จากคนกลัวแมว กลายเป็นคนรักแมว

กระทู้สนทนา

ต้องบอกก่อนว่า เราเป็นคนรักสัตว์คนหนึ่ง แต่จะกล้าๆกลัวๆที่จะเข้าหา " แมว " เพราะเรากลัวเล็บน้องแมวจ้าาา 55555 บ้านเราจะเลี้ยงแต่น้องหมา ไม่เคยเลี้ยงน้องแมวเลย เวลาไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ไหนที่เขาเลี้ยงแมว เราจะแค่ทักทาย " ฮัลโหล " แล้วเดินผ่านไป เอาง่ายๆ ไม่ค่อยไปสุงสิงอ่ะ กลัวเล็บน้องจะมาข่วนเรา แล้วไหนจะขนที่ชอบร่วงติดเสื้อผ้าอีก อยู่ห่างๆจะดีที่สุด แค่มองว่าน่ารักก็พอแล้ว ก็จะอารมณ์ประมาณนี้อ่ะตั้งแต่เด็กจนโต

แต่แล้ววันหนึ่ง ตอนเราอยู่ปี 3 เพื่อนเราก็ดันทักมาว่าอยากเลี้ยงแมวมั้ย?? แล้วนางก็ส่งรูปให้ดู บอกว่าน้องหลงทางมา แต่หอไม่ให้เลี้ยง
what???!!!?? คือจะเลี้ยงก็เลี้ยงได้ แต่ประเด็นคือไม่ชอบเล็บแมวอ่ะ ชั่งใจอยู่นานมากว่าจะเลี้ยงดีมั้ย แต่เห็นแล้วสงสาร......
งุ้ยย ขี้เหร่จุง 5555


คือตอนเพื่อนส่งรูปมา น้องผอมมากอ่ะ เราก็ขี้สงสาร เอาวะ! ถามแฟน แฟนก็ให้เลี้ยง แต่มีข้อแม้ว่าต้องเลี้ยงดีๆนะ.......เลี้ยงก็เลี้ยงวะ!!

ก็ไม่ได้เห่ออะไรมาก พอรู้ว่าจะได้เลี้ยงน้อง รีบตั้งชื่อเลยจ้าาา ชื่ออะไรดีน้าาาา บุญรอด, บุญทิ้ง, ดวงดี, แก้วตา, หลงหลง, หมายปอง, บลาๆๆ จนมาได้ชื่อว่า " โลมา" ชื่อนี้ได้แต่ไดมา จนวันนี้ก็ยังไม่รุ้ 55555555

ก่อนไปรับน้องมาอยู่ด้วย เราก็ศึกษาเลยว่า วิธีเลี้ยงแมวต้องทำอะไรบ้าง มีอะไรบ้าง จัดไป!! เงินค่าขนม เจียดไปทีละนิดๆๆ แต่ยังดีที่แชร์กันทุกอย่างกับแฟน (พ่อไม่รู้ว่าเลี้ยงแมว พ่อไม่สนับสนุนให้เลี้ยงอะไรทั้งนั้น5555)

มาวันแรกก็ โยนงานมาให้เลยง่ะ น้องท้องเสีย หลายรอบด้วย แล้วด้วยความที่ติดนิสัยมีอะไรต้องค้นในกูเกิ้ลไว้ก่อน มาเลยจ้าา เป็นหัดมั่ง นู้นนั่นนี่ จะตายในสองสัปดาห์มั่ง โอ้ยยยยยยยยย ใจนี่ไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ววว ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ละ เลยพาไปโรงพยาบาลเลย

น้องต้องนอนโรงพยาบาล 1 คืนเพื่อรอดูอาการ  จู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมา 555555 ไหลมาได้ไงฟระ แต่ใจนี่คิดถึงแต่โลมา งงใจตัวเองมากเพราะเมื่อก่อนเราแทบไม่เข้าใกล้แมวเลย แต่เรากลับรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เลี้ยง พอน้องมาป่วยยิ่งรู้สึกไม่ค่อยดีเลย โหวงๆมากตอนนั้นอ่า



สรุปน้องแค่ท้องเสียปกติ เรากับแฟนก็โล่งอก กลับไปก็เลยสัญญาว่า โลมาอยากกินอะไรก็จะให้กินให้หมด ไปค้นหารีวิวอาหารต่างๆ ที่เหมาะสำหรับแมววัยนี้ ก็ได้มายี่ห้อนึง ค่อนข้างแพงพอสมควร แล้วโลมาก็ดั้นเป็นแมวที่เอาแต่ใจมากๆ เวลาซื้ออะไรมาให้กินน้องจะดมๆ โอเคถ้าอร่อยน้องจะกิน กินแบบนี้สักวันสองวัน เปลี่ยนใจ ไม่กินอีกต่อไป เราก็ต้องไปซื้อรสชาติที่มันแตกต่าง วันไหนซื้อมาหลายๆรส ไม่ยอมกิน!! เลยตัดสินใจไปซื้อปลากระป๋องเซเว่นมาให้กิน 5555555 ลำไยยยยย (ไม่ดีนะคะ โซเดียมเยอะเดี่ยวน้องเป็นโรคไต)


ทุกวันก็ไม่มีอะไรมาก เราเลี้ยงน้องด้วยระบบปิด ตอนแรกก็ลำไย โลมานะ นางเอาแต่ใจมากกกก เลือกกินเว่อร์วังมากจ้า เราต้องคอยเปลี่ยนอาหาร ซื้อทาโร่ให้กิน ขนมของแมวจากญี่ปุ่นงี้ โหยยยยย ถ้าข้ากินกะเอ็งได้ข้ากินไปนานแล้วเจ้าเหมียว! ตุ๊กตางี้ ของเล่นสำหรับแมวงี้ ที่นอนงี้ เหมือนแม่ลูกอ่อนอ่ะ พูจริง5555555


แอบมองข้าหรอนุด!

เราเลี้ยงโลมาระบบปิดนะ ช่วงกลางวันก็จะปล่อยให้วิ่งเล่นในห้อง หลังเลิกเรียนก็จะกลับมาเล่นด้วย คอยเอาข้าวเอาน้ำ เปลี่ยนน้ำทุกวัน! ให้อาหารทุกวัน!! เล่นทุกวัน!! จนกลายเป็นความเคยชิน แต่โลมาก็นะ นุ้นไปออดอ้อนแต่แฟนเรา ชิ!! นอนด้วยกันมั่ง เดินเหยียบท้องเราไปอีกกกวันหลังข้าจะไม่เล่น ไม่ทำอะไรให้ทั้งนั้น!!!




เราก็อยู่แบบนี้ทุกวัน เหมือนไม้เบื่อไม้เมา พอแฟนไม่อยู่ โลมาจะค่อยๆเดินมาอ้อนเรามานอนด้วย โหยย ชั้นมันก็แค่ตัวสำรอง!!  พอน้องเริ่มโตก็ถึงเวลาพาน้องไปให้วัคซีน ฉีดมันทุกเข็มนี่แหละ แล้วพอถึงเวลาที่น้องต้องทำหมัน ความกลัวก็มาอีกแล้ว เรากังวลมาก กลัวน้องจะไม่โอเค เราฝากน้องไว้กับโรงพยาบาล 7 วัน ไปหาน้องทุกวัน แล้วน้องก็ดูซึมๆ เราก็นิสัยไม่ดี โทรถามคุณหมอทุกวันจนหมอน่าจะรู้แล้วแหละว่าเราจะโทรมาหาเรื่องอะไร 555555 เลิกเรียนก็ไปเล่นกะน้องที่โรงพยาบาล กลับมาห้องก็คิดถึงโลมา ไม่มีตัวยุ่งในห้องแล้วมันแปลกๆไปเลย

ปกติเราจะเล่นกันตลอด วันไหนที่เราไม่สบายใจมีโลมามาอ้อนนะ หายเลย โล่งมาก จนมันคงจะซึมซับไปทุกวันอ่ะแหละ ให้โลมาเป็นเนื้องอกในชีวิตไปแล้ว แล้วเราก็คงไม่ตัดก้อนเนื้อนี้ทิ้งแน่ๆอ่ะ 555555

จนพอถึงวันออกจากโรงพยาบาล น้องใส่คอลลาร์ไว้ ต้องอึดอัดแน่ๆ แต่หมอบอกห้ามถอดออกนะคะ เดี่ยวน้องเลียแผล อยู่ รพ. โลมาเป็นเด็กดีมาก ไม่หือไม่อือ จนกลับถึงหอนี่แหละ ตะกุยๆเอาคอลลาร์ออกอย่างเดียว แล้วแรงน้องเยอะมาก คอลลาร์กระจุยออกจากหัวไปเลย 555555



หลังจากทำหมันไป โลมาก็เริ่มกินเยอะขึ้นๆ กินทุกอย่างๆ (เปลี่ยนจากอาหารเปียกเป็นอาหารเม็ดแล้ว) แล้วเราเป็นคนชอบตามใจลูกมาก อาหารหมดเราก็เติม เติมๆๆๆๆๆๆ รู้ตัวอีกทีก็ นะ......55555555

ว้ายยยย เหนียงง


นี่ก็เหนียงงงงง หว่ายยยยย555555

แล้วจุดพีคของชีวิตโลมาก็เปลี่ยนไป......เรากับแฟนต้องไป work and travel ที่อเมริกา 4 เดือน (กระทู้เด็กเวิค ติดตามได้นะค้าา https://ppantip.com/topic/36909602)
พีคสุดก็คือ ไม่รู้จะเอาโลมาไปฝากกับใคร เพราะเพื่อนก็ไปฝึกงาน บางคนก็ไปเมกาเหมือนกัน พ่อก็ไม่รู้ว่าเราแอบเลี้ยง สุดท้ายก็ต้องบอกกับพ่อว่าเราเลี้ยงแมวนะ พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ไม่ให้เลี้ยงในบ้าน!! เพราะพ่อไม่ชอบขนแมว แงงงงงงง แล้วเราก็จิตตกไปพักนึง เพราะถ้าเลี้ยงแบบปิดมาตลอด จู่ๆมาเลี้ยงแบบเปิด อาจจะทำให้น้องวิ่งหนีหายไปไหนไม่รุ้แล้วอาจจะไม่กลับมาอีกเลย ร้องไห้ไปพักใหญ่ๆเลยตอนนั้น

จนวันที่ต้องออกเดินทาง เราปล่อยน้องไว้ที่หน้าบ้าน น้องนั่งมองเรากับแฟนขับรถออกบ้านไป น้ำตามันก็ไหลลงมาเลยค่าาาา งื้อออ

4 เดือนผ่านไป.........
เรากลับบ้านไป เจอโลมาเดินตามพ่อเราต้อยๆ พ่อไปสวน โลมาก็เดินตาม พ่อกลับบ้านโลมาก็เดินตาม จ้าาาาาาาาา สรุปโลมาเป็นลูกรักของพ่อไปแล้ว ณ ตอนนี้ 555555


(แล้วไหนพ่อบอกไม่ชอบไงฟระ อะโด่ว) กอดกันใหญ่เลยน้าาาา ชิ

เรากลับมาว่างๆไม่รู้ทำไรก็จับโลมามาเป็นนายแบบสักหน่อย เห็นแล้วหมั่นเขี้ยว


โตขึ้นเยอะเลย แถมขี้เกียจมากขึ้นไปอีก กินๆ นอนๆ ทั้งวัน

555555555 คือทุกรูปแทบจะปิดตาหมดเลยง่ะ ไหนขอดูดวงตาหน่อยสิจ้ะ
" มีไรหยอนุด "

" ขอเวลาพักผ่อนหน่อยจินุด "

****นี่ก็เป็นเรื่องราวๆน่ารัก สำหรับคนที่เคยกลัวแมวมาก่อน พอมีน้องเข้ามาในชีวิต เราไม่ได้คิดว่าน้องคือแมว แต่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เผลออีกทีก็นอนกอดกันไปซะแล้ว5555555 ความรักมันก็มากขึ้นๆทุกวัน เราอาจจะไม่ใช่คนที่เลี้ยงน้องดีแทบทุกอย่าง แต่ถ้าถามถึงความห่วงใย ความใส่ใจเรามีเกินล้านแน่ๆ 5555555 ******


"อ่ะ นุยอมให้นุดกอดก็ได้"

ขอบคุณที่ติดตามนะค้าาา <3
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่