เปลวกนก คุณหญิงผู้อาภัพ

อิเปลว นังเปลว คุณเปลว จนมาถึงคุญหญิงเปลวกนก ไม่ว่าใครจะเรียกเธอยังไง สุดท้ายถ้าเลือกได้เธอคงอยากเป็นนังเปลวเหมือนเดิมน่าจะดีกว่า สายรัก สายสวาท เป็นละคร ที่ดูแล้วดูอีก ปกติแล้วไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ละคร หรือนิยายมากมายนัก เพราะเป็นพวกโลกสวยชอบอะไรที่แฮปปี้เอนดิ้ง ดูได้หมดอะไรที่มีความสุข พอเศร้า เคล้าน้ำตา อึดอัดใจก็จะเลิกดู เพราะถือว่าชีวิตก็หนักหน่วงอยู่แล้วจะดูละครที่ดราม่า หนักใจให้คิดมากทำไม แต่เรื่องนี้ติดมากๆ ค่ะ เพราะน้องสาวแนะให้ดู ดูไปดูมา เออสนุกดีแฮะ

ดูไป ดูมา แหม... บทอิเปลว ยันคุณหญิงเปลวกนก มันเป็นอะไรที่จริงสุดในชีวิตมนุษย์แล้ว เมื่อไม่มี ก็อยากมี เมื่อมีแล้วก็อยากได้อีก เมื่อได้แล้วก็เบื่อ ตั้งแต่เปลวเป็นคุณหญิงเปลวกนก ดูเหมือนความต้องการของเธอเริ่มลดน้อยลง แม้อุปนิสัยใจคอจะยังคงเดิม แต่ก็ดูกระตือรือร้นน้อยลงในความอยากได้ มีแค่เพียงสิ่งเดียวที่เธออยากได้และยังไม่ได้ นั่นก็คือ "ความรัก ความเอาใจใส่" แม้ท่านพ่อจะรักเธอหนักหนา แต่เธอก็เหมือนจะดูออก นั่นเพราะท่านอยากชดเชย สุดท้ายแล้วคนที่สำคัญที่สุดสำหรับท่านก็ไม่ใช่เธอ

และสำหรับชายทั้งสอง ซึ่งเล่นกันมาตั้งแต่เล็ก ก็ทำให้เธอผูกจิต ผูกสัมพันธ์ อยู่ไม่น้อย ภาคิไนย ชายหนุ่มผู้มีความอ่อนโยน อ่อนนุ่ม แม้จะไม่เคยชายตาดูเธอแต่ในยามคับขัน เขาก็ให้กำลังใจและดูเหมือนจะเข้าใจเธออยู่ไม่น้อย ภูบดี ผู้น้อง แม้จะปะฝีปากอยู่บ่อยๆ แต่ก็รู้จักขอโทษ และให้เกียรติเธอ รวมไปถึงสั่งสอนเธออยู่เนื่องๆ เมื่อโตมาย่อมไม่แปลกที่จะผูกจิต ผูกใจ อยู่กับทั้งคู่ หวังเพียงให้พวกเขารักเธอ และเข้าใจ ห่วงใยเธอ เหมือนดั่งที่พวกเขาห่วงใยคุณหญิงยอ

เพราะแบบนี้บทของเธอจึงเป็นสีเทา อย่างช่วยไม่ได้ ไม่ขาวบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่ได้ดำมืด กลับเป็นสีเทาที่ดูเข้มแข็งและอ่อนโยน สำหรับเราแล้วบทของคุณหญิงเปลวกนก เป็นตัวละคร ที่มีพัฒนการที่สูงมาก รู้จักจังหวะ รู้จักก้าว รู้จักถอย รู้จักเรียกร้อง และที่สำคัญรู้จักพอ เราชอบตัวละครตัวนี้มากๆ พัฒนาการของเปลวกนกทำให้เรานั่งยิ้ม รู้สึกว่ามันเป็นความจริงที่สุด ชอบเวลาที่เธอออดอ้อน เอาอก เอาใจ คนรอบข้าง รู้สึกว่าเธอ พยายามที่จะให้ใครๆ รักเธอ อย่างที่ใจที่หวัง โดยไม่หวังร้ายต่อผู้อื่น แม้ไม่ได้ดั่งใจหวัง เธอก็ไม่แสดงอาการออกมาเพียงแค่เก็บเอาไว้ และหาวิธีอื่นเพื่อที่จะเอามาให้ได้ โดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน นึกถึงความรู้สึกของผู้อื่นเสมอ แม้บางครั้งในใจอยากที่จะแสดงออกมาให้รู้ แต่ก็รู้จักหักห้ามใจ

อ่ะ....บ่นเสร็จแล้วนะ เดี๋ยวจะยิ่งยาว ไม่มีอะไรค่ะ แค่รู้สึกว่าบทเปลวกนก จิตใจจะรันทดไปไหน ยิ่งเปลวกนก บ่นเพ้อออกมา "ฉันจะเป็นตัวสำรองของคุณหญิงไปอีกนานแค่ไหน" รู้สึกสงสารเธอมากๆ อย่างน้อยในขณะที่ใจเจ็บปวด เธอก็ยังรู้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่เหมือนโสมภา ที่คิดอยากเอาชนะอย่างเดียวไม่สนใจว่าใครจะเจ็บปวดแค่ไหน ขอแค่ใจตัวเองมีความสุขก็พอ แบบนี้ก็ดูจะไม่ค่อยไหว

สรุป..ถ้าเราเป็นเปลว จะออกไปกระซิบ ข้างหูทั้งอิคุณภา และอิคุณภู "ไปหาตัวสำรองที่อื่น ฉันไม่ใช่ตัวสำรองของใคร" อินเจ้าค่ะ อินจัด สุดท้าย..สุดท้ายจริงๆ ค่ะ ขอยกนิ้วให้คอสตูมค่ะ เสื้อผ้าหน้าผม บ่งบอกความเป็นเปลว ได้อย่างหมดจด เธอไม่ใช่สาวหวาน แต่ก็ไม่ใช่เปลวผู้ดีแบบโสมภา เธอเป็นเธอ ที่เป็นลูกคนใช้ ไม่ได้มีความเป็นผู้ดี เป็นแค่ผู้หญิง เปิ๊ดสะก๊าด เท่านั้น ดูแล้วขัดใจ แต่นั่นก็คือตัวเธอ มองเห็นความเป็นผู้ดีในตัวเธอจากภายนอกไม่ได้ ต้องมองให้เห็นถึงแก่นแท้ ถึงจะเห็นความเป็นผู้ดีของเธอ  

ปล. น้องใบเฟิร์น เล่นดีนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่