SUPER ปัจจัยพื้นฐานดี..แต่ราคาหุ้นไม่เป็นใจ (ที่มา หุ้นอินไซด์)

https://www.hooninside.com/news-feed/51198/view/

    ราคาหุ้น บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) ที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา โดยปัจจุบันราคาเคลื่อนไหวที่ 0.62 บาท/หุ้น จากราคาสูงสุดที่ 1.52 บาท/หุ้น หรือลดลงเกือบ 60% ค่าพี/อี เรโชว์ อยู่ที่ 12 เท่า ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานเทรดที่ค่า พี/อี เรโชว์ เกือบ 30 เท่า
    ถามว่าหุ้น SUPER น่าสนใจไหม ประเด็นนี้ก็ต้องถามใจนักลงทุนกลับแล้วละว่าท่านเป็นนักลงทุนระยะสั้น-ระยะกลาง หรือ ระยะยาว ถ้าเป็นนักลงทุน VI การร่วงลงอย่างรุนแรง
    ในรอบนี้ ถือเป็นไทม์มิ่งของการช้อปหุ้นดี พี/อี ต่ำเข้าพอร์ต  แต่สำหรับนักลงทุนประเภทเก็งกำไรระยะสั้น อาจมี “เกร็ง” เพราะไม่รู้ว่า ณ ระดับราคานี้สะเด็ดน้ำแล้วรึยัง?
    จุดหักเหสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้น SUPER ร่วงอย่างไม่เป็นท่า เท่าที่จับสังเกตุได้ทุกครั้งคือข่าวลือเรื่องไม่สามารถจัดตั้ง "กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Funds : IFF) ที่บริษัทฯประกาศว่าเตรียมออกและเสนอขายจำนวน 9,000 ล้านบาท  เพราะตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมาเผชิญกับโรคเลื่อนมาโดยตลอด เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ระหว่างการวงหลักเกณฑ์การจัดตั้งและกองทุนอินฟราฟันด์ฯ ก็เลื่อนมาตั้งแต่ปลายปี 2560  ซึ่งถ้าจะพูดกันตรงๆ ชัดๆ มันไม่ใช่ความผิดของบริษัท..ไม่ใช่ความผิดของผู้บริหาร หรือใครใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นเรื่องที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้เพราะต้องรอให้ ก.ล.ต.ประกาศอนุมัติให้ยื่นได้ก่อนก็เท่านั้น
    "จอมทรัพย์ โลจายะ" ประธานกรรมการ SUPER  พูดอยู่เสมอ..แต่มักไม่ค่อยได้ผล (เพราะมีกระบวนการปล่อยข่าวลือทางลบอยู่เสมอ) ว่าแม้แผนการจัดตั้งกองทุน IFF จะเกิดล่าช้า หรือแม้จะถึงขั้นที่ว่า ไม่สามารถตั้งได้เลย แต่จะไม่มีผลกระทบกับ SUPER แน่ๆ  ย้ำให้รู้กันชัดๆ อีกครั้ง " ไม่มีผลกระทบกับ SUPER แน่ๆ" เพราะได้เตรียมแผนรับมือไว้เรียบร้อยแล้ว จะไม่ทำให้แผนทางการเงินและแผนขยายธุรกิจสะดุดแน่ๆ  โดยแผนงานที่เตรียมรองรับเอาไว้แล้วคือ 1.การขออนุมัติผู้ถือหุ้นกู้ออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3.6 หมื่นล้านบาทรองรับแผนขยายธุรกิจ ซึ่งในเดือนกรกฎาคม 2561 เตรียมออกหุ้นกู้ล็อตแรกวงเงินประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อนำไปขยายธุรกิจ 2.ปลายปีนี้เตนียมที่จะออกหุ้นกู้เป็นเงินสกุลดอลลาร์ 550 ล้านเหรียญสหรัฐ เปิดขายให้นักลงทุนต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งได้รับเงื่อนไขทางการเงินที่ดีมากคือ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดๆ อีกทั้งไม่ต้องจ่ายเงินต้นเลยในช่วง 7 ปีแรก ทำให้ประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้มากถึง 156 ลบ.3.SUPER ยังมีกระแสเงินสดหมุนเวียนกว่า 5-6 พันล้านบาท/ปี จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้กับภาครัฐ ซึ่งเป็นรายได้คงที่ระยะเวลากว่า 22-23 ปี ทำให้มีกระแสเงินที่พร้อมสำหรับการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้า จากปัจจุบันกุมกำลังการผลิตไฟฟ้าในประเทศกว่า 840 เมกะวัตต์  โดย COD  แล้ว 753 เมกะวัตต์ 4.โครงการไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนาม มีพันธมิตรซัพพลายเออร์ที่แข็งแกร่งจากประเทศจีนได้ลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าให้ก่อน โดยหลังจากจ่ายไฟเข้าระบบ SUPER ถึงจะมีการจ่ายค่าก่อสร้างคืนกลับไป ทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องของเงินทุนสำหรับการก่อสร้าง และ 5.SUPER ยังได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากสถาบันการเงินภายในประเทศ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนสินเชื่ออย่างเต็มที่
    ในด้านของผลการดำเนินงานของ SUPER ย้อนหลังตั้งแต่ปี (2559-ไตรมาส 1/2561) มีรายได้รวม  3,802.04  ล้านบาท 5,794.40  ล้านบาท และ  1,538.95 ล้านบาท ตามลำดับ  และมี กำไรสุทธิอยู่ที่  361.62 ล้านบาท 1,284.32  ล้านบาท และไตรมาสแรกปีนี้กำไรสุทธิ 412.31 ล้านบาท ตามลำดับ  สะท้อนให้เห็นได้อย่างแจ่มชัดถึงกำไรที่เติบโตสูงขึ้นอย่างมั่นคง มีฐานที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
    อนาคต SUPER วางเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563 รายได้เติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง จากการเก็บเกี่ยวการลงทุนพลังงานลมในประเทศเวียดนาม และการก้าวพร้อมขึ้นสู่การเป็นผู้นำพลังงานทดแทนในภูมิภาคเอเชีย
    แข็งแกร่งอย่างนี้...แต่ราคาหุ้นในกระดานกลับไม่เอาไหน ไม่รู้ว่าจะโทษใครดี คงต้องโทษโชคชะตาฟ้าดินที่ไม่เป็นใจเอาซะเลย คนไทยเรามีคำหนึ่งว่า "เราเป็นคนกำหนดฃชะตาชีวิตตนเอง" เรื่องหุ้น SUPER "ซื้อ" หรือ "ไม่ซื้อ" อยู่ที่การตัดสินใจของนักลงทุนเอง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่