ไม่ใช่เพื่อนสมัยเรียนค่ะ เป็นเพื่อนผปค.
ที่ลูกเรียนหนังสือด้วยกันมา
แรก ๆ ก็คุยกันผิวเผิน อาจจะสนิทกว่าเพื่อนผปค.บางท่าน
แต่หลัง ๆ มีเหตุให้ต้องพบเจอและทำกิจกรรมร่วมกันบ่อย ๆ เริ่มเห็นถึงความเยอะ ความเห็นแก่ตัวและความคิดต่าง ๆ ที่เราไม่โอเค
เราก็พยายามห่างออกมา พยายามไม่คุยโดยไม่จำเป็น เธอก็เหมือนจะรู้ก็เลยไม่ค่อยโทร.มาหาเราบ่อยเหมือนก่อน แต่เวลามีอะไรที่อยากให้เราช่วยก็จะใช้วิธีกึ่งบังคับแกมขอร้อง เช่น อยากให้เราช่วยทำบุญก็ระบุจำนวนให้เราจ่ายเสร็จสรรพ ไม่ถามว่าเราโอเคมั้ย โกรธใคร ไม่ชอบใคร ก็จะให้เรารู้สึกด้วย พอเราไม่คล้อยตาม ก็หาว่าเราไม่ช่วย ไม่นึกถึงสิ่งที่เขาเคยช่วยเหลือ คือสิ่งที่เธอให้มันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้ต้องการเท่าไหร่ หรือบางทีก็ไม่จำเป็น ไม่ทันเวลาแล้ว
เราก็ไม่ได้โง่นะ แต่ไม่อยากมีปัญหา อะไรที่เงียบได้เราว่าเงียบก็ดีกว่า
ตอนนี้เราอยากห่างออกมาให้มากที่สุด แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี กลัวปากเธอคนนี้พอสมควร
คือไม่ได้อยากเลิกคบ แต่ไม่อยากให้เธอล้ำเส้นค่ะ
จะห่างจากเพื่อนแบบนี้ ยังไงดี
ที่ลูกเรียนหนังสือด้วยกันมา
แรก ๆ ก็คุยกันผิวเผิน อาจจะสนิทกว่าเพื่อนผปค.บางท่าน
แต่หลัง ๆ มีเหตุให้ต้องพบเจอและทำกิจกรรมร่วมกันบ่อย ๆ เริ่มเห็นถึงความเยอะ ความเห็นแก่ตัวและความคิดต่าง ๆ ที่เราไม่โอเค
เราก็พยายามห่างออกมา พยายามไม่คุยโดยไม่จำเป็น เธอก็เหมือนจะรู้ก็เลยไม่ค่อยโทร.มาหาเราบ่อยเหมือนก่อน แต่เวลามีอะไรที่อยากให้เราช่วยก็จะใช้วิธีกึ่งบังคับแกมขอร้อง เช่น อยากให้เราช่วยทำบุญก็ระบุจำนวนให้เราจ่ายเสร็จสรรพ ไม่ถามว่าเราโอเคมั้ย โกรธใคร ไม่ชอบใคร ก็จะให้เรารู้สึกด้วย พอเราไม่คล้อยตาม ก็หาว่าเราไม่ช่วย ไม่นึกถึงสิ่งที่เขาเคยช่วยเหลือ คือสิ่งที่เธอให้มันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้ต้องการเท่าไหร่ หรือบางทีก็ไม่จำเป็น ไม่ทันเวลาแล้ว
เราก็ไม่ได้โง่นะ แต่ไม่อยากมีปัญหา อะไรที่เงียบได้เราว่าเงียบก็ดีกว่า
ตอนนี้เราอยากห่างออกมาให้มากที่สุด แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี กลัวปากเธอคนนี้พอสมควร
คือไม่ได้อยากเลิกคบ แต่ไม่อยากให้เธอล้ำเส้นค่ะ