เพราะหลายๆ property ยอดฮิต ต้องใช้ point แลกมากขึ้น แถม travel package ก็ใช้ point แลกเยอะขึ้นมากเช่นกัน
ผมเองเป็นสาย SPG ดั้งเดิม รู้สึกไม่ค่อยมีผลเพราะมี point ไม่เยอะ และไม่ค่อยได้ใช้ point เอาไว้ redeem free night เท่าไหร่ (แต่ก็อยากให้ในไทย มีบัตรเครดิตที่เป็น co-brand กับพวก hotel chain เหมือนต่างประเทศบ้าง จะได้กระหน่ำเก็บ point ได้เยอะๆ)
สังเกตว่า New Category 8 (Category สูงสุด ที่จะเริ่มใช้ปี 2019) เป็น SPG property เดิมถึง 49 โรงแรมจากทั้งหมด 61 โรงแรม ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เพราะ SPG มีโรงแรมระดับ Hi-end มากกว่า marRIOTt (Ritz-Carlton ติดโผมา 10 โรงแรม Edition 1 โรงแรม และ Autograph Collection 1 โรงแรมแค่นั้น)
ลองดู Category 7 ก็จะเป็นลักษณะเดียวกัน เป็น SPG property เดิมถึง 96 โรงแรมจากทั้งหมด 150 โรงแรม
เรียกได้ว่า แทบจะ mapping category ของ SPG มาทั้งดุ้น ก็รู้สึกเบาใจขึ้นเล็กน้อย ที่ Marriott adopt เอาระบบของ SPG มาใช้มากขนาดนี้ใน New Combined Loyalty Program
ส่วน property ในไทย โรงแรมที่ใช้ point ลดลง มีมากกว่า โรงแรมที่ใช้ point เพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ที่ผม surprise ปน shock ก็คือ Le Meridien Chiang Mai ที่พุ่งไปอยู่ที่ Category 5 (ระดับเดียวกับ St. Regis Bangkok กันเลยทีเดียว) นึกถึงสมัยก่อนที่เคยอยู่แค่ SPG Category 2 ใช้แค่ 4000 Starpoints (=12000 Marriott Rewards points) แต่หลังสิงหาคมนี้ ต้องใช้ถึง 35000 Points ถึงจะแลก free night ได้ แพงขึ้นมาเกือบ 3 เท่า!!!
ส่วนตัวผมเล็งจะทุ่ม starpoints ทั้งหมดที่เหลืออยู่ แลกพวก future category 8 เพราะถ้าจองภายใน 2018 นี้ จะใช้แค่ 60000 Points/nights หรือ 240000 Points ได้ 5 คืน (fifth night free) แต่ก็กลัวว่าจะไม่มี availability เหลือ เพราะใครๆ ต่างก็จ้องจะแลกกันทั้งนั้น
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ มี plan ใดๆ กับระบบใหม่ของ SPG+marRIOTt กันบ้างครับ
[SPG+marRIOTt] New Award Category ที่เพิ่งประกาศออกมา (เริ่มใช้สิงหาคมนี้) เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
เท่าที่ดูคร่าวๆ สาวก marRIOTt อาจจะต้องมีบ่น เพราะหลายๆ property ยอดฮิต ต้องใช้ point แลกมากขึ้น แถม travel package ก็ใช้ point แลกเยอะขึ้นมากเช่นกัน
ผมเองเป็นสาย SPG ดั้งเดิม รู้สึกไม่ค่อยมีผลเพราะมี point ไม่เยอะ และไม่ค่อยได้ใช้ point เอาไว้ redeem free night เท่าไหร่ (แต่ก็อยากให้ในไทย มีบัตรเครดิตที่เป็น co-brand กับพวก hotel chain เหมือนต่างประเทศบ้าง จะได้กระหน่ำเก็บ point ได้เยอะๆ)
สังเกตว่า New Category 8 (Category สูงสุด ที่จะเริ่มใช้ปี 2019) เป็น SPG property เดิมถึง 49 โรงแรมจากทั้งหมด 61 โรงแรม ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เพราะ SPG มีโรงแรมระดับ Hi-end มากกว่า marRIOTt (Ritz-Carlton ติดโผมา 10 โรงแรม Edition 1 โรงแรม และ Autograph Collection 1 โรงแรมแค่นั้น)
ลองดู Category 7 ก็จะเป็นลักษณะเดียวกัน เป็น SPG property เดิมถึง 96 โรงแรมจากทั้งหมด 150 โรงแรม
เรียกได้ว่า แทบจะ mapping category ของ SPG มาทั้งดุ้น ก็รู้สึกเบาใจขึ้นเล็กน้อย ที่ Marriott adopt เอาระบบของ SPG มาใช้มากขนาดนี้ใน New Combined Loyalty Program
ส่วน property ในไทย โรงแรมที่ใช้ point ลดลง มีมากกว่า โรงแรมที่ใช้ point เพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ที่ผม surprise ปน shock ก็คือ Le Meridien Chiang Mai ที่พุ่งไปอยู่ที่ Category 5 (ระดับเดียวกับ St. Regis Bangkok กันเลยทีเดียว) นึกถึงสมัยก่อนที่เคยอยู่แค่ SPG Category 2 ใช้แค่ 4000 Starpoints (=12000 Marriott Rewards points) แต่หลังสิงหาคมนี้ ต้องใช้ถึง 35000 Points ถึงจะแลก free night ได้ แพงขึ้นมาเกือบ 3 เท่า!!!
ส่วนตัวผมเล็งจะทุ่ม starpoints ทั้งหมดที่เหลืออยู่ แลกพวก future category 8 เพราะถ้าจองภายใน 2018 นี้ จะใช้แค่ 60000 Points/nights หรือ 240000 Points ได้ 5 คืน (fifth night free) แต่ก็กลัวว่าจะไม่มี availability เหลือ เพราะใครๆ ต่างก็จ้องจะแลกกันทั้งนั้น
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ มี plan ใดๆ กับระบบใหม่ของ SPG+marRIOTt กันบ้างครับ