บางทีถ้าต้องการเป็นคนคิดบวกหมายความว่าจะต้องยอมรับชะตากรรมหรือครับ ให้รู้สึกโลกสวยลาเวนเดอร์ไปหมด

ก่อนที่ผมจะมีทัศนคติคิดลบขนาดนี้ได้มันเป็นมานานละครับโดนบุคคลรอบข้างทำไม่ดีมานานจนกระทั่งวันนึงก็เริ่มคิดลบขึ้นมาเพราะโดนทำใส่บ่อยๆ  ทั้งๆที่บางเรื่องเราออกจะดีกับเขาด้วยซ้ำ  เช่นให้ยืมเงินไป พอเราเดือดร้อนไปขอคืน  เพื่อนมันก็บอกโง่เองให้ยืมทำไม

ที่นี้มาที่หัวข้อครับ สมมุติถ้าเราโดนบอกว่าให้หักเงินเดือน 20% ไปออกให้องค์กรทำกิจกรรม ซึ่งในความเป็นจริงเป็นเงินเรา จะมาเอาอะไรกับเงินเดือนเราละ คือถ้าคิดบวกคือต้องยอมให้แล้วก็คิดว่าถือว่าบริจาคให้องค์กรอย่างนี้รึครับ อย่างนี้จะไปคิดบวกได้อย่างไร

หรือถ้าโดนโกงเงิน60000บาท เราก็ต้องมองว่าอ่อเขาแค่โกงเราไปแค่60000 เอง พอรอบหน้าเขามาโกงอีก 20000 ก็แบบอ่อเขาแค่หยิบยืมไปถือว่าทำบุญให้เขางี้รึครับ จะให้ผมคิดบวกในกรณีแบบนี้ไม่น่าไหวอะครับ ผมคิดตามความเป็นจริงว่าถ้าให้เขายืมก็ต้องได้คืนสิ  ผมว่ามุมมองแบบนั้นมันในอุดมคติเกินไป งั้นต่อไปถ้าใครมาตบหัวเราก็แบบ อ่อเขาแค่สะกิดเอง มาไถเงินเราก็คิดว่าเขาคงไม่มีเราต้องช่วยเขานะอย่าไปโกรธ  อย่างนี้ไม่ไหวมั้งครับ

คนอื่นคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ในเบื้องต้น ...
ต้องแยกความแตกต่างให้ออก ระหว่าง คิดบวก กับ ความไม่ฉลาด ความประมาท ปราศจากการระมัดระวังตัวที่ดี   ให้ได้นะคะ

ความคิดบวก นั้น คิดเพื่อให้ตัวเองมีความสุข มีความสบายใจ ...
คนรอบข้าง ก็มีความสบายใจ  สังคมโดยรวมก็ปกติสุข

คนคิดลบ จิตใจเขาเองจะไม่มีความสุขเป็นคนแรก
แล้วก็ส่งผลไปถึงสุขภาพกาย _ สุขภาพจิต คนใกล้ตัวเขาก็จะไม่มีความสุขไปด้วย

ซึ่งมักจะมีรากมาจากความไม่พึงพอใจ ในสถานการณ์นั้นๆ / ความหาทางออกไม่ได้
เมื่อเจอทางตัน ... แทนที่จะเปิดใจให้กว้างขึ้น เพื่อมีโอกาสได้คำปรึกษาที่ดี  /  มีโอกาสระลึกได้ถึงสติปัญญาที่ซ่อนอยู่ภายในตน

กลับกลายเป็นคิดประชดประชัน ยึดถือความเห็นของตน  โลกที่หมองหม่นอยู่แล้ว
จะเสื่อมทรามลงเรื่อยๆ ในความคิดของคนๆนั้น

โลกทั้งใบของแต่ละคน จะเป็นอย่างไร มันขึ้นกับความคิดของคนๆนั้นค่ะ

ถูกเขาโกงเงินไปแล้ว...
ไม่จำเป็นต้อง งอมืองอเท้าไม่แก้ไขอะไรให้ดีขึ้น ... (ดำเนินการทางกฎหมาย)
ไม่จำเป็นต้องถูกหลอกซ้ำซาก
ไม่จำเป็นต้อง ทำร้ายตัวเองเพิ่ม ด้วยการเจ็บใจตัวเอง โกรธตัวเอง ตีอกชกตัว ...ฯ

แต่

จำเป็นต้อง เก็บเกี่ยวประสบการณ์เอามาเรียนรู้
มองตัวเองชัดๆ ว่าเราพลาดจุดไหนกันแน่ ...
เมื่อได้ความรู้แล้ว มั่นใจแล้วว่า เราจะไม่พลาดซ้ำ ก็ถือว่าจ่ายค่าลงทะเบียนเรียนไป

ในเมื่อไหนๆ ก็เสียเงินไปแล้ว แลกกับ ได้บทเรียนสอนตนมาแล้ว
จะไปเพิ่มต้นทุนทุกข์ ด้วยการมานั่งเสียใจ เสียดาย เสียเวลาทำไมกัน ...

เอาเวลาไป ทำใจให้สบาย...ชื่นชมสิ่งสวยๆงามๆรอบตัว
จรรโลงใจกว่าเยอะ  (มีโอกาสหาเงินคืนได้มากกว่าเยอะด้วย)

flower
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่