ผมรู้จักคุยกับแฟนคนนี้มา 4 เดือน คบกันจริงจัง 2 เดือน ตอนแรกๆที่คุยกันผมก็ยังไม่มั่นใจว่าเลิกกับแฟนแล้วจริงๆ เลยคุยๆหายๆไป แต่ทางผู้หญิง ก็พยายามติดต่อมาตลอด คุยกันไปเรื่อยๆ เลยถามไปว่าเลิกกับแฟนแล้วแน่ๆหรือยัง เขาก็บอกว่าเลิกแล้วห่างๆกันไปแล้ว ผมเลยคุยต่อมาเรื่อยๆ จนรู้สึกดี พอเวลาผ่านไปถึงเดือนที่ 3 เรานัดเจอกัน ก็โอเค พาไปกินข้าวดูหนัง แล้วก็แยกย้ายกันไป แล้วผมก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาว่าคงเลิกกับแฟนเก่าแล้วแน่ล่ะ ก็คุยกันมาตลอดแต่ระหว่างนั้นก็รู้สึกสงสัยตลอดนะเพราะมีเรื่องที่แปลกไปเป็นช่วงๆ ติดต่อยากบ้าง หายๆไปบ้าง แล้วพอคุยกันเรื่องพวกนี้ก็ทะเลาะกันเรื่อยๆ แต่ผมก็พยายามทำดี โทรไป ไลน์ไปตลอด จนนัดเจอกันครั้งที่ 2 เราไปพักกันที่รีสอร์ท ทุกอย่างก็ดูปกติดี แต่แล้วเธอพูดขึ้นมาว่ามีอะไรจะบอก ...?... เขาบอกว่าไม่อยากโกหกแล้ว คือเขาบอกว่าแฟนเก่ายังอยู่บ้านหลังเดียวกัน ไปทำงานด้วยกันและก็ทำงานที่เดียวกัน เจอกันตลอดเลย แต่ไม่ได้นอนด้วยกันแล้ว ผู้ชายนอนข้างล่าง บอกเลิกไปแล้วแต่ทางผู้ชายไม่ยอมไปไหน เพราะว่าพ่อของทางแฟนผมเขารักไม่ยอมให้ออกไปไหน บอกให้ลองคุยกันก่อนปรับความเข้าใจกัน แต่แฟนผมเคยทะเลาะกับพ่อรุนแรงว่าไม่เอาผู้ชายคนนี้แล้วไม่เอาแล้วไม่รักแล้วบอกว่ารักผม ซึ่งผมก็ได้ยินทุกอย่างเพราะว่าคาสายกันอยู่ ซึ้งปัญหาที่ทะเลาะกันคือปัญหาสะสมที่เปลี่ยนแปลงนิสัยเดิมๆกันไม่ได้ ทางแฟนผมเคยคุยกับผู้ชายคนนั้นแล้วว่าไม่รักแล้วนะแค่รู้สึกสงสารเฉยๆ แต่ผู้ชายก็ไม่ยอมไป บอกว่ากลับมาได้ไหมเดี๋ยวจะทำให้รักใหม่เอง ตอนนั้นผมเลยถามไปว่าแล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ตอนแรกว่ายังอยู่บ้านเดียวกันอยู่ แฟนผมให้เหตุผลว่าที่ไม่บอกเพราะกลัวเสียผมไป เขารักผมมาก แต่ที่บอกตอนนี้เพราะรู้สึกผิดไม่อยากโกหกแล้วเลยตัดสินใจบอกไป...แล้วผมก็ให้อภัย..แล้วตอนนี้ก็ยังอยู่บ้านเดียวกัน ยังไปทำงานด้วยกัน ทำงานที่เดียวกัน แต่แฟนผมบอกว่ารู้สึกแค่เพื่อน เป็นพี่น้อง บอกให้ผมเชื่อใจนะ...แต่เรานัดเจอกันเรื่อยๆนะซึ่งผู้ชายคนนั้นเขาก็รู้ตลอด พ่อเขาก็รู้ว่าไปเที่ยวไปเจอกัน ค้างคืนกันต่างจังหวัด ผมอยากเชื่อใจนะ แต่บางครั้งก็อดระแวงไม่ได้จริงๆ ปวดหัว..T_T