ปัจจุบันเราทราบว่า กีฬามวยไทย ถูกบรรจุแข่งขันในรายการ ONE Championship เมื่อไม่นานมานี้ นักมวยไทยเช่น สามเอ ไก่ย่างห้าดาว, น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว, สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล, ฟาบิโอ ปินก้า เป็นต้น ได้เข้าแข่งขันภายใต้กฎกติกามวยไทยมาแล้วในรายการนี้ ซึ่งโด่งดังระดับโลก โดยเหตุการณ์นี้อาจจะไม่เกิดขึ้นถ้าขาด คนไทยที่มีชื่อว่า ชาตรี ศิษย์ยอดธง และครูตุ๊ย ยอดธง เสนานันท์
คุณชาตรี ตรีศิริพิศาล ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น เกิดและโตที่เมืองไทย มีชื่อในวงการมวยไทยคือ ชาตรี ศิษย์ยอดธง มีความชื่นชอบในกีฬามวยไทยเป็นอย่างมาก ได้เรียนมวยไทยตั้งแต่อายุ 14 ปีจากครูตุ๊ย ยอดธง เสนานันท์ แล้วได้เข้าแข่งขันมวยไทยหลายครั้ง หลายปีต่อมาได้ไปเรียนต่อที่อเมริกา จากนั้นคุณชาตรีได้จัดตั้งลีกส์การต่อสู้แบบผสมผสานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่นักกีฬาจากหลายประเทศมาแข่งขันกัน ช่วงต้นๆจะมีการแข่งขันในกติกา MMA ทั้งหมด จนต่อมาได้เพิ่มการแข่งขันกติกามวยไทยเต็มรูปแบบที่สามารถใช้อาวุธได้ครบเครื่อง
ผมมองว่าคุณชาตรี ทำให้นักมวยไทยระดับอดีตแชมป์เปี้ยนในประเทศไทยมีอาชีพมีรายได้ที่ยั่งยืนขึ้น ไม่เหมือนสมัยก่อนที่นักมวยได้แชมป์ในเวทีใหญ่แล้วแขวนนวมเลิกชก ไปเป็นเทรนเนอร์ในไทยหรือทำงานอื่น รายได้อาจไม่เพียงพอในการใช้ชีวิตจนถึงบั้นปลาย แต่หลังจากคุณชาตรีได้ก่อตั้ง Evolve Gym ที่ประเทศสิงคโปร์ และบรรจุมวยไทยเป็น 1 ในศาสตร์ที่ใช้สอนผู้รับบริการ จึงมีการจ้างโค้ชมวยไทยหลายๆคนที่เคยเป็นอดีตแชมป์ในเวทีลุมพินี หรือราชดำเนินมาทำงาน และให้เงินเดือนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับรายได้ในไทย และยังมีนักมวยไทยที่เป็นทั้งครูสอนที่สิงคโปร์และไปแข่งขันบนเวที ONE Championship อีกด้วย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีมาก ถ้าครูตุ๊ย ยอดธง ยังมีชีวิตอยู่ท่านต้องภูมิใจมากแน่ๆ
เรื่องราวชีวิตของคุณชาตรี กว่าจะเป็นผู้บริหาร ONE Championship, Evolve Gym ที่สิงคโปร์ และความผูกพันกับมวยไทย
สัมภาษณ์ครูตุ๊ย ยอดธง เสนานันท์ และบรรยากาศใน Evolve Gym ที่สิงคโปร์
ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้งรายการ ONE Championship, Evolve Gym ที่สิงคโปร์ ผู้ต่อประกายชีวิตให้นักมวยไทยและมวยไทย
คุณชาตรี ตรีศิริพิศาล ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น เกิดและโตที่เมืองไทย มีชื่อในวงการมวยไทยคือ ชาตรี ศิษย์ยอดธง มีความชื่นชอบในกีฬามวยไทยเป็นอย่างมาก ได้เรียนมวยไทยตั้งแต่อายุ 14 ปีจากครูตุ๊ย ยอดธง เสนานันท์ แล้วได้เข้าแข่งขันมวยไทยหลายครั้ง หลายปีต่อมาได้ไปเรียนต่อที่อเมริกา จากนั้นคุณชาตรีได้จัดตั้งลีกส์การต่อสู้แบบผสมผสานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่นักกีฬาจากหลายประเทศมาแข่งขันกัน ช่วงต้นๆจะมีการแข่งขันในกติกา MMA ทั้งหมด จนต่อมาได้เพิ่มการแข่งขันกติกามวยไทยเต็มรูปแบบที่สามารถใช้อาวุธได้ครบเครื่อง
ผมมองว่าคุณชาตรี ทำให้นักมวยไทยระดับอดีตแชมป์เปี้ยนในประเทศไทยมีอาชีพมีรายได้ที่ยั่งยืนขึ้น ไม่เหมือนสมัยก่อนที่นักมวยได้แชมป์ในเวทีใหญ่แล้วแขวนนวมเลิกชก ไปเป็นเทรนเนอร์ในไทยหรือทำงานอื่น รายได้อาจไม่เพียงพอในการใช้ชีวิตจนถึงบั้นปลาย แต่หลังจากคุณชาตรีได้ก่อตั้ง Evolve Gym ที่ประเทศสิงคโปร์ และบรรจุมวยไทยเป็น 1 ในศาสตร์ที่ใช้สอนผู้รับบริการ จึงมีการจ้างโค้ชมวยไทยหลายๆคนที่เคยเป็นอดีตแชมป์ในเวทีลุมพินี หรือราชดำเนินมาทำงาน และให้เงินเดือนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับรายได้ในไทย และยังมีนักมวยไทยที่เป็นทั้งครูสอนที่สิงคโปร์และไปแข่งขันบนเวที ONE Championship อีกด้วย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีมาก ถ้าครูตุ๊ย ยอดธง ยังมีชีวิตอยู่ท่านต้องภูมิใจมากแน่ๆ
เรื่องราวชีวิตของคุณชาตรี กว่าจะเป็นผู้บริหาร ONE Championship, Evolve Gym ที่สิงคโปร์ และความผูกพันกับมวยไทย
สัมภาษณ์ครูตุ๊ย ยอดธง เสนานันท์ และบรรยากาศใน Evolve Gym ที่สิงคโปร์