[หนังโรงเรื่องที่ 232] Incredibles 2 : เป็นอนิเมชั่นที่ครบรสที่สุดแล้ว by ตั๋วหนังมันแพง



[หนังโรงเรื่องที่ 232] Incredibles 2 : เป็นอนิเมชั่นที่ครบรสที่สุดแล้ว

คะแนนความชอบ : A++++ (จากสเกล D-A)

(Brad Bird, 2018)
by ตั๋วหนังมันแพง

*ไม่มีมีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ

เรื่องย่อ: เวลาผ่านไปจากภาคแรก เมื่อถึงยุคหนึ่งที่เหล่าซูเปอร์ฮีโร่กลายเป็น "คนนอกกฎหมาย" ครอบครัวยอดมนุษย์ของเราก็พลอยต้องเก็บเนื้อเก็บตัวไปด้วย ฐานะการเงินของครอบครัวกำลังวิกฤต หัวหน้าครอบครัวอย่าง Mr. Incredible (Craig T. Nelson) ก็ตกงาน เรียกได้ว่าแย่กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

แต่ก็โชคดีที่มีมหาเศรษฐีอย่าง "วินสตัน เดนเวอร์" (Bob Odenkirk) เข้ามาอุปถัมป์พร้อมตั้งเป้าหมายจะทวงความยุติธรรมคืนให้เหล่าฮีโร่ และพวกเขาก็ต้องสู้กับตัวร้ายสุดแสบที่มาพร้อมแผนใหญ่ยักษ์ระดับพลิกโลกอีกครั้ง
.
.

ก่อนอื่นขอสารภาพเลยว่าจำเนื้อเรื่องภาคแรกไม่ได้แล้ว (14 ปีน่ะคุณเอ๊ย) แต่ก็พอจำได้ลางๆ ว่าตัวละครแต่ละตัวมันมีพลังอะไรบ้างทำนองนี้ ดังนั้นเราจึงจะไม่มีความอินในเชิงหวนถึงวันเก่าเลยแม้แต่น้อย

แต่ !! หนังก็ยังทำให้เราว้าวได้อยู่ดี ด้วยความที่มันมีกลิ่นอายของผู้ใหญ่ชัดเจนมากๆ ทั้งโทนเรื่อง พล็อต และพัฒนาการของตัวละครที่ชัดเจนเลยว่าเน้นทำขายผู้ใหญ่แน่ๆ ขอพูดไว้ตรงนี้เลยว่านี่คือประสบการดูอนิเมชั่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

📖 การดำเนินเรื่อง 📖


ถ้าใครได้ดูตัวอย่างมาก็จะเห็นแนวทางของหนังว่าในภาคนี้คุณแม่ Elastigirl จะเป็นตัวเอกหลักที่แบกหนังไว้ด้วยเหตุผลบางประการ ในขณะที่ Mr. Incredible ที่ความนิยมไม่สูงเหมือนเมื่อก่อนต้องไปรับบทบาทพ่อบ้านใจกล้า คอยเลี้ยงลูกเลี้ยงหมาแมวคอยทำงานบ้านแทน

ซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่ว่าสกิลบริหารจัดการเรื่องในบ้านของผู้ชายมันเฮงซวยขนาดไหน หนังมันเลยได้นำเสนอด้านความพยายามของลูกผู้ชายคนหนึ่งที่กัดฟันอดทนเป็นช้างเท้าหลังเพื่อสนับสนุนภรรยาที่กำลังไปได้สวยในฐานะไอดอลฮีโร่ด้วย

แน่นอนว่าหนังยุคนี้จะต้องเน้นขายความ "อวยเพศหญิง" (Feminism) ตามสมัยนิยมอยู่แล้ว แต่โดยส่วนตัวผู้เขียนก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ถูกสอดแทรกเข้ามาอย่างยัดเยียดเหมือนหนังบางเรื่อง ความโดดเด่นของเพศหญิงมันมีที่มาที่ไป เพราะในบางบริบทมันก็เป็นงานที่ผู้หญิงทำได้ดีกว่าผู้ชายจริงๆ

อย่างเช่นในเรื่องจะมีคนหนึ่งที่พูดทำนองว่าเขาอยากเลือกใช้ Elastigirl เพราะแม่นยำกว่า เสียหายน้อยกว่า และยืดหยุ่น (Elastic) มากกว่าเหมือนกับเป็นเป่ายิงฉุบที่ออกกระดาษ ในขณะที่ Mr. Incredible เป็นเหมือนค้อนที่เอะอะใช้กำลังเข้าว่า ตัดสินใจไม่รอบคอบ ซึ่งมันไม่ใช่คุณสมบัติที่เหมาะสมอีกต่อไปแล้วในยุคนี้

สิ่งที่ชอบที่สุดก็คือหนังเล่าเรื่อง "ครอบครัว" ผ่านความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้น่าสนใจมาก ถ้าให้พูดจริงๆ มันก็แทบจะเป็นหนังก้าวข้ามพ้นวัย (Coming-of-Age) ไปแล้วด้วยซ้ำ

คือตัวละครที่เราเคยรู้จักก็จะเปลี่ยนไป อย่างตัวละคร "ไวโอเล็ต" (Sarah Vowell) ที่กำลังอยู่ในวัยแตกเนื้อสาวก็ต้องเผชิญกับอารมณ์ที่แปรปรวณของตัวเอง และเรื่องวุ่นๆ กับการมีความรักในแบบของวัยรุ่น

ในขณะเดียวกัน Mr. Incredible ก็ต้องตกอยู่ในสภาพที่ตัวเองไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เป็น ที่ต้องมานั่งเป็นพ่อบ้านไปวันๆ ในขณะที่ดูข่าวเห็นภรรยาตัวเองช่วยชีวิตคนและปราบเหล่าร้ายนับครั้งไม่ถ้วน สิ่งเหล่านี้คืออุปสรรคที่ตัวละครทั้งหลายจะก้าวผ่านไปให้ได้ ซึ่งหนังก็เล่าเรื่องจุดนี้ได้ดี

และอีกเรื่องที่หลายๆ คนอาจไม่ทันตั้งใจฟังก็คือ "สุนทรพจน์เสียดสีสังคม" ที่ตัวร้ายได้กล่าวในฉากที่ Elastigirl กำลังพยายามตามหาแหล่งกบดานของคนร้าย

ซึ่งเอาจริงๆ แล้วสิ่งที่ตัวร้ายพูดนั้นมันเป็นข้อความที่เสียดสีสังคมและความเป็นอยู่ของคนเราในปัจจุบันพอสมควร แต่เดาว่าหนังก็คงกลัวว่าโทนเรื่องจะหนักเกินก็เลยเลือกที่จะใส่มาเป็น background voice แทน แต่สำหรับคนที่สังเกตทันก็จะรู้เลยว่าสิ่งนี้แหละ ที่ทำให้แรงจูงใจของตัวร้ายมันดูใกล้ตัวเรามากๆ และช่วยให้เราอินขึ้นได้จริงๆ
.
.

📖 ความบันเทิง 📖

คือตลอดเกือบ 2 ชั่วโมงของหนังแทบไม่ทำให้เราเบื่อเลย ถ้าไม่มีฉากตื่นเต้นชวนให้ลุ้นสุดๆ ก็จะมีฉากปล่อยมุกน่ารักๆ ขำๆ มาให้เราติดตามได้ตลอด เรียกได้ว่าหนังบาลานซ์ระหว่างสองอย่างนี้ได้ดีมาก

แน่นอนว่าเจ้าตัวขโมยซีนในภาคนี้ก็คงหนีไม่พ้นลูกชายคนเล็กของบ้านอย่าง "แจ็คแจ็ค" (Eli Fucile) ที่เรียกได้ว่าเข้าฉากเมื่อไหร่ ต้องมีเสียงฮาให้ได้ยินเมื่อนั้น

และนอกเหนือจากนั้นก็จะเป็น "มุกความจริงที่โหดร้าย" ที่ผู้เขียนเชื่อว่าคนที่เคยเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานมาก่อนคงรู้สึกเกี่ยวโยงและขำกลิ้งมากเป็นพิเศษแน่นอน อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าหนังมันทำออกมาให้ผู้ใหญ่ดูเป็นหลักจริงๆ

แต่ที่ผู้เขียนชอบเป็นพิเศษก็คือการปั้นบรรยากาศชวนระทึก-ตื่นเต้น ที่หนังทำออกมาได้ดีแม้จะเป็นฉากที่ไม่ได้ยืดยาวนัก ที่สำคัญคือมันสลับกับโทนเบาสมองได้อย่างกลืนเป็นเนื้อเดียวแถมเข้าท่ามากด้วย

ในส่วนของฉากแอคชั่นก็ลื่นไหลและต่อเนื่องมากขึ้น ถึงแม้ฉากที่ได้สู้สะใจจริงๆ มันจะน้อยไปหน่อยก็เถอะ แต่โดยรวมแล้วยังถือว่าโอเคครับ
.
.

📖 ความพิเศษ 📖

ภาพสวยมากกกกกกกกกกกกก คือปกติแล้วผู้เขียนก็ไม่ใช่ที่จะมาจุกจิกดูรายละเอียดภาพอะไรหรอก แต่เรื่องนี้มันพิเศษจริงๆ มันเป็นรายละเอียดชนิดที่ว่า เฮ้ย อะไรจะเนียนกริบขนาดนี้

ด้วยความที่ design ภาพในเรื่องมันจะอยู่ในลักษณะกึ่งสมจริงที่เน้นโทนเข้มๆ มืดๆ เป็นหลัก มันยิ่งทำโทนภาพสวยเข้าไปอีก แล้วยิ่งดีเทลการเคลื่อนไหวของตัวละครนะ จะเห็นได้ชัดเลย ถ้าไม่เชื่อก็ลองจับตาดูเวลา Elastigirl เขายืดหดตัวดูสิ มัน flow จริงๆ นะให้ดิ้นตาย
.
.

Incredibles 2 เป็นการกลับมาได้อย่างงดงามที่สุด เป็นอนิเมชั่นที่ครบรส ลุ้น ระทึก ตื่นเต้น ขำ ซึ้ง ทุกอย่างมีอยู่ในเรื่องเดียว รีบไปดูซะนะคุณๆ ทั้งหลาย

#ตั๋วหนังมันแพง

ถูกใจรีวิวก็สามารถมาแสดงความคิดเห็นและกดไลค์ + แชร์ เพื่อสนับสนุนเพจได้ครับ: https://www.facebook.com/expensivemovie/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่