‘เจมส์’ แย้มเรื่องรัก ขอเจอคนดีมาอยู่เคียงข้าง

กระทู้ข่าว
ตกเป็นข่าวเม้าท์ว่า พระเอกตี๋ เจมส์ มาร์ เป็นทายาทมหาเศรษฐี มีชื่อจริงๆว่า เจมส์ อัศรัสกร เป็นบุตรชายของนักธุรกิจพันล้าน สมิต อัศรัสกร นอกจากนี้ เจมส์ มาร์ วันเกิดปีนี้ก็ย่างเข้าสู่วัยเบญจเพสอีกด้วย หลายคนก็อดเป็นห่วงพระเอกดังไม่ได้ ล่าสุดเจอ เจมส์ มาร่วมงานแถลงข่าวเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 6 ที่พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระราชวังพญาไท เลยถามว่า...

เราเป็นทายาทมหาเศรษฐีจริงรึเปล่า? (หัวเราะ) “ไม่ใช่หรอกครับ สาเหตุที่ผมไม่ได้ใช้นามสกุลนี้ในการเข้าวงการบันเทิง เพราะตอนที่เข้าช่อง 3 การที่ไปเจอพี่เอ-ศุภชัย การที่นักแสดงคนนึงจะมีชื่อที่ทุกคนเรียกแล้วจำได้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ส่วนใหญ่ทุกคนจะมีชื่อเล่นกับชื่อจริง บังเอิญชื่อจริงของผมคือเจมส์ เรามีชื่อแล้วก็นามสกุลเลย พี่เอเลยถามว่านามสกุลจีนของพ่อคืออะไร เพราะฝั่งพ่อท่านเป็นคนจีน ก็เลยบอกว่ามาร์ เค้าก็เลยใช้ชื่อนี้ในวงการบันเทิง”

คนมาถามเรื่องนี้เยอะมั้ย? “นี่คือครั้งแรกครับ คือที่บ้านผมเป็นครอบครัวใหญ่ ได้ปรึกษากับที่บ้าน พี่เอก็ได้คุยกับที่บ้านขออนุญาตใช้ชื่อนี้ ด้วยเราจะไปทำอะไรก็ตามเราก็ไม่อยากให้ไปกระทบกับธุรกิจที่บ้าน ครอบครัวผมเป็นครอบครัวใหญ่มากๆ ผมก็เหมือนเป็นหลานของที่บ้านคนนึงเท่านั้นเอง ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย ผมทำงานสร้างชีวิตด้วยตัวเอง ส่วนที่บ้านเราก็โชคดีที่เราได้เกิดมาอยู่ในครอบครัวที่ใหญ่ มีพี่น้องเยอะ นอกเหนือจากนั้นเราก็เป็นแค่หลานคนนึง ถามว่าพ่อทำธุรกิจจริงมั้ย จริงครับแต่ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง ผมก็เป็นผมอย่างนี้มา 5 ปีแล้วครับ” ใกล้จะวันเกิดแล้วปีนี้อายุ 25 ปีบริบูรณ์ โบราณถือเรื่องเบญจเพสเรากลัวมั้ย? “ไม่ถึงกับกลัว แต่ก็ไม่ลบหลู่ ผมพยายามคิดว่าช่วงเบญจเพสเป็นช่วงที่ทุกคนจะต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่ว่าปีนี้ของผมจะออกมาในรูปแบบไหนก็ตาม ผมก็จะใช้ชีวิตอย่างระวังให้มากที่สุด แล้วก็ใช้ชีวิตระวังให้มากที่สุดไปตลอดชีวิต แต่ถ้ามีผู้ใหญ่ทักไปแก้เคล็ดวัดนี้ ไปทำนั่นทำนี่ ถวายสังฆทานมากขึ้น เราก็คงทำแหละครับ ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้เราได้รู้เรื่องเบญจเพส มันจะทำให้เราได้เรียนรู้และเตือนตัวเองนิดนึงว่าให้ใช้ชีวิตระวังเพราะส่วนใหญ่อายุ 25 ปี มันกำลังย่างก้าวจากวัยรุ่นไปเป็นวัยผู้ใหญ่ ก็อาจจะมีการใช้ชีวิตที่ไม่ลงตัวอยู่”

มีของขวัญพิเศษให้ตัวเองมั้ย? “ยังไม่ได้คิดเลย ตอนนี้ในชีวิตที่เรามีก็ค่อนข้างพอเพียงแล้วก็ครบสำหรับดูแลชีวิตตัวเองได้แล้วครับ” หวังมีคนดีๆเข้ามาในชีวิตบ้างมั้ย? “อันนั้นขอทุกวันอยู่แล้ว ขอให้มีเพื่อน พี่น้องดีๆเข้ามาในชีวิต จะได้อยู่เป็นเพื่อนกันนานๆ ถ้าเราจะมีความรักทั้งทีก็อยากให้มีความรักที่ดี ผมเองรู้สึกกลัวว่าจะเจอความรักที่ไม่ดีนะ ถ้าเรายังไม่พร้อมที่จะเจอแล้วเราไปเร่งจะทำให้ความรักครั้งนั้นไม่ดี เรารอก็ได้ เราอยู่คนเดียวก็ได้ เล่นกับแมวไปก่อนก็ได้ เป็นคนที่คิดเยอะเรื่องนี้มากๆ อาจจะเป็นเหตุผลนึงที่ทุกวันนี้ยังโสดอยู่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่เราจะเก็บมาคิดทุกคืนนะครับ เป็นเรื่องที่นานๆจะคิดที ก็ยังเชื่อว่าสิ่งที่ทำอยู่โอเคเพราะเรายังมีความสุขอยู่”.



https://www.thairath.co.th/content/1315372
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่