Introduction
เมื่อเอ่ยถึงทวีปแอฟริกา หลายคนคงได้ยินอยู่บ้างในเรื่องของทะเลทราย สัตว์ป่า ประท้วง ความอดอยาก แต่ในทริปนี้ เราจะพาทุกคนไป 3 ประเทศ ได้แก่ แอฟริกาใต้, นามิเบีย และ เลโซโท
ขอแนะนำตัวก่อน ชื่อตูน ชื่นชอบการท่องเที่ยวในแนว solo backpacker มากๆ ค่อนข้าง เครซี่เลย นี่ไม่ใช่การท่องเที่ยวคนเดียวครั้งแรก และคงไม่ใช่ประเทศแรกแน่นอน เพราะตูน เที่ยวมาทั้งหมดตอนนี้ กว่า 30 ประเทศ เป็นคนที่ถ้าคลั่งอะไรแล้วจะต้องไปให้สุด เราเคยไปทริปทรานไซบีเรีย จากจีน และกลับทางตุรกี นานถึง 58 วัน เป็นคนถ่ายรูปไม่เก่งแต่วางแผนเก่ง เอาตัวรอดเก่ง (เดียวจะรู้ว่าเอาตัวรอดยังไง ทำไมถึงมั่นใจว่าตัวเองรอดแน่นอน) ตูนตัดสินใจแล้วว่า จะใช้เวลาทั้งหมดทั้งชีวิตถ้าเป็นไปได้ว่าจะท่องเที่ยวให้ทั่วโลกในแบบฉบับของตัวเอง ประหยัดแต่ไม่อดกินแน่นอน และจะเลือกแต่ในที่ที่ไม่เป็นกระแส
การเขียนเล่าเรื่องนี่ตั้งใจจะเล่าเป็นประสบการณ์ไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวแต่จะบอกข้อมูลเป็นประโยชน์ให้ทุกคนได้ทราบกัน ขอบคุณที่อ่านมาถึงจนตอนนี้ ติดตามต่อๆไปด้วยนะ facebook Fanpage : Dramatravel เข้ามาถามเรื่องท่องเที่ยวกันได้
Email : KANIN.BACKPACKER@GMAIL.COM
IG : Bungtoon
มีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ตรงนี้นะ
(เช่น สะกดคำ ภาษา คำพูด)
ทำไมถึงอยากไป นามิเบีย แอฟริกาใต้ และ เลโซโท?
อย่างที่บอกว่าเคยไปไซบีเรียมาแล้ว ในช่วงที่ไปเที่ยวประเทศจอร์เจีย ตูนคิดถึงทริปต่อไปทันที เข้าเช็คทันที จนกวาดตาลงบน google map จนตัดสินใจได้ว่า เออ แอฟริกาใต้ นามิเบีย เลโซโท เพราะ เคยเห็น ICON ของเรา คือ พี่มิ้น เจ้าของเพจ iroamalone เคยไปมาแล้วน่าสนใจมาก เป็นที่ที่คนไทยน้อยคนจะได้ไปสัมผัส แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจจองเครื่องบินตอนนั้นหรอก เพราะยังไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนจริงตอนนั้น จนกลับมากรุงเทพพอโปรโมชั่นของ Kenya Airways มา ตูนเลยตัดสินใจจอง แถมได้ตั๋วไปGuangzhou 1 ที่นั่งด้วย ยิ่งทำให้ตัดสินใจง่ายใหญ่เลย แต่ก่อนที่จะจองตูนก็ได้หาข้อมูลทัวร์ที่ นามิเบียมาแล้ว เลยกำหนดวัดช่วง overland tour จะเริ่มได้พอดี ส่วนวันกลับ ตูนจัดการให้มันเต็มวีซ่าของแอฟริกาใต้ รวมๆทั้งหมดนานถึง 45 วัน
อุปสรรค์ของทริปนี้คือ
1.วีซ่าประเทศนามิเบีย ที่จะต้องส่งเอกสารไปที่สถานทูตนามิเบียมี่ประเทศมาเลเซีย เรื่องวีซ่าสามารถมาถามได้ ไม่ได้ยากมากนัก
2.ด้านความปลอดภัยที่แอฟริกาใต้ เพราะขึ้นชื่อว่าอันตรายแห่งหนี่งของโลก
3.การจัดการเรื่องเงินที่จะต้องจัดการให้เพียงพอเพราะกิจกรรมเยอะมาก
4.เรื่องวัคซีน แต่เรื่องนี้ไม่ได้ยากมากนัก ไปฉีดที่สถานเสาวภา
5.อุปสรรค์สำคัญระหว่างทริป อันนี้อยากให้ติดตามมากๆ แต่ไม่เล่าตอนนี้ ติดตามนะ
ทริปนี้มีอะไรพิเศษ
ทริปนี้ เป็นทริปธรรมชาติของจริง ไม่ว่าจะเป็นแคมป์ในทวีปแอฟริกา ทะเลทราย โลมา วาฬ ปีนเขา ปีนเนินทราย เล่นสไลเดอร์ทราย ซาฟารี พายเรือแคนนู ชิมไวน์ ดูแมวน้ำ ดูเพนกวิน ลงกรงดูฉลาม ลงครอสวินเซิร์ฟ เดินเขาที่เลโซโท ปีนเขาที่แอฟริกาใต้ตั้งหลายที่ เดินงงๆที่เคปทาวน์ เยอะไปหมด ทั้งหมดแทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตทั้งนั้น
[CR] ประสบการณ์ Solo Backpacker in Namibia, South Africa and Lesotho 45 วัน โคตรมหากาพย์กาฬทวีป (Rewrite)
เมื่อเอ่ยถึงทวีปแอฟริกา หลายคนคงได้ยินอยู่บ้างในเรื่องของทะเลทราย สัตว์ป่า ประท้วง ความอดอยาก แต่ในทริปนี้ เราจะพาทุกคนไป 3 ประเทศ ได้แก่ แอฟริกาใต้, นามิเบีย และ เลโซโท
ขอแนะนำตัวก่อน ชื่อตูน ชื่นชอบการท่องเที่ยวในแนว solo backpacker มากๆ ค่อนข้าง เครซี่เลย นี่ไม่ใช่การท่องเที่ยวคนเดียวครั้งแรก และคงไม่ใช่ประเทศแรกแน่นอน เพราะตูน เที่ยวมาทั้งหมดตอนนี้ กว่า 30 ประเทศ เป็นคนที่ถ้าคลั่งอะไรแล้วจะต้องไปให้สุด เราเคยไปทริปทรานไซบีเรีย จากจีน และกลับทางตุรกี นานถึง 58 วัน เป็นคนถ่ายรูปไม่เก่งแต่วางแผนเก่ง เอาตัวรอดเก่ง (เดียวจะรู้ว่าเอาตัวรอดยังไง ทำไมถึงมั่นใจว่าตัวเองรอดแน่นอน) ตูนตัดสินใจแล้วว่า จะใช้เวลาทั้งหมดทั้งชีวิตถ้าเป็นไปได้ว่าจะท่องเที่ยวให้ทั่วโลกในแบบฉบับของตัวเอง ประหยัดแต่ไม่อดกินแน่นอน และจะเลือกแต่ในที่ที่ไม่เป็นกระแส
การเขียนเล่าเรื่องนี่ตั้งใจจะเล่าเป็นประสบการณ์ไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวแต่จะบอกข้อมูลเป็นประโยชน์ให้ทุกคนได้ทราบกัน ขอบคุณที่อ่านมาถึงจนตอนนี้ ติดตามต่อๆไปด้วยนะ facebook Fanpage : Dramatravel เข้ามาถามเรื่องท่องเที่ยวกันได้
Email : KANIN.BACKPACKER@GMAIL.COM
IG : Bungtoon
มีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ตรงนี้นะ
(เช่น สะกดคำ ภาษา คำพูด)
ทำไมถึงอยากไป นามิเบีย แอฟริกาใต้ และ เลโซโท?
อย่างที่บอกว่าเคยไปไซบีเรียมาแล้ว ในช่วงที่ไปเที่ยวประเทศจอร์เจีย ตูนคิดถึงทริปต่อไปทันที เข้าเช็คทันที จนกวาดตาลงบน google map จนตัดสินใจได้ว่า เออ แอฟริกาใต้ นามิเบีย เลโซโท เพราะ เคยเห็น ICON ของเรา คือ พี่มิ้น เจ้าของเพจ iroamalone เคยไปมาแล้วน่าสนใจมาก เป็นที่ที่คนไทยน้อยคนจะได้ไปสัมผัส แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจจองเครื่องบินตอนนั้นหรอก เพราะยังไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนจริงตอนนั้น จนกลับมากรุงเทพพอโปรโมชั่นของ Kenya Airways มา ตูนเลยตัดสินใจจอง แถมได้ตั๋วไปGuangzhou 1 ที่นั่งด้วย ยิ่งทำให้ตัดสินใจง่ายใหญ่เลย แต่ก่อนที่จะจองตูนก็ได้หาข้อมูลทัวร์ที่ นามิเบียมาแล้ว เลยกำหนดวัดช่วง overland tour จะเริ่มได้พอดี ส่วนวันกลับ ตูนจัดการให้มันเต็มวีซ่าของแอฟริกาใต้ รวมๆทั้งหมดนานถึง 45 วัน
อุปสรรค์ของทริปนี้คือ
1.วีซ่าประเทศนามิเบีย ที่จะต้องส่งเอกสารไปที่สถานทูตนามิเบียมี่ประเทศมาเลเซีย เรื่องวีซ่าสามารถมาถามได้ ไม่ได้ยากมากนัก
2.ด้านความปลอดภัยที่แอฟริกาใต้ เพราะขึ้นชื่อว่าอันตรายแห่งหนี่งของโลก
3.การจัดการเรื่องเงินที่จะต้องจัดการให้เพียงพอเพราะกิจกรรมเยอะมาก
4.เรื่องวัคซีน แต่เรื่องนี้ไม่ได้ยากมากนัก ไปฉีดที่สถานเสาวภา
5.อุปสรรค์สำคัญระหว่างทริป อันนี้อยากให้ติดตามมากๆ แต่ไม่เล่าตอนนี้ ติดตามนะ
ทริปนี้มีอะไรพิเศษ
ทริปนี้ เป็นทริปธรรมชาติของจริง ไม่ว่าจะเป็นแคมป์ในทวีปแอฟริกา ทะเลทราย โลมา วาฬ ปีนเขา ปีนเนินทราย เล่นสไลเดอร์ทราย ซาฟารี พายเรือแคนนู ชิมไวน์ ดูแมวน้ำ ดูเพนกวิน ลงกรงดูฉลาม ลงครอสวินเซิร์ฟ เดินเขาที่เลโซโท ปีนเขาที่แอฟริกาใต้ตั้งหลายที่ เดินงงๆที่เคปทาวน์ เยอะไปหมด ทั้งหมดแทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตทั้งนั้น
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้