คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 27
จาก Clip ที่ Gunner Wade ทดสอบ Suppressor นี่นะครับ
พอค้นๆข้อมูลแล้ว ก็พบว่าเป็นที่ถกเถียงกันมากในวงการ US Marine เหมือนกัน
จะสรุปประเด็นหลักๆก่อนนะครับ
1. Suppressorติดแล้วเพิ่ม ความเร็วปากลำกล้องของกระสุนได้อย่างไร
คำตอบคือ จ่า Wade แกซ่อนมุกไว้ที่การเปลี่ยนอุปกรณ์ปืนบางอย่างครับ(น่าจะเป็น Gas Carrier) ที่แกเปลี่ยนก่อนทำการทดสอบการยิงด้วย Suppressor ครับ จากคลิป นาที 0.31 จะเห็น Suppressor + magazine + Gas Carrier วางไว้บนลังไม้ แต่แกก็พูดถูกนะครับ แกยิงปืนกระบอกเดิม ลำกล้องเดิม และ กระสุนเดิม (แต่เปลี่ยนอะไรบางอย่าง)
2. Suppressorติดแล้วเพิ่มความแม่นยำเนื่องจากกลุ่มกระสุนแคบลง
คำตอบคือ จ่าแกซ่อนมุกไว้ 2 อย่าง อย่างแรกคือระยะยิงที่สั้นประมาณ 50 เมตร ซึ่งจาก comment ที่อ่านของ US Marine คนอื่นเค้าให้ความเห็นว่าระยะมันสั้นไป หากนับระยะหวังผลที่ 400-500 หลา ก็ถือว่าปกติ ทำไม?หรือครับ ก็เพราะความเร็วปากลำกล้องมันไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายอย่างมีนัยยะสำคัญ (ไม่น่าจะเกิน 20 FPS) และเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น วิถีกระสุนก็ราบเรียบขึ้น กลุ่มที่ระยะสั้นๆ จึงดูแน่นขึ้น แต่เมื่อวิ่งผ่านไปที่ 400-500 หลาก็ตกลงมาที่ประมาณ 12 นิ้วใกล้ๆกัน ก็เลยถือว่าไม่แตกต่าง และ มุกที่สองที่จ่าแกใช้ ก็คือปืนที่แกทดสอบเป็น Model MK18 (ปืนแต่ง)ซึ่งน่าจะเป็นปืนของแกเอง ไม่ได้เป็นปืนประจำการ M4 เหมือนในคลิปช่วง 0.09 นาที
3. Suppressor ติดแล้วลดแรงรีคอยล์ อันนี้ไม่แน่ใจครับ
ตามหลักฟิสิกส์ที่ Cooper กล่าวไว้กับ Dr.Brand "Newton's third law. You've got to leave something behind" เมื่อเราต้องการให้กระสุนพุ่งไปข้างหน้าเร็วขึ้น มันก็ต้องแลกกับการส่งอะไรบางอย่างที่เท่ากันพุ่งไปข้างหลังใช่มั้ยครับ จากที่อ่าน Comment มา ปืนที่ติด Suppressor มา พวก Marine พบว่าปืนเหล่านี้จะมีระบบ Self Cleaning ( Out of you face) เนื่องจากแรงดันแก๊สที่ถูกอั้นไว้ใน Suppressor จะ Blow back ย้อนกลับมาในตัวปืน ซึ่งจะนำพาสิ่งสกปรกต่าง, คราบน้ำมัน, เขม่า ติดออกมาด้วย ซึ่งปกติมันจะปลิวออกจากช่องคายปลอกมาติดที่หน้าของคนยิง ซึ่งแรงดันนี้จะสูงกว่าปกติและมันจะส่งผลถึงอายุชิ้นส่วนของปืนที่สั้นลง และ เพิ่มรอบการทำความสะอาดให้ถี่ขึ้น จากคลิปช่วงต้นที่นาที 0.09 และ นาที 0.18 จะสังเกตุเขม่าที่ออกมามากก็ปกติ ซึ่งจริงแล้ว M4 อาจจะติด Silencer + Sub sonic ammo ทำให้เสียงเบากว่า, เขม่าน้อยกว่า, เหมือนแรงรีคอยล์จะน้อยกว่านะครับ แต่ที่แน่ๆ MK18 ของจ่าให้กระสุนปืนปกติครับ ผมไม่แน่ใจว่าชิ้นส่วนอุปกรณ์ปืนที่เปลี่ยน เค้าเปลี่ยนเพื่อเพิ่ม Inertia หน่วงแก๊สให้ดันกระสุนให้นานขึ้น หรือ เพิ่มปริมาณแก๊สย้อนกลับไว้ดัน Gas Piston เพื่อลดแรงรีคอยส์
4. Suppressor ติดแล้วลดเสียงที่ปลายกระบอกปืน อันนี้จริงครับ แต่มันลดลงได้เท่าไหร่ละ
ฟันธงเลยว่า ถ้าใช้กระสุนมาตรฐาน หรือ High Velocity กับ Suppressor มันจะลดเสียงลงไปบ้าง แต่ถ้าอยากให้เงียบกว่านั้น ต้องใช้ กระสุน Sub sonic ครับ (ดึกแล้ว ง่วงนอนครับ)
จริงๆแล้วคลิปที่จ่า Wade แกทำขึ้นมาเผยแพร่ เนื่องมาจากแกทำโครงการให้ US Marine ในส่วนกลยุทธการรบโดยใช้ Suppressor ที่มีการศึกษาไปถึงการใช้ปืนกลต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสได้เปรียบจากการตรวจจับได้ยาก และเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกันของทหาร ซึ่งจริงๆ US marine ก็มีอาวุธพวกนี้ประจำการอยู่นะครับ และก็มี Marine บางคนนำอุปกรณ์ส่วนตัวไปใช้เอง ซึ่งหลายคนก็เห็นดีเห็นงามกับจ่าแก และหลายคนก็ไม่ค่อยชอบแกสักเท่าไหร่ จากการอ่าน Comment พบว่าข้อด้อยของ Suppressor ที่ยังไม่สามารถเปลี่ยนได้คือ
1. ประสิทธิภาพจะลดลงไปมากเมื่อใช้ไป 1000-2000 นัด อาจะจะเป็นเรื่องความสะอาด ที่มีผลต่อการทำงานของปืนและทอนอายุชิ้นส่วนภายใน
2. ความร้อนที่เกิดขึ้นจากการอั้นแก๊ส ส่งผมให้เกิดภาพ Mirage เหนือลำกล้อง ทำให้เล็งเป้าเคลื่อนเมื่อมองผ่านกล้อง แต่ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการแต่งหรือเปลี่ยนกระโจมมือหน้า และ ความร้อนนี้จะทำให้ถูกจับภาพจากกล้องตรวจจับความร้อนได้ง่าย
3. ราคาแพง ซึ่งฝรั่งต่างจากบ้านเรา เค้ามองว่าเอาเงินก้อนนี้ไปปรับปรุงด้านอื่นดีกว่า
พอค้นๆข้อมูลแล้ว ก็พบว่าเป็นที่ถกเถียงกันมากในวงการ US Marine เหมือนกัน
จะสรุปประเด็นหลักๆก่อนนะครับ
1. Suppressorติดแล้วเพิ่ม ความเร็วปากลำกล้องของกระสุนได้อย่างไร
คำตอบคือ จ่า Wade แกซ่อนมุกไว้ที่การเปลี่ยนอุปกรณ์ปืนบางอย่างครับ(น่าจะเป็น Gas Carrier) ที่แกเปลี่ยนก่อนทำการทดสอบการยิงด้วย Suppressor ครับ จากคลิป นาที 0.31 จะเห็น Suppressor + magazine + Gas Carrier วางไว้บนลังไม้ แต่แกก็พูดถูกนะครับ แกยิงปืนกระบอกเดิม ลำกล้องเดิม และ กระสุนเดิม (แต่เปลี่ยนอะไรบางอย่าง)
2. Suppressorติดแล้วเพิ่มความแม่นยำเนื่องจากกลุ่มกระสุนแคบลง
คำตอบคือ จ่าแกซ่อนมุกไว้ 2 อย่าง อย่างแรกคือระยะยิงที่สั้นประมาณ 50 เมตร ซึ่งจาก comment ที่อ่านของ US Marine คนอื่นเค้าให้ความเห็นว่าระยะมันสั้นไป หากนับระยะหวังผลที่ 400-500 หลา ก็ถือว่าปกติ ทำไม?หรือครับ ก็เพราะความเร็วปากลำกล้องมันไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายอย่างมีนัยยะสำคัญ (ไม่น่าจะเกิน 20 FPS) และเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น วิถีกระสุนก็ราบเรียบขึ้น กลุ่มที่ระยะสั้นๆ จึงดูแน่นขึ้น แต่เมื่อวิ่งผ่านไปที่ 400-500 หลาก็ตกลงมาที่ประมาณ 12 นิ้วใกล้ๆกัน ก็เลยถือว่าไม่แตกต่าง และ มุกที่สองที่จ่าแกใช้ ก็คือปืนที่แกทดสอบเป็น Model MK18 (ปืนแต่ง)ซึ่งน่าจะเป็นปืนของแกเอง ไม่ได้เป็นปืนประจำการ M4 เหมือนในคลิปช่วง 0.09 นาที
3. Suppressor ติดแล้วลดแรงรีคอยล์ อันนี้ไม่แน่ใจครับ
ตามหลักฟิสิกส์ที่ Cooper กล่าวไว้กับ Dr.Brand "Newton's third law. You've got to leave something behind" เมื่อเราต้องการให้กระสุนพุ่งไปข้างหน้าเร็วขึ้น มันก็ต้องแลกกับการส่งอะไรบางอย่างที่เท่ากันพุ่งไปข้างหลังใช่มั้ยครับ จากที่อ่าน Comment มา ปืนที่ติด Suppressor มา พวก Marine พบว่าปืนเหล่านี้จะมีระบบ Self Cleaning ( Out of you face) เนื่องจากแรงดันแก๊สที่ถูกอั้นไว้ใน Suppressor จะ Blow back ย้อนกลับมาในตัวปืน ซึ่งจะนำพาสิ่งสกปรกต่าง, คราบน้ำมัน, เขม่า ติดออกมาด้วย ซึ่งปกติมันจะปลิวออกจากช่องคายปลอกมาติดที่หน้าของคนยิง ซึ่งแรงดันนี้จะสูงกว่าปกติและมันจะส่งผลถึงอายุชิ้นส่วนของปืนที่สั้นลง และ เพิ่มรอบการทำความสะอาดให้ถี่ขึ้น จากคลิปช่วงต้นที่นาที 0.09 และ นาที 0.18 จะสังเกตุเขม่าที่ออกมามากก็ปกติ ซึ่งจริงแล้ว M4 อาจจะติด Silencer + Sub sonic ammo ทำให้เสียงเบากว่า, เขม่าน้อยกว่า, เหมือนแรงรีคอยล์จะน้อยกว่านะครับ แต่ที่แน่ๆ MK18 ของจ่าให้กระสุนปืนปกติครับ ผมไม่แน่ใจว่าชิ้นส่วนอุปกรณ์ปืนที่เปลี่ยน เค้าเปลี่ยนเพื่อเพิ่ม Inertia หน่วงแก๊สให้ดันกระสุนให้นานขึ้น หรือ เพิ่มปริมาณแก๊สย้อนกลับไว้ดัน Gas Piston เพื่อลดแรงรีคอยส์
4. Suppressor ติดแล้วลดเสียงที่ปลายกระบอกปืน อันนี้จริงครับ แต่มันลดลงได้เท่าไหร่ละ
ฟันธงเลยว่า ถ้าใช้กระสุนมาตรฐาน หรือ High Velocity กับ Suppressor มันจะลดเสียงลงไปบ้าง แต่ถ้าอยากให้เงียบกว่านั้น ต้องใช้ กระสุน Sub sonic ครับ (ดึกแล้ว ง่วงนอนครับ)
จริงๆแล้วคลิปที่จ่า Wade แกทำขึ้นมาเผยแพร่ เนื่องมาจากแกทำโครงการให้ US Marine ในส่วนกลยุทธการรบโดยใช้ Suppressor ที่มีการศึกษาไปถึงการใช้ปืนกลต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสได้เปรียบจากการตรวจจับได้ยาก และเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกันของทหาร ซึ่งจริงๆ US marine ก็มีอาวุธพวกนี้ประจำการอยู่นะครับ และก็มี Marine บางคนนำอุปกรณ์ส่วนตัวไปใช้เอง ซึ่งหลายคนก็เห็นดีเห็นงามกับจ่าแก และหลายคนก็ไม่ค่อยชอบแกสักเท่าไหร่ จากการอ่าน Comment พบว่าข้อด้อยของ Suppressor ที่ยังไม่สามารถเปลี่ยนได้คือ
1. ประสิทธิภาพจะลดลงไปมากเมื่อใช้ไป 1000-2000 นัด อาจะจะเป็นเรื่องความสะอาด ที่มีผลต่อการทำงานของปืนและทอนอายุชิ้นส่วนภายใน
2. ความร้อนที่เกิดขึ้นจากการอั้นแก๊ส ส่งผมให้เกิดภาพ Mirage เหนือลำกล้อง ทำให้เล็งเป้าเคลื่อนเมื่อมองผ่านกล้อง แต่ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการแต่งหรือเปลี่ยนกระโจมมือหน้า และ ความร้อนนี้จะทำให้ถูกจับภาพจากกล้องตรวจจับความร้อนได้ง่าย
3. ราคาแพง ซึ่งฝรั่งต่างจากบ้านเรา เค้ามองว่าเอาเงินก้อนนี้ไปปรับปรุงด้านอื่นดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
ทำไมปืนทหารถึงไม่ติดปลอกลดเสียงให้หมดเลยละครับ
แต่ทหารธรรมดาทำไมไม่เห็นติดเลย
ผมว่ามันเป็นอุปกรสำคัญมากเลยนะครับ
ปืนทุกกระบอกน่าจะติดมาจากโรงงานเลย
เหมือนพวกศูนย์ปืนอะไรแบบนั้น