ข้อดีของค่าย SM ที่ค่ายอื่นไม่มีหรือหาไม่ได้ มีอะไรบ้าง

กระทู้คำถาม
ช่วงนี้รู้สึกมองเอสเอ็มติดลบไปหน่อยเลยอยากหาข้อมูลมาอ่านว่าเอสเอ็มมีดีอะไรบ้าง ดีในที่นี้คือดีต่อแฟนคลับนะคะ ดีต่อค่ายเอสเอ็มอย่างเดียวไม่เอาค่ะ และเอาข้อดีที่ค่ายอื่นๆไม่มีหาไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่เอสเอ็ม อะไรประมาณนี้ค่ะ อยากรู้ค่ะว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
คนตั้งคำถามเกี่ยวกับSMเยอะแปลกๆเนอะช่วงนี้
ค่ายมีดีอะไรน่ะหรอ ดีต่อแฟนคลับยังไง ดีแบบไหน สำหรับแฟนคลับแล้วอะไรคือดีล่ะ? ถ้าเรารักศิลปินวงๆนึง แค่ค่ายให้เค้าคัมแบคนั่นก็ถือว่าดีแล้วไม่ใช่หรอ ไม่รู้ดิ อะไรคือดีต่อแฟนคลับหรอคะ55555 มันขึ้นอยู่ที่ตัวแฟนคลับมากกว่ามั้ยว่าจะมองยังไง

ในมุมมองของเรา ถ้าถามว่าค่ายมีดีอะไร เราว่าSMเป็นค่ายที่ป้อนงานเดี่ยวให้ศิลปินได้ดีเลยทีเดียว พอวงอายุนานเข้าจะสังเกตเลยว่าเมมเบอร์แต่ละคนเริ่มมีงานเดี่ยวที่ชัดเจนแล้วอ่ะ เหมือนรู้จักศักภาพของแต่ละคนว่าเด่นด้านไหน ก็ลุยด้านนั้นเต็มที่ TVXQ SJ SNSD SHINee F(x) EXO Red Velvet วงเหล่านี้ก็ชัดแล้วว่าแทบทุกคนมีงานเดี่ยวกันหมดเลย ซึ่งมันก็จะดีในระยะยาวด้วย ถึงค่ายมันจะผีบ้างไรบ้างแต่มันก็สร้างไอดอลกรุ๊ปจนประสบความสำเร็จทุกวงนะ แม้ไม่ใช่ที่สุดแต่มันก็ไม่แย่เลยจริงๆ แม้แต่NCTที่คนบ่นๆกันว่าเพลงแปลก แต่ยอดอัลบั้มก็300K+ได้ (หรือ200K+นะไม่แน่ใจอ่ะ) แฟนคลับน้องไม่น้อยเลยนะ


ยิ่งเห็นหลายคนบอกช่วงหลังๆมานี้SMทำเพลงแปลกๆ ชาร์ตไม่ดี ก็อยากจะบอกว่ามันก็ปกติของค่ายนี้แหละ ไม่ใช่ค่ายที่ชาร์ตดีเด่นอะไรอยู่แล้ว แนวเพลงก็แปลกมาตั้งแต่สมัยทงบังแล้วมั้ย การทำเพลงมันก็ต้องมีดี และไม่ดีพอ ยากที่จะประสบความสำเร็จมันซะทุกเพลง

ถ้าถามว่าSMมีอะไรที่ค่ายอื่นไม่มี ขอตอบว่าSMมีไอดอลกรุ๊ปที่อายุวงเกิน10ปีมากสุดในKPOPได้มั้ย ไม่ใช่ค่ายไหนก็ทำได้นะคะ อาจจะขาดๆหายๆไปบ้าง แต่วงก็ยังอยู่นะ
TVXQ=15ปี
SJ=13ปี
SNSD=11ปี
SHINee=10ปี
แถมยังแอคทีพอยู่ทุกวง และยังขายได้ทุกคนอ่ะ ดีต่อแฟนคลับแน่นอนได้เห็นหน้าค่าตากันไม่หายแบบนี้
ความคิดเห็นที่ 5
โอยยยย ไม่ต้องรอขนาดนั้นหรอกค่ะ  คิดว่าหลายคนตอบได้ดีกว่าเรานะเพราะอย่างน้อยเขาก็ยังมองในมุมที่แบบคิดถึงทางด้านแฟนคลับมากกว่าในขณะที่ตัวเราจะมองแบบไปทางธุรกิจค่อนข้างเยอะ  และเราไม่แนะนำให้คนที่ ยึดไอดอลเป็นศูนย์กลางมาชอบ sm ยุคนี้ด้วยซ้ำ  นี่พูดจริงๆ  อย่างน้อยก็เป็นการรักษาสุขภาพจิตของตัว เขาเอง และถ้าคุณจะซื้อหุ้น SM ช่วงนี้เราก็ยังไม่แนะนำเพราะ คุณจะยังไม่ได้อะไรเลย เพราะมันอยู่ในระดับของการสร้างและจ่ายเงินออกไป และยังไม่มีการคืนทุนใดๆทั้งสิ้น  แต่อีกสัก 5 -10 ปีต่อมา อันนี้ค่อยน่าหน่อยเพราะมันจะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวแล้ว ซึ่งเป็นการเก็บเกี่ยวที่ไม่ได้มาจากตัวไอดอล 100% เหมือนเมื่อ 10 20 ปีก่อน

แต่ถ้าจะถือไว้ขำๆ ว่ามีหุ้นอยู่ในบริษัทเดียวกับไอดอลที่ชอบตอนนี้และเงินเหลือก็ไม่ว่ากัน


ปกติเราเลือกตอบกระทู้ที่ถามและโยงกับโลกความเป็นจริงบ้าง   แต่ที่มาตอบเพราะคุณคห 2  เพราะมันจะไม่สมเหตุสมผลเลย ถ้ามองแค่ตัวไอดอลหรือฟค แต่ไม่สนค่ายที่เป็นทุกอย่างของทั้งหมดที่ว่ามา  รู้ไหมคะ เวลากระทู้ถามตอบพวกนี้ เราไม่ค่อยสนใจจุดยืนตัวเองที่มีต่อค่ายเท่าไหร่ แต่ชอบดูการตอบ ตั้งคำถามของแต่ละคนมากกว่า ว่าคิดยังไง  ทัศนคติต่างๆ บางคนไม่ต้องคิดตรงกับเรา ยังเออ ว่าเขาคิดน่าสนใจเลยก็มี

แต่ออกตัวก่อนเลยว่า ค่ายอื่นเขาก็มีดีค่ะ ไม่ใช่แค่เอสเอ็มทำได้ค่ายเดียวหรอก  แต่ต้องบอกด้วยว่าค่ายใหญ่เข้าตลาดหุ้นเต็มตัว จะมาสปอยล์ทุกอย่างทั้งแฟนคลับและไอดอลไม่ได้หมดหรอกค่ะ มันมีคำว่ากำไรมาเป็นตัวขั้น มาชี้วัด แล้วอย่างที่บอกคือ เราไม่ใช่โฆษกค่ายนะ  ข้อดีข้อเสียมันก็เห็นกันอยู่  เราคิดว่า SM ยุคนี้จะไม่เหมาะกับคนที่ยึดไอดอลเป็นศูนย์กลางเลยนะเพราะว่าบริษัทเขาตอนนี้มันเป็นการสร้างฐานเพื่อให้ไอดอลอยู่ได้อย่างยาวนานมากขึ้นในระบบที่เขาตั้งเอาไว้  สมมุติถ้าไปสมัยเมื่อ 10 ปีก่อนการทำให้เปิดตลาดหรือวงดังเพื่อจะขายได้การทำให้แมสที่สุดเพื่อสร้างฐานความนิยมอ่ะมันเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ  แต่ก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่านี่มันจะสิบปีมาแล้ว  ค่ายพ้นจากยุคที่ใช้คำว่าวงนึงสร้างค่ายมานานมากแล้วนะ  มีไม่กี่วงมันก็มีเวลาใส่ใจทุ่มเทมากกว่ามันถูกแล้ว  ถ้าเปรียบเป็นชีวิตของคนหนึ่ง sm ก็เข้ามาสู่วัยกลางคนแล้วอ่ะคือผ่านพ้นมาทุกรูปแบบของชีวิตตั้งแต่ประสบความสำเร็จ การตกต่ำชะลอ เรียกว่าจะครบ cycle นึงแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่สร้างอะไรไว้ให้รุ่นหลังของค่ายตัวเอง  สร้างอาณาจักรตัวเองให้แข็งแกร่งมากขึ้น สุดท้ายแล้วใครได้รับผลประโยชน์ ก็ไอดอลคนที่เลือกอยู่กับเขานั่นแหละ  
เคยเห็นค่ายเล็กค่ายใหญ่ของไทยที่ประสบความสำเร็จมากๆในอดีตไหมตอนนี้คือโดนกลืนไปหมดแล้วยุบค่ายไปแล้ว  คือยุคนี้มันฟาดฟันกันจริงๆไม่ว่าจะเป็นด้านผลงานเส้นสาย Connection เงินทุนเทคโนโลยี


ถ้ามองเอาง่ายๆ สุดเลยก็คือ

1. ดีต่อแฟนคลับ นั่นหมายถึงดีต่อตัวไอดอลถูกไหมค่ะ เอสเอ็มทำสิ่งที่ดีต่อไอดอลของเขาค่ะ แต่ไม่ใช่ไอดอลทุกคน  กิจการที่ค่ายลงทุนไปก่อนก็เอาไปรองรับไอดอลตอนอายุเยอะนี่แหละค่ะ  หมายถึงไอดอลที่ไม่ได้คิดจะมีกิจการของตัวเอง ไม่มีทักษะความสามารถ ความเชี่ยวชาญใดๆ นอกจากทำมาหากินด้านงาน ร้องเพลง เต้น และครูฝึกสอนเป็นหลัก    ถ้าไอดอลพวกนี้จะต่อยอดก็ต้องต่อยอดไปที่กิจการค่ายหรือหน่วยงานที่คุ้นเคย ค่ายก็ใกล้ตัวสุดแล้ว   ทีมงานเดิม เราคิดว่าค่ายไม่เก่งละคร หรือวาไรตี้ เพราะไอดอลคุณเดบิวในค่ายเพลงถูกไหม ไอดอลที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดก็มาทางงานสายนี้ก่อนเป็นอย่างแรก แต่ค่ายก็พยายามซื้อควบรวมกิจการในด้านอื่น แป้กบ้าง ดีบ้าง แต่สุดท้ายมันก็เกิดการจ้างงานในค่ายทั้งทีมงาน สตาฟฟ์ หรือตัวไอดอลที่อยู่ในบริษัท ไอดอลอายุวงนานๆ สิบปีขึ้นเขาจะทำไร ต่อไปจะไม่ได้อยู่ในฐานะผู้รับงาน แต่ต้องเป็นคนสร้างงาน ถ้าค่ายไม่ขยายกิจการไป จะไปทำอะไรต่อ ถ้าความนิยมลดสักวันนึงอีก 10 ปีต่อมา  เปิดบริษัทใหม่ แต่งงาน สร้างกิจการแข่งกับค่ายต่างๆ?

2.เงินทุนเขาเยอะ เขาไปก็ไปต่อยอดงานศิลป์  เทคนิค การถ่ายภาพ กล้องถ่ายทำ อะไรที่ความเห็นข้างบนพูดถึงแหละค่ะ มีการลงทุนจ้างทีมงานสร้าง Concept สร้างไอเดียของวงต่างๆ  อันนี้ไม่ใช่เพื่อ Idol อย่างเดียวแต่เป็นเพื่อการจับฐานและแบ่งย่อยกลุ่มให้มีหลาย segment มากขึ้น   ผู้เสพหรือผู้บริโภคอย่างเราอ่ะ ก็มีรสนิยมเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน อย่างเราอ่ะจะ Stand ค่ายก็ไม่ใช่นะเราเสพแค่บางวงบางเพลง คือเอาจริงๆก็ดูไปทั่วแหละทุกค่าย   SM ให้ตรงนี้กับเราได้ ได้ในระดับที่ทำหลายๆวงพร้อมพร้อมกัน มันอาจจะไม่ได้ดีหมดทุกวง แต่มันก็ยังมีดี เวลามันตั้งใจทำ  แม้แต่ Production Concert  ที่เออ  วงไหนก็ไม่แย่   แล้วมีระยะเวลาการเสพที่ค่อนข้างแน่นอนของแต่ละวงในค่ายว่าจะได้อะไรจากงานตรงนั้น  ซึ่งตรงนี้ให้เครดิตความเป็นบริษัทใหญ่และพารทเนอร์ที่เขามี   เราไม่เคยตามไอดอลจริงจังแนวฟค มาก แต่ก็พอรู้ว่าถ้าไปชอบไอดอลที่อยู่ค่ายที่ไม่มีการจัดงานวางแผนที่เป็นระบบ มันจะวุ่นวายมากๆ

ค่ายให้ความสำคัญกับองค์ประกอบของ Idol ในด้านอื่นๆด้วยใกล้ตัวหน่อย ท่าเต้น ซึ่งอย่างที่บอกคือเราตามเคป๊อปโดยจุดเด่นมานำเสนอที่ท่าเต้นก่อนไง  แม้บางท่าจะโคตรไม่เซฟ Idol  มันก็ครีเอทีฟดี แต่หามาตรการความปลอดภัยมารองรับก็จะดี   แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องตำหนิเลือดนักสู้ของตัวไอดอลแต่ละคนด้วยนะเพราะบางคนก็ passion แรงเกิน โดยเฉพาะสปิริตเมนแดนซ์ทั้งหลาย

อีกส่วนคือ ไอดอลที่ออกจากค่ายหรือไม่อยู่เนี่ย ส่วนใหญ่ก็ไปได้ดีทุกคนแหละค่ะ ไม่งั้นคงไม่ออก แต่พวกองค์ประกอบอื่น เช่น การถ่ายเอ็มวี การแต่งหน้า ภาพผม  ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของแฟนคลับอีก ว่าคุณได้ดูงานศิลป์ องค์รวมด้านอื่นนอกเหนือจากความเป็นไอดอลรึป่าว ซึ่งส่วนหนึ่งเราก็มั่นใจว่าไม่ได้คิดไปเองมีหลายคนก็ต้องลุ้นกับอะไรหลายอย่างของอดีตไอดอลของ SM เหมือนกัน  พวกการกรูมมิ่งต่างๆ  หรือการโดนสกรีนคำถามของสื่อที่ถูกสัมภาษณ์แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ซึ่งปกติและ SM จะควบคุมให้เกือบหมดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาโดยไม่คาดฝัน  เล่นเอง   ไม่ระวัง พลาดโดนเนติเซ็นรุมทึ้งก็ไม่สนุกเท่าไหร่นะ ถ้ายังอ่อนปสก หรือเพิ่งเดบิว  พลาดครั้งเดียวโดนด่าจนเป็นตราบาปจนตาย   เราก้อไม่อยากเห็นความเรียลของไอดอลมากมายไรขนาดนั้นด้วย โดยเฉพาะ Idol ที่ยังจัดการกับตัวเองไม่ได้   เนติเซ็นน่ากลัวจะตาย


ถ้าคุณเป็นแฟนคลับเน้นแค่ไอดอล เพราะรักเขาโดยไม่มีเงื่อนไข  คุณก็ไม่สนใจไง มองข้ามทุกอย่างไป   แต่ผู้บริโภคบางกลุ่มเขาสน แล้วบังเอิญเราก็เป็นหนึ่งใน ผู้บริโภคที่ว่านั้นด้วยสิ ดังนั้นเราก็จะเข้าใจถึงคนที่ โมโห SM ช่วงหลังพอสมควรนะแต่ก็พยายามที่จะไม่ค่อยคุยกันในกระทู้ ทั่วไป  อันไหนข้ามได้ก็ข้าม

อีกอย่างการร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ทั้งในและต่างประเทศ ปกติแล้ว ไม่มีธุรกิจไหนจะร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัททีไม่มีอนาคตค่ะ ผู้บริหารเขาดูกึ๋น ดูวิสัยทัศน์กันอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นคนระดับเดียวกัน ไอดอลคุณอยู่ที่นี่ก่อนจะดังมากจนไปเซ็นต่อยอดที่อื่นได้ ไอดอลคุณก็ได้รับการอบรม เทรนนิ่งกับทีมงานต่างประเทศกับมืออาชีพระดับนึง  ถ้าเขาไม่อยู่ค่ายนี้แล้วยังไม่ดัง ก็คงไม่มีโอกาสดีๆ แบบนี้ หลายคนจะมองไอดอลตอนดังค่ะ แต่ไม่ได้คิดย้อนไปตอนไอดอลเป็นลูกเจี๊ยบที่ไม่มีประสบการณ์ใดๆ เลย แล้วตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะคืนทุนหรือทำกำไรได้ไหม การลงทุนมีความเสี่ยงและก็ไม่ใช่ทุกความเสี่ยงที่ให้ไปจะได้คืนทุน เสียทิ้งไปก็เยอะ  ไอดอลที่ออกจากค่าย เราว่าแต่ละคนมีมูลค่าในตัวที่สูงมากนะ พวกเด็กฝึกเขาไม่ได้อยู่ในฐานะลูกจ้างแบบเราเพียวๆ ไง  แต่อยู่ในฐานะอาจารย์กับลูกศิษย์และบริษัทเลือกทีจะให้โอกาสในระดับที่พอรับได้

คุณจะได้ยินคำนึงบ่อยมากจากเด็กเอสเอ็มคือ คำว่าให้โอกาส แก่ไอดอลคนนึงทั้งที่ไม่รู้เลยว่าให้ไปแล้วจะออกมาเป็นยังไง เพราะแบบนี้ไอดอลทุกคนนับถือลีซูมานในฐานะคุณครูกับศิษย์ เพราะอย่างนี้แหละถึงแม้ว่าลีซูมานจะเป็นนักธุรกิจที่ค่อนข้างนึกถึงกำไร ขาดทุนมากก็ตาม  แต่สิ่งที่เขาได้รับจากลีซูมาน ก็มากพอเหมือนกันในฐานะครูสอนชีวิต ไม่ใช่นายจ้างลูกจ้าง 100%  คนที่จะบาลานซ์ ตรงนี้ได้เนี่ย ให้ออกมาดี มันยากมากเลยนะ  ยิ่งมีผู้ถือหุ้นมาคอยกดดันอีกต่อหนึ่ง แล้วต้องรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายแล้วไอดอลมีกี่คนในบริษัทแล้วบริหารภาพรวม แต่คนที่ไม่ชอบคือ มีแค่ตัวคุณและคนที่คุณรักเท่านั้น ก็แน่เพราะคุณเป็นแฟนคลับ มันก็ไม่ผิด ถ้าคุยในกลุ่มไลน์ตัวเองอ้ะได้เลยผ่าน พอมาเว็บบอร์ดสาธารณะ มันก็แบบนี้ล่ะ


3.การวางแผน การปล่อยอัลบั้ม ไม่ได้คลาดเคลื่อนมาก ถ้าวง/ไอดอลคนนั้นไม่ได้มีปัญหา บางคนอาจคิดว่าไม่สำคัญ แต่ความจริงมันสำคัญมากทั้งตัวไอดอลและแฟนคลับ  ออกช้าหรือดองยาวนี่จิตตกนะคะ

จะออกมาเปรี้ยงหรือแป้ก อย่างน้อยก็ยังมีโอกาสได้ทำ ปกติแล้วเนี่ยถ้าเห็นแววขาดทุนในสายตามาแต่ไกล เขาก็ไม่ให้ทำกันง่ายๆ หรอกค่ะ  ไม่รู้สินะตรงนี้พูดยากจริงๆ  มันมี ประโยคหนึ่งที่เราจำได้จนถึงทุกวันนี้เลย เราเคยเถียงมั้ง แนวๆ มันน่าจะขายได้ทำไมถึงไม่ทำมันต่อ  แล้วโดนสวนกลับนิ่มๆ ว่า ก่อนจะพูดประโยคนี้ออกมาได้ทำการ research ลงตลาดเหมือนผมแล้วหรือยัง  ผมคนออกเงิน ทำไมจะไม่คิดก่อน  โอ้โหห  อึ้งไปจนหาทางกลับไม่ถูก

แต่บางทีค่ายนี้ก็ยังให้โอกาสที่จะได้ออกบ้าง แต่จะให้จัดเต็มหมดเลยก็ต้องดูศักยภาพการทำงานของไอดอลที่คุณรักด้วยว่าไปได้มากน้อยแค่ไหน ไอดอลมีกี่สิบชีวิต ใครที่พอจะขายได้หรือทำได้ เราไม่เคยเห็นค่ายจะปล่อยให้อยู่ว่างเลยนะ  บางคนอาจคิดว่าค่ายใหญ่มันไม่อบอุ่น ไม่ผูกพัน ก็ฟีลเหมือนทำไมหลายคนถึงเลือกทำงานบริษัทใหญ่ ไม่ใช่บริษัทเล็กที่ได้เงิน ผลตอบแทนและกำไรมากกว่า  หรือออกไปทำของตัวเองเพียวๆ ส่วนนึงที่เลือกกันเพราะความเป็นระบบ ความมั่นคง  ไอดอลหลายคนเขาก็ต้องการความมั่นคงในชีวิตเหมือนกัน ไม่อยากไปเสี่ยง
เวลาคุณมองเห็นว่า ไอดอลดังๆ หลายคนเลือกอยู่ต่อกับค่าย ทั้งที่มันโคตรจะแย่เลย ในสายตาแฟนคลับ แต่ไม่ลองคิดกลับกันว่าทำไมคนพวกนั้นถึงเลือกอยู่ต่อบ้างล่ะ คนอยู่มีมากกว่าคนไปนะ ไม่มีใครบังคับให้เซ็นสัญญาต่อด้วยซ้ำ แสดงว่าไอดอลที่คุณรักต้องมีความสุขพอสมควร พอพวกเขามี พวกคุณที่เป็นแฟนคลับก็น่าจะมีความสุขด้วยนะ

4.ชอบเอสเอ็มก็เหมือนชอบธุรกิจไอดอลครบแพ็คเก็จในแง่มาหมด ทัวร์ โรงแรม ห้าง  ทัวร์ที่เขากำลังทำนั่นล่ะ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความยุ่งยาก เพราะดันสร้างธุรกิจครบวงจร มันก็สะดวกดี แต่คนชอบความท้าทาย ลุ้นระทึก อยากได้อะไรใหม่ๆ ค่ายอื่นก็เป็นคำตอบทีดี ตรงนี้มันขึ้นอยู่กับรสนิยมการเสพความบันเทิงของแต่ละคน ของค่ายนี้มันมีแพทเทิร์นการเทรนเด็กและปูเส้นทางให้เด็กพอสมควร อะไรที่รุ่นพี่เคยได้ รุ่นน้องก็ได้เหมือนกัน โฆษณาต่างๆ  การเข้าร่วมงานที่ยังไงโควต้าต้องมีให้ ตรงนี้มันเหมาะกับวงที่ยังไม่ดังนะ พวกดังเปรี้ยงแล้วไม่พูดถึง บางคนก็ไม่ได้อยากเสพไอดอลที่ต้องผ่านเส้นทางที่มีอุปสรรคมากขนาดนั้น ไอดอลที่ผ่านมันไปได้ก็มี แล้วประสบความสำเร็จนั้นน่าชื่นชม แต่จะมีสักวงล่ะ กว่าจะไปถึงจุดนั้น   ไอดอลทุกวงของค่ายอาจะไม่ได้ดังมากๆ ทุกวง แต่ก็ไม่ถึงกับเลือดตากระเด็น เพราะเลือกตากระเด็นตอนช่วงแข่งเพื่อได้เดบิวมาส่วนนึงแล้ว   ส่วนตัวเรามาเสพ Idol ก็เพื่อความบันเทิง อันนี้เป็นความเฉพาะตัวของเรานะไม่เกี่ยวคนอื่น เราไม่ชอบให้ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ มามีอิทธิพลต่อ ไอดอลเท่าไหร่  หรือด้านมืดโลกมืดอะไรที่ เห็นอ่านแล้วมันจะรู้สึกหดหู่อาจจะไม่ได้ดีมากแต่เราว่าเขามีระบบการป้องกันข่าวลือข่าวอะไรพวกนี้ที่ดำเนินการได้ค่อนข้างไม่แย่   รวมถึงการจัด Security ให้ตัวเด็กเอง รู้สึกว่า แฟนคลับประเภทนี้ก็สมควรจะอยู่กับค่ายอย่างนี้ มันเพลย์เซฟให้ตัวเด็กส่วนนึง     แต่เอาเถอะ ดีต่อแฟนคลับ มันก็ขึ้นกับว่าคุณเป็นแฟนคลับแบบไหนด้วยค่ะ  ตรงนี้สำคัญมาก  มันไม่มีอะไรดีทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้แย่ทุกอย่างเหมือนกัน คนเยอะก็งี้แหละค่ะ ปัญหามันก็เยอะตาม แสดงว่าองค์กรของคุณใหญ่ขึ้น เติบโตไปข้างหน้า มีปัญหาให้แก้ เรียนรู้ความผิดพลาดแล้วไปต่อ สร้างสิ่งใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครลอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่