สวัสดีค่ะ มีเรื่องมาปรึกษาค่ะ ตอนนี้รู้สึกตันไปหมด ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงดี

เรื่องมีอยู่ว่า น้องชายซื้อรถมอเตอร์ไซค์มา 1 คันราคาประมาณ 7หมื่นกว่าบาท ยอดจัดอยู่ที่ประมาณแสนนิดๆ  โดยมีแม่เป็นคนค้ำประกัน น้องชายออกรถมาได้เดือนเดียว ก็เอารถไปจำนำเป็นเงิน 1,800 บาท

ต่อมาเพื่อนของน้องชายเลยบอกว่าจะไปเอารถออกจากจำนำให้ แล้วขอเอารถมาขี่ก่อนเพราะไม่มีรถใช้ น้องชายก็ยอม ต่อมาน้องชายไปหาเพื่อนที่บ้าน ไม่เจอรถ เพื่อนน้องชายบอกว่ารถโดนตำรวจจราจรยึด แม่กับน้องชายเลยไปติดต่อที่โรงพักก็ไม่เจอรถ

ตอนนี้พอเรารู้เรื่องเลยโทรคุยกับพ่อเพื่อนของน้องชาย จึงเรียกทั้งน้องชายและเพื่อนไปคุยพร้อมกัน โดยมีเราและพ่อเพื่อนน้องชายด้วย เพื่อนน้องชายกับน้องชายเล่าตรงกันว่าจำนำรถไว้ 1,800 โดยเพื่อนเอาเงินไปเอารถออกมาให้จริง เอารถไปขี่จริง

แต่อีกเรื่องคือน้องชายติดเงินเพื่อนต่างหากอีกประมาณ 3-4 พัน ติดจากที่ยืมกันทีละ 500,1000 โดยที่ไม่ได้จดยอดทั้งคู่ และเพื่อนน้องชายแอบเอารถไปขายแล้ว เราไม่ได้ถามว่าขายเท่าไหร่ เราบอกแต่ให้ไปตามเอารถมาคืนให้ได้ รถยังผ่อนไม่หมด เพิ่งผ่อนไปได้แค่ 3 เดือน รถยังใหม่อยู่ เล่มทะเบียนก็ยังอยู่ที่ไฟแนนซ์ ยอดจัดอยู่ที่แสนกว่าบาท ผ่อน 3 ปี เพื่อนน้องชายบอกแต่ว่าตามรถไม่ได้ ไม่มีรถแล้ว ติดต่อคนที่ซื้อไม่ได้

คราวนี้พ่อของน้องชายก็คุยกันกับเรา ไม่อยากให้เราแจ้งความ แต่จะหักเงินลูกชายมาจ่ายค่าผ่อนรถ คนละครึ่งกับน้องเราจนกว่าจะผ่อนหมด ซึ่งน้องเราต้องผ่อนต่อด้วยทั้งๆ ที่เพื่อนแอบเอารถไปขายโดยไม่บอก มันไม่แฟร์เอามากๆ เลย

ส่วนตัวเรากลัวว่าถ้าไม่แจ้งความ รถที่ขายไปถ้าโดนเอาไปใช้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายแล้วจะมีปัญหาทีหลัง

ตอนนี้ไม่รู้จะเริ่มแก้จากตรงไหน จะแจ้งความมั้ย ข้อหาอะไร จริงๆ เรากับพ่อของเพื่อนน้องชายก็รู้จักกัน เค้าเป็นคนทำมาหากิน นิสัยดี แต่ลูกชายเค้ากับน้องชายเราไม่ค่อยจะรักดีเท่าไหร่ ออกจะเกเร สร้างปัญหาบ่อยๆ ส่วนนึงถ้าแจ้งความเรากับพ่อของเพื่อนน้องชายคงจะผิดใจกันเพราะเรื่องของเด็กแท้ๆ แต่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะคนที่ค้ำประกันคือแม่เรา ถ้าอยู่ดีๆ เพื่อนน้องชายไม่ส่ง แม่เรามีปัญหาแน่ๆ

ใครมีคำแนะนำดีๆ รบกวนด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆ ค่ะ