มหากาพย์ในอายุ 25 : "เมื่อตกบันไดรถเมล์เพราะคนเห็นแก่ตัวจนกระดูกแตก"

0.
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง
ไม่ได้ใช้ตัวแสดงแทนแต่อย่างใด
เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของหลาย ๆ อย่างที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่
แต่อยากเขียน คงไม่มีปัญหาอะไรนะ
อนึง ถ้าใครขึ้นรถเมล์ยูโร 145 ช่วงสี่ทุ่มกว่า ๆ ของวันที่ 27/4/61
ก็ขอให้รู้ไว้ว่า คนที่ทำให้รถหยุดที่แม็กแวลู่พัฒนาการสิบกว่านาที คือเราเอง

หมายเหตุ
กระทู้นี้เหมาะสำหรับทุกคน
มีเนื้อหาเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ข้อเท้าหัก การผ่าตัด การบล็อกหลัง การนอนโรงพยาบาล
การรักษาตัวเมื่อข้อเท้าหัก ระบบสามสิบบาท รถเมล์ คปภ. และการทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย ค่ะ
ส่วนภาพประกอบ ถ้าหากว่าภาพใดสยองขวัญ เราจะซ่อนไว้นะคะ

-------------------------


1.
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561
หลายคนน่าจะจำได้ เพราะว่าวันนั้นกรุงเทพพายุเข้า รถติดกันถ้วนหน้า
ส่วนเรา พึ่งกลับจากต่างจังหวัด ไปทำงานมา แบกสัมภาระมาเยอะ
แล้วก็ต้องขึ้นรถเมล์เพื่อไปหาพ่อที่รอรับอยู่ที่แม็กแวลู่พัฒนาการ
วันนั้นเรารอรถอยู่ประมาณสองชาติได้ กว่าจะโผล่มา ขนาดเช็คในแอพ Viabus แล้วนะ
แล้วตอนเกือบสี่ทุ่มรถเมล์ 145 แอร์ก็โผล่มา คนเยอะมาก แต่เราก็ต้องขึ้นเพราะอยากกลับบ้านแล้ว
ขึ้นไปได้สักแปป รถวิ่งไปไหนไม่รู้ มองหน้าต่างไม่เห็น ขยับตัวไม่ได้เพราะที่เท่าแมวดิ้นตาย
รถเมล์ก็เบรกกระทันหัน!! เพราะรถคันหน้าปาดหน้าหรืออะไรนี่แหละ ซึ่งเราไม่เป็นไรนะ

แต่แล้วความซวยก็มาเยือนเราตอนที่กำลังจะลงจากรถนี่แหละ
ก่อนลงจากรถ เราพยายามขอทางที่จะลงแล้ว แต่คนในรถไม่ค่อยจะหลบให้
เราเลยบอกขอให้รอก่อน กำลังจะลง พร้อมลากสัมภาระหนักมาก ๆ ด้วย
กระเป๋ารถบอกวนไปห้ารอบได้ว่า รอแปปนึงนะคะ มีคนกำลังจะลงนะ ของเยอะด้วยนะ
แต่บัดนาว อยู่ดี ๆ ก็มีมนุษย์ที่ไหนไม่รู้เดินขึ้นมา
เดินขึ้นไม่พอนะ เห็นเรากำลังจะลง ...ค่ะ ท่านยืนแช่และเบี่ยงตัวค่ะ
เราก็พยายามเบี่ยงตัวออกมา แล้วก็ไม่พ้น
เราชนกับใครก็ไม่รู้ จำได้แค่ว่าเป็นผู้ชายใส่เสื้อสีแดง
แล้วเราก็ล้มลงไป


-------------------------


2.
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกซ์
เจ็บว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


-------------------------


3.
ภาพตัดมาที่เรานั่งอยู่บนพื้นถนน ใกล้ฟุตบาทหน่อยนึง
กระเป๋าเสื้อผ้าร่วงลงไปละ ส่วนกระเป๋าโน้ตบุ๊ค+กล้องข้างหลังถ่วงน้ำหนักที่หลังอยู่
เลยทำให้หัวไม่กระแทก แต่กลายเป็นล้มจ้ำเบ้าเอาเท้าซ้ายลงไปอย่างแรงแทน
ตอนนั้นทั้งคนบนรถ บนฟุตบาท กระเป๋ารถ คนขับ ทุกคนตกใจมาก
นึกว่าเราโดนรถเมล์ทับ
หลายคนวิ่งเข้ามาดูเรา ถามเราว่าเดินไหวไหม

"เดินไม่ได้ค่าาาาาาา เจ็บแบบขยับไม่ได้ข่าาาาาาา" (ร้องวนไปห้ารอบ)

แล้วผู้ชายสักคนสองคนที่อยู่แถว ๆ นั้นก็ช่วยหามเราขึ้นฟุตบาทไปปฐมพยาบาล
พร้อมกับโทรเรียก 1669 ซึ่งกว่าจะมารับเรา ล่อไปสามรอบ
ตอนนั้นต้องขอบคุณน้องวัยรุ่นที่บ้านอยู่สำโรง น้องที่มารอรถไฟ คุณอากองปราบ และอื่น ๆ ที่ช่วยเรานะคะ
กระเป๋ารถกับคนขับก็ลงมาดูแลเรานิดหน่อย แต่มีประโยคหนึ่งออกมาว่า

"ตอนที่เราตกลงไปรถจอดนิ่งแล้วนะ"
...

เอออออออออออออออออออออออออออออออออ
เรารู้ตัวว่าเราพลาดเอง ไม่ต้องย้ำก็ได้
ส่วนคนเสื้อแดงน่ะเหรอ หายหัวไปกับรถเมล์อีกคันที่มาจ้า
พอเห็นว่าไม่มีอะไร ทางรถเมล์ก็ได้ขอตัวไปต่อ เราก็ไม่ขัดข้องอะไร
(เพราะเราไม่แน่ใจว่า พรบ. คุ้มครองกรณีแบบนี้ไหม)

พอความเจ็บเริ่มบรรเทา ก็โทรหาคุณพ่อที่อยู่ที่แม็กแวลู่ ให้เดินมาหาหน่อย
ตอนนั้นก็ได้บอกเล่ากับคนที่มาช่วย ว่าลื่นตกลงมาเพราะชนกับคนที่เดินสวนขึ้นมาพอดี
แล้วรถฉุกเฉินก็มาพอดี เราเลยแจ้งว่ามีบัตรทองที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตประเวศ
รถก็พาเราไปที่โน่น ...เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งรถฉุกเฉินแบบมีสติ 555
(รถก็รีบมาก ถึงขนาดออกไมค์ขอทางเลยทีเดียว)


-------------------------


4.
นอนอืดในฉุกเฉินอยู่สองชั่วโมง
กว่าจะได้ X-ray กว่าจะได้ดามจริง ๆ
ผลคือกระดูกข้อเท้าเราหักแบบยับเยิน
ต้องใส่เฝือกดามไว้ก่อนแล้วค่อยไปตรวจกับหมอกระดูกนะค้าาาาาา (ทำเสียงเลียนแบบนางพยาบาล)
ซึ่งเรื่องนี้เราทนไหว รอได้ เพราะแค่กระดูกหัก ไม่ได้เร่งด่วนอะไร

แต่ที่เงิบก็คือ
- บัตรทองไม่ซัพพอร์ต ต้องไปเบิก คปภ. (คณะกรรมการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ)
- บัตรทองโดนเด้งไปคลินิกอะไรไม่รู้ (คือเราย้ายบัตรทองมาที่นี่เรียบร้อย ใช้จนได้ประกันสังคม ก็เลือกที่เดิม แล้วประกันสังคมหมด แทนที่จะเด้งกลับไปที่เดิม เปล่าค่ะ แล้วไม่แจ้งอะไรเราด้วยนะ เว็บก็ล้าหลังมากกกกก)

เราคิดในใจ เห้ยยยย นี่ฉุกเฉินนะ เราตกบันไดรถเมล์มานะ ทำไมใช้ไม่ได้ล่ะ!!
ทางรพ.ก็ตอบกลับมาว่า ก็คุณประสบเหตุทางรถ
ซึ่งตอนนั้นเราไม่เข้าใจ เพราะรู้เต็มอกว่าไม่เกี่ยวผักกาดอะไรกับรถเลย
แต่ทาง รพ. ก็ตอบกลับมาแบบเดิม อืม โอเค จ่าย ๆ ไป อยากกลับบ้านละ

ระหว่างทางกลับคุณพ่อก็ไปที่ สน. ที่อยู่ห่างจากโรงพยาบาลหน่อยนึง
เพื่อไปแจ้งความ ประกอบการเบิก คปภ. อะไรนั่น
เราก็รอพ่อไปแจ้งความอยู่นานมาก จะตีสองละ ง่วง
พ่อก็กลับมาด้วยสีหน้าอยากจะกระทืบใครสักคน
"ตำรวจมันกวนบาทาพ่อน่ะ พอบอกขอดูกล้อง มันก็โยกโย้ไปมา แล้วมาถามว่ารถอะไรมาส่งลูกไปโรงบาล แล้วก็โทรไปหาปอเ---  แล้วก็มาบอกว่าทางนั้นไม่ได้รับคนขาหักไปส่งโรงบาลเลย"

ใจจริงอยากตะกายไปไฟว์กับตำรวจเองนะ แต่เหนื่อยแล้ว ร่างกายต้องการจะนอน
เลยกลับบ้าน


-------------------------


5.
แล้วตั้งแต่วันนั้นก็เป็นความวิกฤติในช่วงอายุ 25 ชัด ๆ
เดินไม่ได้ เงินก็หมด ไปทำงานก็ไม่ได้ต้องยกเลิกงานที่ออกข้างนอกทั้งหมด (เราเป็นฟรีแลนซ์ค่ะ สายถ่ายภาพและกราฟิก)
อนาถจนถึงขั้นต้องโพสเฟสขอยืมวีลแชร์
และสุดท้ายแม่เราก็ทนไม่ไหวบวกกลัวทำของเค้าพัง เลยซื้อวีลแชร์ให้
ดีใจค่ะ แม่ซื้อรถคันแรกให้ (หัวเราะทั้งน้ำตา)
ระยะแรก ๆ ปวดมาก ปวดในระดับที่ทรามาดอลเอาไม่อยู่
นอนก็ไม่ได้จนต้องเทคยาคลายกังวลเข้าไปสองสามเม็ด
(คือหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่กลางปี 2557 เลยได้ยาคลายกังวลมาค่ะ)

แล้วก็ได้เจอหมอวันแรก 2 พ.ค.
วินาทีแรก ไม่มีการทักทายหรืออะไร หมอบอกเลย

"หมอเห็นฟิล์มแล้ว กระดูกของคุณแตกทุกด้านเลยนะ ต้องผ่าตัดใส่เหล็กดามอย่างเดียว"

แล้วหมอก็ดูสภาพขาบวม ๆ ของเราค่ะ...
หมอพูดเสียงดังมากกกกกกกกกกกกก "นี่หมอซีเรียสนะ!!"
"...."
"นี่บวมมากเลย ยังผ่าไม่ได้ ต้องผ่าภายในสามอาทิตย์นับจากวันที่หักนะ ไม่งั้นกระดูกจะติดกันแล้ว รื้อออกมานี่งานยากนะ แล้วเท้าก็จะผิดรูปเดินเป๋ไปเลย"
"...ค่ะ"
"เอางี้นะ หมอให้ยกขาสูงจากลำตัวตลอดเวลา เพื่อจะได้หายบวม บลาๆๆ แล้วก็นัดมาดูวันที่ 7 นะ ถ้าไม่บวมแล้วจะได้นัดผ่าสักวันที่ 10 บลาบลาบลา"

...


จ้า สรุปคือต้องผ่าสินะ เดี๋ยวนะ...ฉันไม่เคยนอนโรงบาลนี่หว่าาาาาาาาา!!!!?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่