แน่นอนว่าเราอยู่ในยุคที่การแข่งขันสูง ทุกคนกำลังวิ่งในลู่ของตัวเองอย่างเต็มความสามารถ โดยมีความสำเร็จเป็นเดิมพัน แต่ก็อย่าลืมให้เวลาตัวเองได้ทบทวนชีวิตบ้างล่ะ เพราะบางทีเราอาจพลาดเรื่องสำคัญบางอย่างไป โดยไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้เลย
1.ครอบครัว
เมื่อพูดถึงคำนี้ แน่นอนว่ามันหมายถึงสิ่งที่เรารักที่สุด ทว่าในขณะเดียวกัน ก็เป็นสิ่งที่เราคุ้นชินและมองข้ามมันมากที่สุดเช่นกัน เรามักจะโฟกัสกับภาระหน้าที่ จนลืมไปเลยว่าคนที่รออยู่เบื้องหลัง ลึกๆแล้วเขาก็ต้องการความรักความอบอุ่นเหมือนกัน แม้วันนี้อาจไม่ใช่วันสุดท้ายของชีวิตเรา แต่สำหรับคนในครอบครัว เรามิอาจคาดเดาได้เลย ว่าเขาจะจากเราไปเมื่อไหร่
2.ความสุข
หลายครั้งเราเจอเรื่องที่ส่งผลทางแง่ลบต่อจิตใจ ประกอบกับการใช้ชีวิตที่ซ้ำซากจำเจ จึงทำให้เราขาดกำลังใจที่จะมองโลกในแง่บวก และความสามารถในการมองโลกนี้ก็มิอาจเกิดขึ้นเองได้ ด้วยการใช้ชีวิตอยู่แต่ในกรอบเดิมๆ ออกไปเที่ยว หรือเรียนรู้สิ่งใหม่บ้าง จะกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้ดีเลยทีเดียว การพูดคุยกับเพื่อนที่รู้ใจ เพื่อทบทวนตัวเอง ก็เป็นอีกวิธีที่ผมแนะนำ เพราะบางครั้ง ความคิดแง่บวกก็ซ่อนอยู่ในใจลึกๆ ไม่ว่าชีวิตจะตกต่ำแค่ไหน มันก็ต้องมีอะไรดีๆที่หลงเหลืออยู่ในใจบ้าง การได้พูดมันออกมาด้วยตัวเอง จะตอบย้ำว่าชีวิตไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ๆเสมอไป
3.สุขภาพ
รากฐานของชีวิตที่หลายคนมองข้าม เหล่าวัยรุ่นไฟแรงอาจให้ความสำคัญกับหน้าการงานก่อน หากมีเวลาว่าง จึงคิดอยากจะเข้าฟิตเนส ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร ผมไม่ได้บอกให้คุณทิ้งหน้าที่ แล้วไปออกกำลังกายทั้งวันเสียหน่อย แต่โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้ว หากไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่ สิ่งที่อยากจะทำก็จะถูกพลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย จนในที่สุดก็ถูกลืม
เขียนง่ายก็คือ สิ่งที่อยากจะทำ จะยังคงเป็นเพียงสิ่งที่อยากทำต่อไป แต่เมื่อไหร่ที่มันถูกเปลี่ยนเป็นเป้าหมาย มันจะถูกทำขึ้นจริงๆ ตามวันเวลาที่เรากำหนดไว้
4.ความฝัน
มีทั้งคนที่ลงมือทำตามฝันทันที และคนที่รอให้ความพร้อมมาเยือนเสียก่อน จึงพอใจที่จะทำมัน ซึ่งก็ไม่มีใครผิดใครถูก แต่ในความจริงแล้ว เรามิอาจรู้ได้เลย ว่าลมหายใจสุดท้ายจะมาถึงเมื่อไหร่ และถ้ามันเกิดขึ้นก่อนที่คุณจะมีความพร้อมในการไล่ตามความฝันล่ะ แน่นอน ความฝันของเราก็จะมลายหายไปพร้อมกับกายหยาบของเราตลอดการ
แต่ก็อย่าเสียเวลากับมัน จนไม่มีเวลาทำตามความสำเร็จในชีวิตที่ตั้งไว้ล่ะ แต่ถ้าคุณประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วล่ะก็ เอาเลย เต็มที่กับความฝันซะ
5.ความสำเร็จ
ข้อนี้ก็แล้วคุณเลย ว่าจะนิยามความสำเร็จของตัวเองไว้ว่าอย่างไร มันไม่จำเป็นต้องหมายถึงการเรียนจบเกียรตินิยม และได้เข้าทำงานในบริษัทดีๆ ตามที่สังคมกำหนดก็ได้ อันที่จริงมันเป็นสูตรสำเร็จของยุคอุตสาหกรรมหนักเสียมากกว่า ตอนนี้โลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลมานาน จนมันกลายเป็น new normal ของเราไปแล้ว เป็นยุคที่ความสำเร็จอยู่เหนือนิยามของสังคม ทุกคนสามารถออกแบบความสำเร็จของตัวเองได้ และเลือกเส้นทางที่จะดินทางไปสู่เป้าหมายได้ตามแต่สะดวก มีข้อมูลมากมายให้เรียนรู้ในโลกออนไลน์ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องหามันจากในห้องเรียนเสมอไป
สรุป
ชีวิตที่ดี มาจากสถาบันครอบครัวที่มีคุณภาพ ผมจึงจัดอันดับให้ครอบครัวมีความสำคัญอันดับแรก เมื่อทุกคนในครอบครัวคอยสนับสนุนและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ความสุขก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก และความสุขนี่เอง เป็นบ่อเกิดแห่งความคิดสร้างสรรค์ บันดาลพลังให้เราใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความหวัง ทว่าความแข็งแกร่งทางจิตใจ ก็ยังไม่เพียงพอ ความพร้อมของร่างกาย ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณมีพลังที่จะทำตามความฝัน ลองนึกภาพตัวเองมีแรงทำเพียงแค่งานประจำ แล้วไม่มีแรงที่จะทำงานอดิเรกต่อสิ ความฝันของคุณคงพังลงง่ายๆ เพียงเพราะหมดแรงกับภาระที่จำเป็นไปแล้ว
เมื่อทำสามข้อแรกสำเร็จ ข้อสี่และห้าจะตามมาเอง และเนื่องด้วยความสำเร็จอาจไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ววัน จึงไม่ควรเอาความฝันไปฝากไว้กับมันเสียทั้งหมด
รากฐานคือ ครอบครัว ความสุข สุขภาพ งอกเงยเป็น ความฝัน และความสำเร็จ
แล้วผู้อ่านคิดว่าไงครับ มีอะไรอีกบ้างที่สำคัญกับชีวิตคุณ
ติดตามบทความข้อคิดชีวิตได้ที่แฟนเพจ: บันทึกของนักล่าฝัน
https://m.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99-848930048611946/
5 อันดับสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ที่หลายคนมองข้าม
1.ครอบครัว
เมื่อพูดถึงคำนี้ แน่นอนว่ามันหมายถึงสิ่งที่เรารักที่สุด ทว่าในขณะเดียวกัน ก็เป็นสิ่งที่เราคุ้นชินและมองข้ามมันมากที่สุดเช่นกัน เรามักจะโฟกัสกับภาระหน้าที่ จนลืมไปเลยว่าคนที่รออยู่เบื้องหลัง ลึกๆแล้วเขาก็ต้องการความรักความอบอุ่นเหมือนกัน แม้วันนี้อาจไม่ใช่วันสุดท้ายของชีวิตเรา แต่สำหรับคนในครอบครัว เรามิอาจคาดเดาได้เลย ว่าเขาจะจากเราไปเมื่อไหร่
2.ความสุข
หลายครั้งเราเจอเรื่องที่ส่งผลทางแง่ลบต่อจิตใจ ประกอบกับการใช้ชีวิตที่ซ้ำซากจำเจ จึงทำให้เราขาดกำลังใจที่จะมองโลกในแง่บวก และความสามารถในการมองโลกนี้ก็มิอาจเกิดขึ้นเองได้ ด้วยการใช้ชีวิตอยู่แต่ในกรอบเดิมๆ ออกไปเที่ยว หรือเรียนรู้สิ่งใหม่บ้าง จะกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้ดีเลยทีเดียว การพูดคุยกับเพื่อนที่รู้ใจ เพื่อทบทวนตัวเอง ก็เป็นอีกวิธีที่ผมแนะนำ เพราะบางครั้ง ความคิดแง่บวกก็ซ่อนอยู่ในใจลึกๆ ไม่ว่าชีวิตจะตกต่ำแค่ไหน มันก็ต้องมีอะไรดีๆที่หลงเหลืออยู่ในใจบ้าง การได้พูดมันออกมาด้วยตัวเอง จะตอบย้ำว่าชีวิตไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ๆเสมอไป
3.สุขภาพ
รากฐานของชีวิตที่หลายคนมองข้าม เหล่าวัยรุ่นไฟแรงอาจให้ความสำคัญกับหน้าการงานก่อน หากมีเวลาว่าง จึงคิดอยากจะเข้าฟิตเนส ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร ผมไม่ได้บอกให้คุณทิ้งหน้าที่ แล้วไปออกกำลังกายทั้งวันเสียหน่อย แต่โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้ว หากไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่ สิ่งที่อยากจะทำก็จะถูกพลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย จนในที่สุดก็ถูกลืม
เขียนง่ายก็คือ สิ่งที่อยากจะทำ จะยังคงเป็นเพียงสิ่งที่อยากทำต่อไป แต่เมื่อไหร่ที่มันถูกเปลี่ยนเป็นเป้าหมาย มันจะถูกทำขึ้นจริงๆ ตามวันเวลาที่เรากำหนดไว้
4.ความฝัน
มีทั้งคนที่ลงมือทำตามฝันทันที และคนที่รอให้ความพร้อมมาเยือนเสียก่อน จึงพอใจที่จะทำมัน ซึ่งก็ไม่มีใครผิดใครถูก แต่ในความจริงแล้ว เรามิอาจรู้ได้เลย ว่าลมหายใจสุดท้ายจะมาถึงเมื่อไหร่ และถ้ามันเกิดขึ้นก่อนที่คุณจะมีความพร้อมในการไล่ตามความฝันล่ะ แน่นอน ความฝันของเราก็จะมลายหายไปพร้อมกับกายหยาบของเราตลอดการ
แต่ก็อย่าเสียเวลากับมัน จนไม่มีเวลาทำตามความสำเร็จในชีวิตที่ตั้งไว้ล่ะ แต่ถ้าคุณประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วล่ะก็ เอาเลย เต็มที่กับความฝันซะ
5.ความสำเร็จ
ข้อนี้ก็แล้วคุณเลย ว่าจะนิยามความสำเร็จของตัวเองไว้ว่าอย่างไร มันไม่จำเป็นต้องหมายถึงการเรียนจบเกียรตินิยม และได้เข้าทำงานในบริษัทดีๆ ตามที่สังคมกำหนดก็ได้ อันที่จริงมันเป็นสูตรสำเร็จของยุคอุตสาหกรรมหนักเสียมากกว่า ตอนนี้โลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลมานาน จนมันกลายเป็น new normal ของเราไปแล้ว เป็นยุคที่ความสำเร็จอยู่เหนือนิยามของสังคม ทุกคนสามารถออกแบบความสำเร็จของตัวเองได้ และเลือกเส้นทางที่จะดินทางไปสู่เป้าหมายได้ตามแต่สะดวก มีข้อมูลมากมายให้เรียนรู้ในโลกออนไลน์ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องหามันจากในห้องเรียนเสมอไป
สรุป
ชีวิตที่ดี มาจากสถาบันครอบครัวที่มีคุณภาพ ผมจึงจัดอันดับให้ครอบครัวมีความสำคัญอันดับแรก เมื่อทุกคนในครอบครัวคอยสนับสนุนและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ความสุขก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก และความสุขนี่เอง เป็นบ่อเกิดแห่งความคิดสร้างสรรค์ บันดาลพลังให้เราใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความหวัง ทว่าความแข็งแกร่งทางจิตใจ ก็ยังไม่เพียงพอ ความพร้อมของร่างกาย ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณมีพลังที่จะทำตามความฝัน ลองนึกภาพตัวเองมีแรงทำเพียงแค่งานประจำ แล้วไม่มีแรงที่จะทำงานอดิเรกต่อสิ ความฝันของคุณคงพังลงง่ายๆ เพียงเพราะหมดแรงกับภาระที่จำเป็นไปแล้ว
เมื่อทำสามข้อแรกสำเร็จ ข้อสี่และห้าจะตามมาเอง และเนื่องด้วยความสำเร็จอาจไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ววัน จึงไม่ควรเอาความฝันไปฝากไว้กับมันเสียทั้งหมด
รากฐานคือ ครอบครัว ความสุข สุขภาพ งอกเงยเป็น ความฝัน และความสำเร็จ
แล้วผู้อ่านคิดว่าไงครับ มีอะไรอีกบ้างที่สำคัญกับชีวิตคุณ
ติดตามบทความข้อคิดชีวิตได้ที่แฟนเพจ: บันทึกของนักล่าฝัน https://m.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99-848930048611946/