มีเหตุผลของคนแอบรักไหม สุขทุกข์กันมาขนาดไหน สุดท้ายลงเอ่ยอย่างไรกันบ้าง คุณได้เรียนรู้อะไรจากการแอบรักกันบ้าง มาแชร์ให้เป็นข้อคิดร่วมกันนะคะ
(ข้อใช้พื้นที่นี้เก็บความทรงจำของตัวเองด้วย)
เราแอบรักเพื่อนร่วมคณะ มาตลอด 10 ปี
- เริ่มจากความไม่เข้าความรู้ตัวเอง... เวลาที่เข้าห้องเรียนทีไร สายตาเรากับเขาก็จะมาสบกันโดยบังเอิญ เราเป็นฝ่ายหลบตาเสมอ
-ด้วยความมึนๆของเขาที่มีบางอย่างมาถูกใจเรา เขาชอบเพลงแนว heavy metal ซึ่งเราไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับแนวเพลงนี้เลย ของเราชอบแนว rock, heavy rock (แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ตกผลึก ว่าตัวเองเป็นคนแนวนี้ ชอบดนตรีแบบนี้ เพราะภาพที่เราเป็นคือเด็กเรียน เรียบร้อย มีความรับผิดชอบสูง) แต่แล้วความเป็นเขามาสะท้อนตัวตนเราที่อยู่ในส่วนลึกของเรา ช่วยดึงความเป็นตัวเราออกมาเรื่อยๆ เขาสะท้อนความสุขบางอย่างในตัวเรา ได้โดยที่เราไม่รู้ตัว (เพิ่งมากลั่นกรองได้ในช่วงปีหลัง)
- เราคอยมองหาเขาเวลาที่เราเดินผ่านห้องเรียนเขา เราไปดูเขาเล่นดนตรี แอบเชียร์ตลอด เรามีความสุขมาที่รู้ว่าเขาได้ร้องเพลงกับวงดนตรีของเขา เรารู้ว่สเขาชอบดนตรีมาก
- เรารับรู้ตลอดว่าเขามีคนที่เขาชอบ เขาตามจีบอยู่ พอได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ชอบเขาตอบ เพราะเขาไม่เท่ห์พอ เรานี่หงุดหงิดมากเลย มีสิทธิ์อะไรมาว่าเพื่อนเรา เพื่อนเราก็มีมุมดีๆ ทำไมต้องพูดถึงเพื่อนเราแบบนี้ด้วย ของขึ้นเลย 555 แต่เราก็เจ็บทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่กับใครนู้นนี้ที่เขาชอบ เจ็บจริงๆนะ กลับร้องไห้ทีาห้องทุกครั้งเลย
- เราอยู่กันคนละกลุ่ม แต่ก็มีได้ทำงานอยู่กลุ่มด้วยกันบ้างบางครั้ง ดีใจมากเลย แต่ไม่ได้แสดงออก
- เคยได้ไปทำงาน ทำงานวีดีโอสั้นๆ ที่ห้องหอพักเขา (ไปกันเป็นกลุ่มนะ) สมกับเป็นห้องผู้ชายจริง รกมากๆ แต่ก็เป็นอีกความทรงจำหนึ่ง ได้เข้าใกล้ชีวิต ตัวตนของเขามากขึ้น
- เคยได้เล่นกีฬาด้วยกันบ้างที่มหาวิทยาลัย เป็นช่วงเวลาที่เราก็รู้สึกดีมากๆที่ได้ใช้เวลาด้วยกันนอกห้องเรียน (พร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ)
- มีบางครั้งที่เขาเสนอตัวช่วยเหลือเรา เราดีใจมาก ทั้งที่ปกติ ไม่เคยทำ เขาจะเสนอตัวทำต่อเมื่อมีเหล้าเป็นรางวัล(เขาเป็นพวกดิบๆ ชอบสังสรรค์)
- เรารู้ว่าเขาไม่ได้ชอบแบบเราเลย เขาชอบผู้หญิงตัวเตี้ยๆเล็กๆ แต่เราสูง เขาชอบคนขาวๆหมวยๆ แต่เราผิวคนผิวน้ำตาล ตาโต หน้าไทยเลย เขาชอบผมสั้น แต่เราไว้ผมยาว....เราเปลี่ยนรูปลักษณ์เราแทบไม่ได้เลย มีอย่างเดียวที่พอทำได้คือไปตัดผม เผื่อเราพอจะใกล้เคียงในแบบนี้เขาชอบบ้าง และก็แน่นอน ไม่เป็นผลเลย ทั้งสิ้น (เราหน้าบานไม่เหมาะกับผมสั้นสักนิด 555)
- เรากับเขาต่างกันมาก มีบางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถบอกความในใจเราได้ หรือก้าวผ่านเส้นบางๆในใจของเราได้ ไม่รู้ว่าเรากลัว หรืออะไร เราเพียงรู้สึกว่าเรารักเพื่อนเราคนนี้ เราหวังดี และอวยพรให้เขาเสมอ
-พอเรียนจบแล้วแยกย้าย เราเฝ้ารอที่จะได้พบเจอกันบ้างตามโอกาส ปีละครั้งบ้างก็แอบเฝ้าลุ้นว่าจะได้เห็นหน้า อยากได้ยินเสียงคนที่คุ้นเคย อยากเห็นเขายิ้มและหัวเราะ ไม่ใช่เพียงวางหน้านิ่งเฉยอย่างที่เขาทำกับเรามาตลอด
- เราจดจำภาพของเขาได้เกือบจะทุกช่วงเวลาที่เราได้เห็น แม้ไม่ต้องเข้ามาใกล้ชิดก็ไม่เป็นไร แต่เราอยากให้เขาอยู่ในสายตา อยู่ตรงนั้นเวลาที่เรามองไปเสมอ ไม่ไปไหน
- ความสุข(ปลอมๆ) ความทุกข์ ความเจ็บจี๊ด เกิดปะปนกันไปตลอดช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา จนตอนนี้เราอายุ 28 ปีแล้ว
- เราเปิดใจกับใครใหม่ไม่ได้เลย เหมือนใจเราหลอกตัวเองว่าความหวังนี้มันยังไม่ดับไป มันยังหล่อเลี้ยงจิตใจอันอ่อนล้าดวงนี้อยู่ เสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่เรายังเอาไปผูกไว้กับเขา เราแก้ไม่ได้สักที
- เราร้องไห้ และเวทนาตัวเองมาก พอความมืดมาเมื่อไหร่ ภาพซ้ำๆที่เราเห็นเขาเดินกับคนที่เขาชอบก็ตามมาหลอกหลอนเรา
- เราคิดว่าจะสุขแค่ไหนที่เราได้อยู่กับคนที่เรารัก และคงจะทรมานมากแค่ไหนถ้าต้องอยู่กับคนที่เราไม่ได้ชอบใจด้วย พอคิดแบบนี้เราก็อยากให้เขาได้สุขสมหวังทันที (เราคิดแบบนี้จริงๆนะ)
- จากนั้นแทบทุกคืนที่เราเอนตัวลงนอน เราอวยพรให้เขา เราขอให้เขาได้เจอคนที่เขารัก คนที่เขาภูมิใจที่จะเดินเคียงข้าง สร้างความฝันไปด้วยกัน การอวยพรทำให้ใจเรานิ่งขึ้น เราโล่งมากขึ้น และเราก็ขออโหสิกรรมจากเขา หากเราเคยได้ล่วงเกินเขาจนเราต้องมาเจอสภาพความรักที่กลัดหนองแบบนี้ เราภาวนาขอให้ฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลงสักที ซึ่งนั่นก็คือการที่เขามีแฟน
- และเมื่อ 4 วันก่อน วันที่เราออกไปเจอเพื่อนๆมหาลัย แม้เขาจะไม่ได้มา แต่เป็นวันที่ฟางเส้นสุดท้ายของเราขาดลงทันที เราได้รู้เรื่องที่เราอยากรู้มาตลอด คือเขาได้มีแฟนเป็นตัวเป็นแล้ว เรายินดีด้วยมากจริงๆ ที่คนที่เรารักจะได้มีคนรักเสียที ถึงวัยเขาแล้ว แต่...เราน้ำตาไหลนองทันทีที่หลุดออกมาจากกลุ่มเพื่อนๆ เราไม่รู้ว่าความดีใจหรือความเสียใจมันรุนแรงมากกว่ากันในเวลานั้น แต่มันคือความจริงที่สุด ไม่ใช่แค่ฝัน ไม่ใช่แค่หวังลมๆแล้งๆ
- สุดท้ายเราก็จะต้องปิดฉากความรักเน่าๆ ของเราสักที กับการแอบรักที่ยึดเหนี่ยวใจเรามาตลอด 10 ปี รักที่เราไม่มีเหตุผล รักที่เราอยากให้เขามีความสุขมากกว่าตัวเราเอง เรารู้สึกว่าเราโง่ งมงายมาก ไม่รู้สินะ มันแค่เกิดขึ้น ตอนนี้เราเองก็โล่งใจมากเลย เหมือนเราเป็นอิสระจริงๆสักที ดับสนิทสักที ตอนนี้เอาแต่ฟังเพลงมันส์ๆดนตรีหนักๆอย่างเดียว ไม่ฟังเพลงช้า เลี่ยงเพลงเศร้า
- อยากบอกไว้ว่า การแอบรักแมร่งโคตรเจ็บและกลัดหนองมาก อกหักมันได้ทุกที่ทุกเวลา เจ็บแบบไม่มีจำเลย เจ็บแบบโทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเอง
แอบรัก ทรมานระดับไหนกันบ้าง
(ข้อใช้พื้นที่นี้เก็บความทรงจำของตัวเองด้วย)
เราแอบรักเพื่อนร่วมคณะ มาตลอด 10 ปี
- เริ่มจากความไม่เข้าความรู้ตัวเอง... เวลาที่เข้าห้องเรียนทีไร สายตาเรากับเขาก็จะมาสบกันโดยบังเอิญ เราเป็นฝ่ายหลบตาเสมอ
-ด้วยความมึนๆของเขาที่มีบางอย่างมาถูกใจเรา เขาชอบเพลงแนว heavy metal ซึ่งเราไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับแนวเพลงนี้เลย ของเราชอบแนว rock, heavy rock (แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ตกผลึก ว่าตัวเองเป็นคนแนวนี้ ชอบดนตรีแบบนี้ เพราะภาพที่เราเป็นคือเด็กเรียน เรียบร้อย มีความรับผิดชอบสูง) แต่แล้วความเป็นเขามาสะท้อนตัวตนเราที่อยู่ในส่วนลึกของเรา ช่วยดึงความเป็นตัวเราออกมาเรื่อยๆ เขาสะท้อนความสุขบางอย่างในตัวเรา ได้โดยที่เราไม่รู้ตัว (เพิ่งมากลั่นกรองได้ในช่วงปีหลัง)
- เราคอยมองหาเขาเวลาที่เราเดินผ่านห้องเรียนเขา เราไปดูเขาเล่นดนตรี แอบเชียร์ตลอด เรามีความสุขมาที่รู้ว่าเขาได้ร้องเพลงกับวงดนตรีของเขา เรารู้ว่สเขาชอบดนตรีมาก
- เรารับรู้ตลอดว่าเขามีคนที่เขาชอบ เขาตามจีบอยู่ พอได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ชอบเขาตอบ เพราะเขาไม่เท่ห์พอ เรานี่หงุดหงิดมากเลย มีสิทธิ์อะไรมาว่าเพื่อนเรา เพื่อนเราก็มีมุมดีๆ ทำไมต้องพูดถึงเพื่อนเราแบบนี้ด้วย ของขึ้นเลย 555 แต่เราก็เจ็บทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่กับใครนู้นนี้ที่เขาชอบ เจ็บจริงๆนะ กลับร้องไห้ทีาห้องทุกครั้งเลย
- เราอยู่กันคนละกลุ่ม แต่ก็มีได้ทำงานอยู่กลุ่มด้วยกันบ้างบางครั้ง ดีใจมากเลย แต่ไม่ได้แสดงออก
- เคยได้ไปทำงาน ทำงานวีดีโอสั้นๆ ที่ห้องหอพักเขา (ไปกันเป็นกลุ่มนะ) สมกับเป็นห้องผู้ชายจริง รกมากๆ แต่ก็เป็นอีกความทรงจำหนึ่ง ได้เข้าใกล้ชีวิต ตัวตนของเขามากขึ้น
- เคยได้เล่นกีฬาด้วยกันบ้างที่มหาวิทยาลัย เป็นช่วงเวลาที่เราก็รู้สึกดีมากๆที่ได้ใช้เวลาด้วยกันนอกห้องเรียน (พร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ)
- มีบางครั้งที่เขาเสนอตัวช่วยเหลือเรา เราดีใจมาก ทั้งที่ปกติ ไม่เคยทำ เขาจะเสนอตัวทำต่อเมื่อมีเหล้าเป็นรางวัล(เขาเป็นพวกดิบๆ ชอบสังสรรค์)
- เรารู้ว่าเขาไม่ได้ชอบแบบเราเลย เขาชอบผู้หญิงตัวเตี้ยๆเล็กๆ แต่เราสูง เขาชอบคนขาวๆหมวยๆ แต่เราผิวคนผิวน้ำตาล ตาโต หน้าไทยเลย เขาชอบผมสั้น แต่เราไว้ผมยาว....เราเปลี่ยนรูปลักษณ์เราแทบไม่ได้เลย มีอย่างเดียวที่พอทำได้คือไปตัดผม เผื่อเราพอจะใกล้เคียงในแบบนี้เขาชอบบ้าง และก็แน่นอน ไม่เป็นผลเลย ทั้งสิ้น (เราหน้าบานไม่เหมาะกับผมสั้นสักนิด 555)
- เรากับเขาต่างกันมาก มีบางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถบอกความในใจเราได้ หรือก้าวผ่านเส้นบางๆในใจของเราได้ ไม่รู้ว่าเรากลัว หรืออะไร เราเพียงรู้สึกว่าเรารักเพื่อนเราคนนี้ เราหวังดี และอวยพรให้เขาเสมอ
-พอเรียนจบแล้วแยกย้าย เราเฝ้ารอที่จะได้พบเจอกันบ้างตามโอกาส ปีละครั้งบ้างก็แอบเฝ้าลุ้นว่าจะได้เห็นหน้า อยากได้ยินเสียงคนที่คุ้นเคย อยากเห็นเขายิ้มและหัวเราะ ไม่ใช่เพียงวางหน้านิ่งเฉยอย่างที่เขาทำกับเรามาตลอด
- เราจดจำภาพของเขาได้เกือบจะทุกช่วงเวลาที่เราได้เห็น แม้ไม่ต้องเข้ามาใกล้ชิดก็ไม่เป็นไร แต่เราอยากให้เขาอยู่ในสายตา อยู่ตรงนั้นเวลาที่เรามองไปเสมอ ไม่ไปไหน
- ความสุข(ปลอมๆ) ความทุกข์ ความเจ็บจี๊ด เกิดปะปนกันไปตลอดช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา จนตอนนี้เราอายุ 28 ปีแล้ว
- เราเปิดใจกับใครใหม่ไม่ได้เลย เหมือนใจเราหลอกตัวเองว่าความหวังนี้มันยังไม่ดับไป มันยังหล่อเลี้ยงจิตใจอันอ่อนล้าดวงนี้อยู่ เสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่เรายังเอาไปผูกไว้กับเขา เราแก้ไม่ได้สักที
- เราร้องไห้ และเวทนาตัวเองมาก พอความมืดมาเมื่อไหร่ ภาพซ้ำๆที่เราเห็นเขาเดินกับคนที่เขาชอบก็ตามมาหลอกหลอนเรา
- เราคิดว่าจะสุขแค่ไหนที่เราได้อยู่กับคนที่เรารัก และคงจะทรมานมากแค่ไหนถ้าต้องอยู่กับคนที่เราไม่ได้ชอบใจด้วย พอคิดแบบนี้เราก็อยากให้เขาได้สุขสมหวังทันที (เราคิดแบบนี้จริงๆนะ)
- จากนั้นแทบทุกคืนที่เราเอนตัวลงนอน เราอวยพรให้เขา เราขอให้เขาได้เจอคนที่เขารัก คนที่เขาภูมิใจที่จะเดินเคียงข้าง สร้างความฝันไปด้วยกัน การอวยพรทำให้ใจเรานิ่งขึ้น เราโล่งมากขึ้น และเราก็ขออโหสิกรรมจากเขา หากเราเคยได้ล่วงเกินเขาจนเราต้องมาเจอสภาพความรักที่กลัดหนองแบบนี้ เราภาวนาขอให้ฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลงสักที ซึ่งนั่นก็คือการที่เขามีแฟน
- และเมื่อ 4 วันก่อน วันที่เราออกไปเจอเพื่อนๆมหาลัย แม้เขาจะไม่ได้มา แต่เป็นวันที่ฟางเส้นสุดท้ายของเราขาดลงทันที เราได้รู้เรื่องที่เราอยากรู้มาตลอด คือเขาได้มีแฟนเป็นตัวเป็นแล้ว เรายินดีด้วยมากจริงๆ ที่คนที่เรารักจะได้มีคนรักเสียที ถึงวัยเขาแล้ว แต่...เราน้ำตาไหลนองทันทีที่หลุดออกมาจากกลุ่มเพื่อนๆ เราไม่รู้ว่าความดีใจหรือความเสียใจมันรุนแรงมากกว่ากันในเวลานั้น แต่มันคือความจริงที่สุด ไม่ใช่แค่ฝัน ไม่ใช่แค่หวังลมๆแล้งๆ
- สุดท้ายเราก็จะต้องปิดฉากความรักเน่าๆ ของเราสักที กับการแอบรักที่ยึดเหนี่ยวใจเรามาตลอด 10 ปี รักที่เราไม่มีเหตุผล รักที่เราอยากให้เขามีความสุขมากกว่าตัวเราเอง เรารู้สึกว่าเราโง่ งมงายมาก ไม่รู้สินะ มันแค่เกิดขึ้น ตอนนี้เราเองก็โล่งใจมากเลย เหมือนเราเป็นอิสระจริงๆสักที ดับสนิทสักที ตอนนี้เอาแต่ฟังเพลงมันส์ๆดนตรีหนักๆอย่างเดียว ไม่ฟังเพลงช้า เลี่ยงเพลงเศร้า
- อยากบอกไว้ว่า การแอบรักแมร่งโคตรเจ็บและกลัดหนองมาก อกหักมันได้ทุกที่ทุกเวลา เจ็บแบบไม่มีจำเลย เจ็บแบบโทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเอง