ความสัมพันธ์ที่มึนงง ไม่อยากทำอะไร หดหู่ อึดอัด

เกริ่นเรื่องก่อนละกันนะครับว่า
แฟนผมเป็นคนชอบคิดมาก แบบ มากๆ จนบางทีเขาก็อยากไปหาหมอจิตแพทย์ เขาเเค่เคยพูดเอาไว้ และผมกับแฟนอายุเท่ากัน

เอาละเริ่มเรื่องเลยละกันนน ก่อนคบกับแฟน ผมเป็นคนติดการ์ตูน ติดเกมส์ และแฟนผม ไม่ชอบคนเล่นเกมส์ แฟนอยู่หอแถวๆมหาลัย ผมพักที่บางกะปิ ไปๆ กลับๆ หาเธออยู่บ่อยครั้งเพราะแฟนคือรักแรกของผม ผมจึงคิดถึงเธอตลอดเวลา จนช่วงเดือนธันวาคม ผมตัดสินใจย้ายข้าวของไปอยู่ที่หอของแฟน ผมคบกับแฟนตอนวันที่ 7 พ.ย 60 ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี มีทะเลาะกันบ้างนิดหน่อยแต่ก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น ข้าวของไม่เก็บ ไม่ช่วยทำงานบ้านเลย หลังจากที่เขาพูด ผมก็ได้จับไว้กวาด ล้างจาน ล้างห้องน้ำบ้าง ล้างตู้เย็น
ทุกอย่างก็ยังไปได้ดี มีเที่ยวบ้าง และทุกๆเดือน เธอจะเรียกผมไปคุยเรื่อง ปัญหาของตัวเอง ปัญหาของผมว่าควรจัดการส่วนไหน ผมก็คอยรับฟังมาตลอด จนวันนึง เธอได้ถามผมอีกครั้ง รอบนี้ไม่ได้เกี่ยวกับปัญหาชีวิต แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับอนาคต เธอถามผมว่า โตไปอยากเป็นอะไร ในตอนนั้นผมก็จำไม่ได้ว่าตอบอะไร แต่แฟนผมบอกผมว่าในตอนนั้นผมตอบว่า ไม่ค่อยแน่ใจเพราะที่เรียนอยู่ปัจจุบัน ไม่รู้ว่าชอบรึป่าวว คือผมแพลนไว้ตั้งแต่มัธยมแล้วแหละ ว่าอยากเป็นนักบินมาก แต่ผมกลับเป็นลมชักขึ้นมาก่อนในช่วง ม.5 และเป็นคนเอ๋อๆเลยครับจน ม.6 เข้าสู้สภาวะปกติ แต่ก็ไม่ได้คิดเรื่องเรียนจนแม่มาพูดว่าอยากให้เข้าเรียนสาขา วิทยาการคอม ผมก็โอเคครับ เรียนให้คุณแม่ก็ได้ เพราะตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าชอบอะไรเหมือนกันน
เธอก็ถามผมไปว่าถ้าหากเรียนไม่จบผมจะทำอะไร ผมก็ยังไม่ได้ติดเลย เพราะในหัวมีแต่คิดว่า เรียนจบสาขาตัวเอง ก็คงหางานได้เองแหละ ไม่เคยคิดความล้มเหลวของชีวิตหรอกครับ ก็เลยตอบแบบไม่คิดว่า ช่วยแม่ค้าขายที่บ้านต่อมั้ง แฟนช็อคไปแปปนึง แฟนก็บอกว่าไม่สงสารแม่หรออ แม่อุตส่าคัาขายส่งลูกเรียน แต่ลูกกลับไปแย่งงานแม่ ผมก็เอ๋อสิครับ เอาเป็นว่าคุยกันพักใหญ่ สุดท้ายผมก็ไปทำการบ้านมาว่าอยากเป็นอะไร แต่แฟนก็ไม่เคยถามผมอีกเลย และเรื่องเรียน ผมเป็นคนหัวช้ามาก เรียนหลายรอบกว่าจะเข้าใจ แฟนก็บอกว่าให้ไปหาที่เรียนพิเศษผมก็หา แต่ก็ไม่ได้สนใจที่จะเรียน จนกระทั่งแฟนผมเป็นคนหาให้ นี่แหละครับจุดเริ่มต้นที่ทำให้แฟนผมเปลี่ยนไป คืออออ แฟนผมจะคิดแทนผมทุกอย่างเช่น เรื่องลงเวลาเรียน ลงกับอาจารย์คนไหน หาคนมาติว หาที่เรียนพิเศษ เธอคอยพูดกับผมทุกครั้ง เป็นแบบนี้มาจนกระทั่งล่าสุดต้นเดือนที่ผ่านมา เธอเหมือนกับว่า ปลงกับผมแล้ว ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ ดูไม่มีความเป็นผูนำ ต้องคอยให้ ผญ เป็นคนบอกตลอด แฟนก็บอกว่า ผช อ่ะเปรียบเสมือนช้างเท้าหน้า ผญ คือช้างเท้าหลัง จะให้เท้าหลังมาคอยนำเท้าหน้าได้ที่ไหนหล่ะ ผมก็คิดนะครับว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด คือความผิดของผม ไม่มีความกระตือรือร้น ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง แก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้ มีอีกหลายเรื่องครับที่ผมทำผิดพลาดหลายอย่าง ทุกอย่างก็ยอมรับผิดมาตลอดขอโทษมาตลอด แต่คงทำผิดมากเกินไปจนแฟนผมไม่สามารถรับฟังหรือให้อภัยได้ ตอนยังไม่ได้คบกัน ผมมีความคิดเดียวที่เวลาคบกับแฟนอ่ะ ต้องให้แฟนมีความสุขที่สุด ผมคอยทำทุกอย่างให้ เวลาไปเที่ยวจะแบกของหนักแค่ไหนไม่เคยบ่นเดินไกลแค่ไหนไม่เคยบ่น แต่ผมรู้สึกว่า สิ่งที่ผมทำมันศูนย์เปล่ามาก จนเธอบอกกับผมว่าควรแยกกันอยู่ ผมก็คงคิดว่าเธอคงเบื่อผมเต็มทนแต่ก็ยังคบกันสามารถใช้คำว่าแฟนได้อยู่ ผมก็อ่ะ โอเคครับ ก็บอกวันที่จะกลับคอนโดที่บางกะปิ แต่ก่อนกลับหน่ะสิ ผมรู้สึกเธอทำตัวแปลกมากกว่าปกติมาหลายวันล่ะ เธอเคย log in บัญชีต่างๆเครื่องเธอเอาไว้เครื่องผม วันนั้เป็นวันที่ผมจะกลับคอนโดที่บางกะปิผมเข้าเช็คครับ ปรากฏว่าเธอกับลังคุยกับคนๆนึง ผมรู้สึกโกรธมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เเค่นี้เรื่องก็บานปลายแล้วไม่อยากเสียเธอไปเร็วก็แค่นั้นแหละครับ เลยเลือกที่จะใจเย็นและถามเธอว่า แบบอ้อมๆเอาว่า
ถ้าเธอรักเค้ามากแล้วเค้าก็รู้แต่ก็ยังไปคุยกับคนอื่นเธอจะรู้สึกยังไง เธอตอบกลับมาว่าไม่รู้สึกอะไร ผมเงิบนิดๆ แล้วเธอก็ถามว่าไปอ่านแชทมาหรอ ผมก็บอกว่าใช่ แล้วเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วแชทที่คุยกับ ผช อีกคนคือออกแนว น่ารักๆ ดูเหมือนเป็นคนที่ไม่มีเเฟนอะครับ ผญ น่ารักใครก็ชอบทั้งนั้น แน่นอน ฝั่งชายก็คุยด้วย ก็ตอบกันไปตอบกันมาจนได้ไลน์ ผมก็ไม่สามารถดูได้แล้วทุกวันนี้เป็นไงก็ไม่รู้ ผมจึงทำทุกอย่างในวันนั้นคือ ทักเพื่อนฝ่ายชายไป คือเป็นการกระทำที่ผิดพลาดมากเพราะทำไปโดยไม่คิดอีกเเล้ว เหมือนกับเด็กน้อยที่ทะเลาะกันแล้วไปโยนความผิดให้คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอีก ตามจริงแฟนผมก็ไม่รู้หรอกว่า ผมอ่ะทักเพื่อนๆเขาไป แต่ตัวผมอ่ะ เป็นคนบอก เพราะผมไม่เคยโกหกแฟนสักครั้ง มีอะไรพูดตลอด เธอยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ จนในตอนนี้ก็คุยกันเสร็จ ผญ ก็บอกว่า แค่คุยเล่นเฉยๆ คุยด้วยแล้วสนุกดีในความคิดผมอ่ะสิ ผช เขาทักมาจีบแน่ ทั้งขอไลน์เอย หยอดบ้าง แต่เธอก็บอกว่าผมคิดเยอะ ผมก็เลยคิดเล่นๆว่า ถ้าแฟนผมเป็นแบบนี้ จะมีคนอื่นมั้ยนะ ก็ไม่รู้ว่าอีกรุป่าว ถ้ามีจะคุยแบบเดียวกันรึป่าว เพราะปัจจุบัน ผมส่งข้อความยาวมาก เธอตอบแค่ อื้อ โอเค เข้าใจละ มาแค่นี้แหละครับไม่เคยถามผมกลับเหมือนเวลาคุยกับคนอื่น มันตัดกำลังใจผมมากเลย เธอบอกแค่ว่า ระหว่างนี้ก็บอกไม่ได้หรอกว่าเราอยู่ในสถานะอะไร เพราะสับสนเหมือนกัน แฟนบอกว่า สับสนว่า จะถอย จะอยู่นิ่งๆ หรือเดินต่อ ถึงแม้ว่าผมจะคิดหลายๆเรื่องได้แล้วเช่น เรื่องเรียน อนาคต แฟนผมไม่สนใจ เพราะทั้งหมดที่พูดออกมาก็แค่อากาศ ยังไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นด้วยตา ผมเลยกลัวว่าระหว่างพิสูจน์เธอจะมีคนใหม่ไปก่อน

ถอยก็คือ หมดความรู้สึกแล้วเป็นเพื่อนกันก็พอ

ส่วนพักคือ ขออยู่นิ่งๆ โดยเลิกคิดแล้วมีความสุขกับตัวเอง

เดินต่อคือ เดินไปด้วยกันใหม่อีกครั้ง

แต่การกระทำของผมเข้าขั้นที่เรียกว่าเด็กมากๆส่วนตัวผมก็อยากเดินต่อ เพราะทุกวันนี้ ผมเเพลนทุกอย่างใหม่หมดแล้ว เรื่องเรียน เอย หลายเรื่องเลย สำหรับผมก็อยากเดินต่อ แต่แฟนผมก็คงจะเดินต่อยาก ยิ่งช่วงนี้ได้คนคุยอีก ทำให้ผมอึดอัดเอามากๆ กลับคอนโดมาไม่อยากทำอะไรเลยครับ ได้แค่นั่งนิ่งๆ โง่ๆ ปกติกลับมาจะเล่นเกมส์ดูหนังบ้าง แต่ผมไม่อยากทำอะไรเลยครับมันรู้สึกแปลกๆรู้สึกเหงาๆ กลัวขาดเธอไป กลัวจะเสียของรักของหวง แต่ชีวิตเธอก็คือชีวิตของเธอ ผมก็เข้าใจผมบังคับอะไรไม่ได้เลยเสียใจมากๆกับการกระทำที่ทำให้อึดอัดใจ ทำให้เธอคิดมากในเรื่องต่างๆตอนนี้หน้าที่ของผมคือตั้งใจเรียนมากขึ้น ผมก็ได้ลงเรียนเรียบร้อย เเพลนอนาคตเรียบร้อย ที่เหลือให้เวลาจัดการเอง ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรอเธอกลับมาาาและเรียนไปวันๆและเธอก็บอกว่าเลิกยุ่งกับแชทหรืออื่นๆ มันยิ่งทำให้เธอเบื่อผมก็โอเคครับ ผมก็ไม่เคยเข้าเเชทถึงแม้ว่าเข้าได้ และไม่ยุ่งเรื่องของเธอเลย แล้วถามเธอเล่นๆว่า ถ้า ผช คนอื่นทักมาถามว่ามีแฟนมั้ย แฟนจะตอบว่าไง แฟนบอกว่า ก็ไม่ตอบ ในความจริงผมก็อยากให้ตอบว่ามีแหละครับ ไม่อยากให้อีกฝ่ายถลำลึกเข้ามาก หรือฝ่ายหญิงจะคุยจริงจังก็ไม่ว่าแต่ขอให้เลือกตอบคำถามที่ตัวเองสับสนก่อนว่าจะถอยมั้ย เพราะมันทำให้เราหมดกำลังใจลงทุกวัน มันเริ่มออกไปเเนวหดหู่แล้วครับ ตามจริงมีอีกเยอะครับเนื้อเรื่องละเอียดกว่านี้ครับแต่ขอไม่เจาะลึกเนาะะะ

ขอระบายแค่นี้แหละครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่