เนื่องจากช่วงนี้สวีทฟาดรีวิว SK-II มาแบบปั๊วๆแน่นๆไปแล้วตั้ง 2 กระทู้ ทั้ง รีวิว
SK-II GenOptics Aura Essence เผยผิวออร่าหน้าอิ่มบุญ และ
รีวิวน้ำตบ SK-II Facial Treatment Essence หน้าใส ผิวเด้ง กันมาแล้ว แต่เพื่อนๆหลายคนบอกว่า OMG ! ถ้าจะแพงขนาดนี้ ยอมหน้าเหี่ยว หน้าหมองซะยังดีกว่า ในฐานะคนป้ายยา คนที่คอยแนะนำสกินแคร์ให้กับเพื่อนชะนีในกลุ่มและสาวๆในเพจ เดี๊ยนรู้ดีว่าพอแนะนำ SK-II ไป ทุกคนจะตกใจเบอร์แรงในความแพงของนาง และแน่นอนเสิร์ชหากันว่าจะซื้อ SK-II ที่ไหนดี เว็บไหนดี ราคาโดนๆ กันแน่ๆ ใจเย็นๆอย่าถอดใจไปซะก่อนนะสาวๆ จริงอยู่ความสวยต้องลงทุน แต่ก็ต้องลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ จะซื้อแบรนด์ดัง จะเสียตังค์ทั้งที มันต้องมี Strategy ให้ได้ของดีราคาถูกซิคะ ลองมาดูกัน ว่าถ้าอยากได้
SK-II ของแท้ และถูก ไปสอยที่ไหนคุ้มสุด โดยกระทู้นี้ สวีทจะมาเปรียบเทียบให้เห็นข้อดีข้อเสียของการ
ซื้อน้ำตบ SK-II ที่ไหนดี จาก 3 แหล่งยอดนิยม นั่นก็คือ ญี่ปุ่น ดิวตี้ฟรี และ เคาน์เตอร์
1.ซื้อ SK-II ที่ญี่ปุ่น
แดนดินถิ่นต้นกำเนิดของ SK-II ที่ใครไปต้องสอยเพราะเชื่อว่าราคาดี และมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า SK-II ที่ญี่ปุ่นคุณภาพดีกว่าเมืองไทย สวีทเองก็ไปสอยมาไม่น้อยเช่นกัน เพราะเห็นว่าราคาดีมาก สุดท้ายก็โดนเต็มๆจากตลาดอาเมโยโกะ ของปลอมชัดๆจ้า ซ๊วยซวยอ่ะแก ซึ่งอันนี้ต้องยอมรับเองว่าสวีทมุ่งแต่ไปหาร้านที่ถูกที่สุดแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่ดูว่าน่าเชื่อถือรึเปล่า ก็ตอนนั้นร้านใหญ่ๆราคามันใกล้เคียงกับบ้านเราเลย จะแบกก็หนักกระเป๋ากลัวน้ำหนักเกินอีก เฮ้อออออออออออ แถมสวีทไปมาล่าสุดช่วงก่อนสงกรานต์ ตัว Facial treatment essence ไซส์กลางหายากมากเวอร์ หมดทุกร้านเดินทางกันจนล้า ทางร้านบอกว่าเพราะคนไทยมาเหมาไปหมด อ่อ แล้วอีกอย่างที่มีคนบอกว่าของญี่ปุ่นคุณภาพดีกว่าไทยนั้นไม่จริงนะจ๊ะ เพราะของไทยและญี่ปุ่นผลิตที่เดียวกันด้วยขั้นตอนเดียวกันจ้าาาาอันนี้ทางบริษัทยืนยันมาเองเลย เพราะฉะนั้นใครไปญี่ปุ่นจงเก็บน้ำหนักและพื้นที่กระเป๋าให้ขนมและไอเท็มอื่นๆเถิดหนาออเจ้าทั้งหลาย แล้วจะเที่ยวสนุกกว่าเดิมเยอะเลยเจ้าค่ะ
สรุป : ถ้าใครจะซื้อ SK-II ที่ญี่ปุ่น ราคาดี แต่ะต้องระวังของปลอม ควรซื้อในแหล่งน่าเชื่อถือ ระวังเรื่องน้ำหนักกระเป๋า การแพคต้องระวังแตกด้วยนะ และที่สำคัญราคาไม่ได้ถูกกว่าไทยเท่าที่คิด
Ps. ภาพประกอบตอนไปช้อปที่ญี่ปุ่นเฉยๆนะจ๊ะ ไม่เกี่ยวกับการขายของปลอมจ้า
2. ซื้อ SK-II ที่ดิวตี้ฟรี
ถ้าเน้นเรื่องราคาและความน่าเชื่อถือแล้ว สวีทยกให้ดิวตีฟรีเป็นตัวเลือกที่โอเคสุด เพราะมีข้อดีตรงมั่นใจได้แน่นอนว่าแท้ และราคาลดกว่าเคาน์เตอร์เล็กน้อย อย่างตัว Facial treatment essence ที่ king power ขนาด 160 ml ราคา 4,485 บาท ขนาด 250 ml ราคา 5,755 บาท ขนาด 330 ml ขวดใหญ่สุด ราคา 7,250 บาท ถ้ามีบัตรของดิวตี้ฟรี ลดมากสุด 10% ไซส์กลางยอดนิยมก็เหลือ 5,180 ประมาณนี้ค่ะ แต่สำหรับส่วนตัวสวีทนั้นดิวตี้ฟรีก็ยังมีข้อเสียอยู่เหมือนกันนะ นั่นก็คือเรื่องเวลาในการช้อปที่อาจมีจำกัด เพราะหลายทีเราก็ไปถึงสนามบินแบบใจหายใจคว่ำอยู่เหมือนกัน (อันนี้สวีทเป็นบ่อยๆ ) เวลาช้อปน้อยอยู่แล้วแถมยังต้องต่อสู้กับนักช้อปจากจีนเกาหลีอีก เดี๊ยนยอมค่ะ ณ จุดนี้ ที่สำคัญเราต้องพกไปด้วยหนักอยู่นาาาา กลัวช้อปแล้วน้ำหนักกระเป๋าเกิน และสวีทกลัวว่าจะแตกซะก่อน จะฝากไว้ที่เคาท์เตอร์ก็กลัวทำใบเสร็จหายอีก เรายิ่งเป็นคนซุ่มซ้ามอยู่
สรุป : ดิวตี้ฟรีราคาดีและน่าเชื่อถือสุด ถ้าจะไปซื้อต้องเผื่อเวลาเข้าไปช้อป และอาจต้องแบกไปเที่ยวด้วยกันตลอดทริป ต้องระวังแตก และระวังเรื่องน้ำหนัก เพราะที่ดิวตี้ฟรีชอบมีโปรให้ซื้อแพคคู่บ่อยๆ 555 ถ้าฝากระวังใบเสร็จหายด้วย เพราะถ้าใบเสร็จหายเหมือนจะรับสินค้าไม่ได้จ้า
3. ซื้อ SK-II ที่เคาน์เตอร์
สมัยก่อนการซื้อ SK-II ที่เคาน์เตอร์เคยเป็นสิ่งที่สวีทหลีกหนีเสมอมา เพราะราคาและความคุ้มค่าเป็นจุดที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างแรก และคิดว่าสาวๆหลายคนก็คงเป็นเหมือนสวีทใช่ไหมคะ แต่คุณขาต่อให้เราสตรองขนาดไหนก็ต้องมีเผลอตัวเผลอใจ พ่ายแพ้ให้กับสายตาและเสียงเรียกหวานๆของ BA เสมอ รู้ตัวอีกทีก็มือสั่นชี้นิ้วสั่งไปหลายตัวแล้ว 55555 ขอหัวเราะให้กับความ Shopaholic girl ของตัวเอง
แม้จะจ่ายแพงกว่านิดหน่อยแต่มันมีข้อดีอยู่นะจ๊ะ นอกจากบริการที่ทำให้เรารู้สึกเป็นเจ้าหญิง เป็นเซเลบ เป็นลูกคุณหนูที่แต่งตัวหรูมาช้อปปิ้งแล้ว มันยังทำให้เราได้มีโอกาส ลองก่อนซื้อ และ เลือกสิ่งที่เหมาะกับสภาพผิวของเราจริง เพราะได้รับ information ที่ครบถ้วน อะไรที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับเราคุณน้องBA เค้าก็บอกเราตรงๆ ส่วนตัวแล้วสวีทประทับใจ สาขาเซ็นทรัลพระรามเก้า และ พารากอนเป็นพิเศษ ข้อมูลแน่นแนะนำดีมากๆ ไม่ขายตรง ไม่เร่งให้เราซื้ออย่างเดียว บางทีไม่ได้ซื้อเข้าไปคุยเล่นให้แนะนำยังได้เลย จุดที่ปลื้มปริ่มคือ ของแถมค่ะคุณ รวมๆแล้ว เล็กๆน้อยๆกระจุกกระจิกนี่แหละที่ทำให้ใจฟู๊ ฟู ตัวเล็กๆ 5 ml 10 ml นี่ใช้ได้นานอยู่นะจ๊ะจะบอกให้
สรุป : ซื้อ SK-II ที่เคาน์เตอร์เนี่ยราคาสูงกว่าช่องทางอื่นแต่ดีตรงได้รับการบริการ ได้ของแถม ได้ลองได้สัมผัสก่อนตัดสินใจซึ่งสวีทว่าสำคัญมากๆ แล้วก็เป็นเรื่องประสบการณ์ด้วยอ่ะเนอะ แต่จุดอ่อนเรื่องราคาที่มากว่านั้นจะหายไปอย่างสิ้นเชิง ถ้าเราไปซื้อช่วงปลายปี หรือช่วงโปรโมชั่น ทางแบรนด์จะจัดเป็นชุดเซ็ต ล่าสุดสวีทและเพื่อนๆซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อนเป็นชุดเซ็ต SK-II Radiant Aura set ที่มี
Genoptics aura essence และ
Facial treatment essence ให้นางไป set ที่ซื้อก็ลดไป 30% จากราคาจริงจ้า
จบแล้วจ้าหวังว่าจะเป็นข้อมูลให้สาวๆตัดสินใจเลือกซื้อกันนะจ๊ะ สวีทขอไม่ฟันธงว่าอะไรดีที่สุดเหมาะที่สุดเพราะเงื่อนไขของเราอาจจะต่างกัน ได้แต่ให้ข้อมูลและแชร์ประสบการณ์ในฐานะนักช้อปตัวจริงที่หมดเงินกับการซื้อของต่างๆไปอย่างมากมาย 555 ไว้โอกาสหน้าสวีทจะพาไปเที่ยว ไปช้อปใหม่นะคะทุกคน บ๊ายยยย
รีวิว ช้อปยังไงให้คุ้ม ! เปรียบเทียบราคา SK-II จากเคาน์เตอร์ จากดิวตี้ฟรี และ ญี่ปุ่น
เนื่องจากช่วงนี้สวีทฟาดรีวิว SK-II มาแบบปั๊วๆแน่นๆไปแล้วตั้ง 2 กระทู้ ทั้ง รีวิว SK-II GenOptics Aura Essence เผยผิวออร่าหน้าอิ่มบุญ และ รีวิวน้ำตบ SK-II Facial Treatment Essence หน้าใส ผิวเด้ง กันมาแล้ว แต่เพื่อนๆหลายคนบอกว่า OMG ! ถ้าจะแพงขนาดนี้ ยอมหน้าเหี่ยว หน้าหมองซะยังดีกว่า ในฐานะคนป้ายยา คนที่คอยแนะนำสกินแคร์ให้กับเพื่อนชะนีในกลุ่มและสาวๆในเพจ เดี๊ยนรู้ดีว่าพอแนะนำ SK-II ไป ทุกคนจะตกใจเบอร์แรงในความแพงของนาง และแน่นอนเสิร์ชหากันว่าจะซื้อ SK-II ที่ไหนดี เว็บไหนดี ราคาโดนๆ กันแน่ๆ ใจเย็นๆอย่าถอดใจไปซะก่อนนะสาวๆ จริงอยู่ความสวยต้องลงทุน แต่ก็ต้องลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ จะซื้อแบรนด์ดัง จะเสียตังค์ทั้งที มันต้องมี Strategy ให้ได้ของดีราคาถูกซิคะ ลองมาดูกัน ว่าถ้าอยากได้ SK-II ของแท้ และถูก ไปสอยที่ไหนคุ้มสุด โดยกระทู้นี้ สวีทจะมาเปรียบเทียบให้เห็นข้อดีข้อเสียของการ ซื้อน้ำตบ SK-II ที่ไหนดี จาก 3 แหล่งยอดนิยม นั่นก็คือ ญี่ปุ่น ดิวตี้ฟรี และ เคาน์เตอร์
1.ซื้อ SK-II ที่ญี่ปุ่น
แดนดินถิ่นต้นกำเนิดของ SK-II ที่ใครไปต้องสอยเพราะเชื่อว่าราคาดี และมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า SK-II ที่ญี่ปุ่นคุณภาพดีกว่าเมืองไทย สวีทเองก็ไปสอยมาไม่น้อยเช่นกัน เพราะเห็นว่าราคาดีมาก สุดท้ายก็โดนเต็มๆจากตลาดอาเมโยโกะ ของปลอมชัดๆจ้า ซ๊วยซวยอ่ะแก ซึ่งอันนี้ต้องยอมรับเองว่าสวีทมุ่งแต่ไปหาร้านที่ถูกที่สุดแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่ดูว่าน่าเชื่อถือรึเปล่า ก็ตอนนั้นร้านใหญ่ๆราคามันใกล้เคียงกับบ้านเราเลย จะแบกก็หนักกระเป๋ากลัวน้ำหนักเกินอีก เฮ้อออออออออออ แถมสวีทไปมาล่าสุดช่วงก่อนสงกรานต์ ตัว Facial treatment essence ไซส์กลางหายากมากเวอร์ หมดทุกร้านเดินทางกันจนล้า ทางร้านบอกว่าเพราะคนไทยมาเหมาไปหมด อ่อ แล้วอีกอย่างที่มีคนบอกว่าของญี่ปุ่นคุณภาพดีกว่าไทยนั้นไม่จริงนะจ๊ะ เพราะของไทยและญี่ปุ่นผลิตที่เดียวกันด้วยขั้นตอนเดียวกันจ้าาาาอันนี้ทางบริษัทยืนยันมาเองเลย เพราะฉะนั้นใครไปญี่ปุ่นจงเก็บน้ำหนักและพื้นที่กระเป๋าให้ขนมและไอเท็มอื่นๆเถิดหนาออเจ้าทั้งหลาย แล้วจะเที่ยวสนุกกว่าเดิมเยอะเลยเจ้าค่ะ
สรุป : ถ้าใครจะซื้อ SK-II ที่ญี่ปุ่น ราคาดี แต่ะต้องระวังของปลอม ควรซื้อในแหล่งน่าเชื่อถือ ระวังเรื่องน้ำหนักกระเป๋า การแพคต้องระวังแตกด้วยนะ และที่สำคัญราคาไม่ได้ถูกกว่าไทยเท่าที่คิด
Ps. ภาพประกอบตอนไปช้อปที่ญี่ปุ่นเฉยๆนะจ๊ะ ไม่เกี่ยวกับการขายของปลอมจ้า
2. ซื้อ SK-II ที่ดิวตี้ฟรี
ถ้าเน้นเรื่องราคาและความน่าเชื่อถือแล้ว สวีทยกให้ดิวตีฟรีเป็นตัวเลือกที่โอเคสุด เพราะมีข้อดีตรงมั่นใจได้แน่นอนว่าแท้ และราคาลดกว่าเคาน์เตอร์เล็กน้อย อย่างตัว Facial treatment essence ที่ king power ขนาด 160 ml ราคา 4,485 บาท ขนาด 250 ml ราคา 5,755 บาท ขนาด 330 ml ขวดใหญ่สุด ราคา 7,250 บาท ถ้ามีบัตรของดิวตี้ฟรี ลดมากสุด 10% ไซส์กลางยอดนิยมก็เหลือ 5,180 ประมาณนี้ค่ะ แต่สำหรับส่วนตัวสวีทนั้นดิวตี้ฟรีก็ยังมีข้อเสียอยู่เหมือนกันนะ นั่นก็คือเรื่องเวลาในการช้อปที่อาจมีจำกัด เพราะหลายทีเราก็ไปถึงสนามบินแบบใจหายใจคว่ำอยู่เหมือนกัน (อันนี้สวีทเป็นบ่อยๆ ) เวลาช้อปน้อยอยู่แล้วแถมยังต้องต่อสู้กับนักช้อปจากจีนเกาหลีอีก เดี๊ยนยอมค่ะ ณ จุดนี้ ที่สำคัญเราต้องพกไปด้วยหนักอยู่นาาาา กลัวช้อปแล้วน้ำหนักกระเป๋าเกิน และสวีทกลัวว่าจะแตกซะก่อน จะฝากไว้ที่เคาท์เตอร์ก็กลัวทำใบเสร็จหายอีก เรายิ่งเป็นคนซุ่มซ้ามอยู่
สรุป : ดิวตี้ฟรีราคาดีและน่าเชื่อถือสุด ถ้าจะไปซื้อต้องเผื่อเวลาเข้าไปช้อป และอาจต้องแบกไปเที่ยวด้วยกันตลอดทริป ต้องระวังแตก และระวังเรื่องน้ำหนัก เพราะที่ดิวตี้ฟรีชอบมีโปรให้ซื้อแพคคู่บ่อยๆ 555 ถ้าฝากระวังใบเสร็จหายด้วย เพราะถ้าใบเสร็จหายเหมือนจะรับสินค้าไม่ได้จ้า
3. ซื้อ SK-II ที่เคาน์เตอร์
สมัยก่อนการซื้อ SK-II ที่เคาน์เตอร์เคยเป็นสิ่งที่สวีทหลีกหนีเสมอมา เพราะราคาและความคุ้มค่าเป็นจุดที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างแรก และคิดว่าสาวๆหลายคนก็คงเป็นเหมือนสวีทใช่ไหมคะ แต่คุณขาต่อให้เราสตรองขนาดไหนก็ต้องมีเผลอตัวเผลอใจ พ่ายแพ้ให้กับสายตาและเสียงเรียกหวานๆของ BA เสมอ รู้ตัวอีกทีก็มือสั่นชี้นิ้วสั่งไปหลายตัวแล้ว 55555 ขอหัวเราะให้กับความ Shopaholic girl ของตัวเอง
แม้จะจ่ายแพงกว่านิดหน่อยแต่มันมีข้อดีอยู่นะจ๊ะ นอกจากบริการที่ทำให้เรารู้สึกเป็นเจ้าหญิง เป็นเซเลบ เป็นลูกคุณหนูที่แต่งตัวหรูมาช้อปปิ้งแล้ว มันยังทำให้เราได้มีโอกาส ลองก่อนซื้อ และ เลือกสิ่งที่เหมาะกับสภาพผิวของเราจริง เพราะได้รับ information ที่ครบถ้วน อะไรที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับเราคุณน้องBA เค้าก็บอกเราตรงๆ ส่วนตัวแล้วสวีทประทับใจ สาขาเซ็นทรัลพระรามเก้า และ พารากอนเป็นพิเศษ ข้อมูลแน่นแนะนำดีมากๆ ไม่ขายตรง ไม่เร่งให้เราซื้ออย่างเดียว บางทีไม่ได้ซื้อเข้าไปคุยเล่นให้แนะนำยังได้เลย จุดที่ปลื้มปริ่มคือ ของแถมค่ะคุณ รวมๆแล้ว เล็กๆน้อยๆกระจุกกระจิกนี่แหละที่ทำให้ใจฟู๊ ฟู ตัวเล็กๆ 5 ml 10 ml นี่ใช้ได้นานอยู่นะจ๊ะจะบอกให้
สรุป : ซื้อ SK-II ที่เคาน์เตอร์เนี่ยราคาสูงกว่าช่องทางอื่นแต่ดีตรงได้รับการบริการ ได้ของแถม ได้ลองได้สัมผัสก่อนตัดสินใจซึ่งสวีทว่าสำคัญมากๆ แล้วก็เป็นเรื่องประสบการณ์ด้วยอ่ะเนอะ แต่จุดอ่อนเรื่องราคาที่มากว่านั้นจะหายไปอย่างสิ้นเชิง ถ้าเราไปซื้อช่วงปลายปี หรือช่วงโปรโมชั่น ทางแบรนด์จะจัดเป็นชุดเซ็ต ล่าสุดสวีทและเพื่อนๆซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อนเป็นชุดเซ็ต SK-II Radiant Aura set ที่มี Genoptics aura essence และ Facial treatment essence ให้นางไป set ที่ซื้อก็ลดไป 30% จากราคาจริงจ้า
จบแล้วจ้าหวังว่าจะเป็นข้อมูลให้สาวๆตัดสินใจเลือกซื้อกันนะจ๊ะ สวีทขอไม่ฟันธงว่าอะไรดีที่สุดเหมาะที่สุดเพราะเงื่อนไขของเราอาจจะต่างกัน ได้แต่ให้ข้อมูลและแชร์ประสบการณ์ในฐานะนักช้อปตัวจริงที่หมดเงินกับการซื้อของต่างๆไปอย่างมากมาย 555 ไว้โอกาสหน้าสวีทจะพาไปเที่ยว ไปช้อปใหม่นะคะทุกคน บ๊ายยยย