บุกเดี่ยว เที่ยวอิสราเอล ปาเลสไตน์

ใจร้าวดาวดาวใจร้าว




สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกท่านชาวพันทิป
กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อแชร์ประสบการณ์ในเรื่องของความรัก
เป็นครั้งแรกของชีวิตที่ต้องมารับรู้ถึงความรู้สึก ที่เขาเรียกว่าอกหัก
เขาเลือกที่จะบอกเราให้เราไปหาคนที่สามารถให้ความสุขกับเราได้ เราชอบสังคม ชอบการเดินทาง พบปะเพื่อนใหม่ๆ ส่วนเขาชอบสันโดษ มีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่กับตัวเอง ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นออทิสติก แต่เราก็ยินดีที่จะเรียนรู้ ศึกษาและปรับตัว อยู่ด้วยกันมาได้ถึงห้าปีครึ่ง เพราะเหตุผลที่ว่า ความรักไม่สิ่งใดๆมาเป็นตัวกำหนด เขาทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากมาย ที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะได้รับรู้ถึง โรคแอสเปอร์เกอร์ซินโดรม

ตั้งแต่รู้จักกันมา  เราทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะกัน เพราะเราจะคุยกันด้วยเหตุผลทุกครั้ง
และในวันที่เขาตัดสินใจบอกเลิก ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตในสังคมเมือง  อีกทั้งเพื่อต้องการให้ความเป็นอิสระกับเรา เพื่อให้เรามีโอกาสไปพบเจอกับคนที่สามารถให้ความสุขกับเราได้
และในวันที่เขาบอกเลิกก็เป็นครั้งที่สามตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาห้าปี ที่เราได้เห็นน้ำตาของเขา

อาการ Melt down ที่ออกมาจากความรู้สึก แห่งเบื้องลึกจริงๆ กับคำพูดที่เรารู้สึกสะเทือนใจว่า "ผมไม่ใช่แค่ก้อนหิน หรือหุ่นยนต์ ผมมีความรู้สึก แต่อารมณ์และความรู้สึกของผม มันรับรู้ได้ช้ากว่าคนอื่นๆเขา" พอเราได้ฟังประโยคนั้นที่ออกมาจากปากเขา น้ำตาเราก็หลั่งตามทันที และรู้เลยว่านั่นคือสื่งที่เขาต้องการจริงๆ ปล่อยให้เราทั้งคู่เป็นอิสระซึ่งกันและกัน ทั้งๆที่รักและเรายอมรับกับการที่ใช้ชีวิตร่วมกับเขา แต่เมื่อเขาต้องการการเปลี่ยนแปลง เราเลยต้องยอมรับในการตัดสินใจของเขา แม้ว่าเราจะเจ็บซักแค่ไหน ทั้งชีวิตเกิดมาไม่เคยคิดว่า หัวใจของเราจะชา เพราะคำกล่าวลาของชายผู้เป็นออทิสติก

เป็นเวลาสามคืนสี่วัน ที่เรารู้สึกกินอะไรไม่ได้ นอนไม่หลับ ร้องไห้ จุกอยู่ในอก เพราะใจยังรักเขามาก เป็นครั้งแรกของชีวิตจริงๆ ที่รู้สึกถึงคำว่าจะต้องเสียสิ่งที่เราผูกพันธ์ คนที่เรารัก แม้จะเป็นหุ่นยนต์ ที่อย่างน้อยตลอดเวลาที่เคยอยู่กินด้วยกันมา เรียน ทำงาน กลับมาบ้าน ก็ยังมีผู้ชายที่เราสามารถเชื่อใจ และไว้ใจได้ 100% แต่ต่อไปนี้จะไม่มีเขาคนนี้ในฐานะคู่ชีวิตอีกแล้ว สี่วันกับความเศร้า เมื่อตัวเราเอง มีสติและคิดได้ เลยเลิกที่จะเศร้า ตัดสินใจที่จะต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง จะให้ทนนอนอยู่ห้องในเช่าที่เราเคยอยู่ด้วยกันอีกสองเดือน มันนานไป กับอดีตที่วนเวียนในความคิด เลยเลือกที่จะพาตัวและหัวใจไปพักซักที่ ก่อนกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยตัวคนเดียวอีกครั้ง


เราเลือกที่จะเดินทางไปอิสราเอล เพราะเป็นประเทศที่เราอยากจะไป แต่ไม่มีโอกาสได้ไปซักที ด้วยเหตุผลนู้นนี่นั่น เมื่อชีวิตจะต้องเริ่มต้นใหม่ ก็ขอเอาอดีตเก็บไว้ และพาหัวใจไปพักที่อิสราเอลหรือกัน ในเช้าวันที่เราตั้งสติได้ เราเลยจองตั๋วเครื่องบินทันที พร้อมบุ๊คที่พักราคาประหยัดกับ Airbnb ไปพักอยู่กับโฮส หลายๆที่พัก เพื่อสร้างเพื่อนใหม่และอยากเรียนรู้รู้ประสบการณ์ใหม่ๆ จากคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจริงๆ และนี่คือทริปแห่งการพาหัวใจไปพัก การจัดการกับปัญหาความรักของตัวเราเอง


ในการเดินทางเราเดินทางจากอังกฤษ เพราะตัวเราพำนักอยู่ที่อังกฤษค่ะ สายการบินที่เลือกใช้เป็นสายการบินราคาประหยัดอย่าง Easyjet ใช้เวลาในการเดินทางจากสนามบิน Luton ลอนดอน ถึงสนามบิน Ben Gurion กรุง เทลาวีฟ บินตรงเป็นเวลา 5ชั่วโมง เมื่อถึงสนามบินก็จะต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของที่นี่ อิสราเอลเป็นประเทศที่มีหน่วยรักษาความปลอดภัยคนข้างสูงมาก เพราะมีอริเยอะ (ปัญหาเรื่องการเมืองเขาเราไม่ขอพูด) เจ้าหน้าที่ตม จะถามละเอียดก่อนที่จะให้วีซ่าเข้าเมืองกับเรา แถวค่อนข้างยาว เพราะเจ้าหน้าที่เขาเช็คละเอียด เราเจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิง เขาถามเราว่า "คุณมาที่ประเทศนี้ทำไม รู้จักใครที่นี่ไหม" เราตอบว่า "ฉันเพิ่งเลิกกับแฟน มาเพื่อลืมอดีต อิสราเอลเป็นประเทศที่ฉันเลือกที่จะมาทบทวนความคิด ตั้งสติ แล้วเริ่มต้นใหม่กับชีวิตตัวเอง" เจ้าหน้าที่หญิงยิ้มให้ พร้อมกับบอกว่าเที่ยวให้สนุก แล้ว ปริ๊นใบวีซ่าออกมาให้เรา เออเกินคาด เพราะในใจเรานึกว่าจะถามซอกแซกมากมายมากกว่านี้
สาเหตุที่ปริ๊นใบวีซ่า ใส่แนบเก็บไว้ในพาสปอรต แทนที่จะประทับตราลงบนเล่มหนังสือเพราะว่า หากมีตราประทับอิสราเอลบนเล่มพาสปอร์ต เราจะไม่สามารถเดินทางเข้าไปในบางประเทศได้ (การเมืองอีกเช่นกัน)

วันนั้นเป็นวันเสาร์ค่ำ เวลาประมาณสามทุ่ม ไอ้เราก็ลืมไปว่า อิสราเอลไม่เหมือนที่อื่น เพราะตามศาสนายิว วันศุกร์บ่ายๆเย็นๆ และเสาร์ จะเป็นวันหยุดของคนที่นี้ รถโดยสารสาธารณะจะหยุดให้บริการ ชาวยิวเรียกวันหยุดนี้ว่า Shabbat นั่นหมายความว่าเราจะต้องใช้บริการของแท็กซี่ ซึ่งจะมีราคาสูงกว่ารถโดยสารปกติทั่วไป ในใจก็นึกตายแล้วเรามีงบจำกัด ระหว่างที่เดินออกมานอกสนามบิน โชคช่วยที่มีคนใจดี บอกเราว่ามันมีรถโดยสารจากสนามบินวิ่งส่งคนถึงในเมืองฟรี ให้เราเดินออกไป ก็จะมีรถทัวร์โดยสารฟรี รออยู่ที่จุดจอดรถ

รถบัสฟรี บริการวัน Shabbat เดินออกจากสนามบินให้เลี้ยวขวาแล้วเดินตรงจนสุดทางก็จะเจอ

ระหว่างเดินไปที่ที่พัก เลยหยุดถ่ายรูปยามค่ำ

ใช้เวลาประมาณ 20นาที รถก็จอดส่งผู้โดยสารปลายทางที่สถานี Tel Aviv Savidor Central และในระหว่างที่เราอยู่รถบัส ก็ติดต่อกับโฮสที่เราพักตลอดทาง
จากสถานีใช้เวลาเดิน ถึงที่พักประมาณอีก 25นาที เมื่อถึงที่พักก็เจอกับโฮสหนุ่ม อายุประมาณ ไม่เกิน 40ปี ชื่อว่าคุณ Hagay ทักทายต้อนรับและพูดคุยโชว์ห้องนอน และมอบกุญแจห้องให้กับเรา

ห้องนั่งเล่น มีทีวีให้ดู

คุณ Hagay ซึ่งเป็นโฮสของเราในอาทิตย์แรก พอพูดคุย จึงสนิทกันตามสมควร เล่าอะไรหลายๆอย่างให้ฟังว่า คนที่นี่พอเรียนจบ college แล้วจะต้องรับราชการทหาร ทั้งหญิงและชาย ผู้หญิง 2ปี ผู้ชาย 3ปี เมื่อครบกำหนดแล้วใครจะเป็นทหารต่อก็ได้ ดังนั้นไม่แปลกที่จะเห็นหนุ่มสาว ใส่ชุดทีเขียวซึ่งเป็นชุดเครื่องแบบของทหารที่นี่ คนที่นี่ส่วนใหญ่จะหน้าตาดี ทั้งหญิงและชาย  
ดาว


เช้าวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันทำงานปกติของคนที่นี่ ก่อนที่โฮสจะออกไปทำงาน เราก็บอกกับเขาว่า เดี๋ยวตอนค่ำจะทำอาหารไทยให้ทาน ซึ่งโฮสไม่เคยทานอาหารไทยมาก่อน รู้จักแต่ชื่อของผัดไทย เพราะเขาเคยได้ยิน เราก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะทำแกงเขียวหวาน Green Thai curry ให้ลองทานดู  

เราก็ได้ถามพิกัดของตลาดสด ที่จะไปช็อปเครื่องปรุงและส่วนผสม ของแกงเขียวหวานไว้แล้ว
ตลาดที่คุณ Hagay แนะนำให้เราไปคือ ตลาดคาเมล Carmel market จากสถานที่ๆเราพัก สามารถนั่งรถโดยสารประจำทางได้ เดินทางสะดวก ราคาค่าโดยสารต่อเที่ยวอยู่ที่ 5.90 shekel หรือประมาณ 53 ต่อเที่ยว


..........

Carmel Market เป็นตลาดสดที่ขายสินค้า ราคาไม่แพง มีของหลากหลายมากมาย อาทิเช่น ของฝาก ของที่ระลึก พืชผัก ผลไม้ ธัญพืช
ตั้งอยู่ใกล้กับถนน King George ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากอดีตกษัตริย์ของอังกฤษ (เพราะครั้งหนึ่งที่นี่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ)


บริเวณถนน King George จะมีร้านรับแลกเงินที่ให้เรทดี แนะนำใครมาเที่ยวเวลาแลกเงิน ให้ดูด้วยว่าร้านนั้นๆไม่มีค่าคอมมิชชั่น การแลกเงินร้านเล็กๆ ส่วนตัวคิดว่าดีกว่าการไปแลกเงินกับธนาคาร
สกุลเงินของที่นี้ใช้ สกุลเงิน Shekel
1Shekel = 9บาทไทย



เดี๋ยวมาเล่ากันต่อค่ะ ..........
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่