เรื่องมีอยู่ว่าปกติเป็นคนแพ้ง่ายเวลาใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้า ผม หรือที่เกียวกับร่างกายตัวเอง ถ้าเจอผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ใช้แล้วไม่เกิดอาการแพ้จะใช้ยาวนานหลายปีจนเขาเลิกผลิตไปเลยก็ว่าได้ จะไม่ค่อยเปลี่ยนไปทดลองใช้อย่างอื่นค่ะ แชมพูสระผม ครีมนวด หรืออะไรต่างๆที่ใช้กับผมก็เช่นกันค่ะ และจะซื้อตุนไว้เผื่อหมดเสมอๆ
เข้าเรื่องเลยละกันค่ะเมื่ออาทิตย์ก่อนแชมพูที่ใช้ประจำหมด แล้วคิดว่ามีการซื้อตุนไว้อยู่แล้วจึงไม่ได้ซื้อเพิ่มค่ะ ปรากฏว่าหมดค่ะไม่เหลือเลย
ด้วยความที่เราออกกำลังกายทุกวันต้องสระผมทุกวัน วันนั้นก็พึ่งออกกำลังกายเสร็จจะสระผมแล้วแชมพูหมด จึงลงไปร้านค้าและซื้อมา (ไม่ใช่ยี่ห้อเดิมที่เคยใช้) ก็เลยหยิบๆมาไม่ทันได้ดูหรืออ่านอะไรค่ะ แถวที่เราอยู่มีร้านค้าของชำเล็กๆค่ะ ก็เลยไปซื้อมาใช้ๆแก้ขัดไปก่อนอะไรแบบนี้ค่ะ ก็หยิบๆมาใช้ไม่ได้คิดอะไรมาก สรุปผ่านมาเกือบ 1 อาทิตย์ขวดนั้นหมดค่ะ
*****แล้วก็ยังไม่ได้ไปซื้อของเดิมที่เคยใช้ ก็เลยไปซื้ออีก แต่รอบนี้มีเวลาได้อ่านค่ะ พอเริ่มใช้เข้าอาทิตย์ที่ 2 ก็เลยเลือกอ่านและเลือกใช้ให้ตรงกับสภาพผมเราสักหน่อย (ย้ำว่าอ่านผ่านๆจริงๆ) และรายละเอียดตรงนั้นด้านบนจะมีเขียนว่า "ครีมบำรุงผม" ตอนอ่านก็เอะใจกับคำพูดนี้อยู่บ้างและวิธีใช้ก็ไม่ได้บ่งชี้มากนักแต่ก็ยังไม่มันใจใจตัวเอง
ก็ตัดสินใจซื้อค่ะทั้งที่ยังลังเลนั่นละ เป็นยี่ห้อเดิมกับอาทิตย์ก่อน แต่รอบนี้เปลี่ยนสีเพราะมันบำรุงผมตามสภาพผมเรา ระหว่างที่ซื้อมาเสร็จก็ขึ้นลิฟท์และคิดไปด้วยว่ามันเป็นครีมนวดผมไหมหว่า คือด้วยความที่เราไม่ค่อยได้เปลี่ยนแชมพูหรืออะไรพวกนี้อะ เราเลยสับสนศัพท์ที่บางผลิตภัณฑ์นั้นใช้มากๆ ว่ามันเรียกอะไรยังไงหรือป่าว บางผลิตภัณฑ์ใช้คำว่า ทรีทเมนต์บำรุงผม Conditioner ครีมนวดผม ฯลฯ
ก็ยังไม่มันใจพอถึงห้องจึงลองเปิดดูและสังเกตุชัดๆอีกครั้งนึง สรุปชัดเจนครีมนวดผมจ้า55555 ความพีคคือไอ้ขวดที่ใช้ก่อนหน้านี้อะก็แบบเดียวกันแต่คนละสี และสีครีมค่อนข้างต่างกัน ซึ่งเวลาเราสระผมอะ เราจะชอบก้มสระมากกว่ายืนสระ เลยไม่เคยสังเกตุเลยใน 1 อาทิตย์ที่ผ่านมามันเป็นยังไง
*****แต่พอรู้ก็มาคิดย้อนว่าเห้ยยยย ครีมนวดผมกับแชมพูมันต่างกันมากนะ ที่ผ่านมาก็คิดอยู่ว่ารอบแรกที่สระทำไมฟองมันไม่ออกเลยฟะ จึงบีบเพิ่มไปอีกแล้วก็สระต่อ พอบีบเพิ่มอารมณ์ตอนนั้นคือมันเยอะเลยมีฟองบ้างอะไรแบบนี้(ก้มสระไม่เคยสังเกตุ) ละในใจก็คิดว่า คงอารมณ์เดียวกับโฟมล้างหน้าแหละมั๊ง เขาคงปรับสูตรแบบไม่มีฟอง คล้ายๆโฟมล้างหน้า โลกสวยไปอีก 555555 แล้วก็สังเกตุตอนล้างอยู่นะคะว่าทำไมมันออกยากเลยแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะสระด้วยแชมพู 2 รอบแล้วก็จะใช้ครีมนวดผม(ยี่ห้อเดิมที่ยังไม่หมด)อีกรอบ มันเลยมองข้ามว่าทำไมล้างออกไม่หมดในตอนแรก
ถ้าสงสัยว่าทำไมไม่สังเกตุเลยหรอมันต่างกันมากเลยนะ
1. เป็นคนที่บอกไปแล้วตอนแรกใช้แต่ผลิตภัณฑ์เดิมๆ(ย้ำว่าไม่เคยเปลี่ยนเลยเพราะเป็นคนแพ้ง่ายมากจริงๆ) ยกตัวอย่างที่เป็นตอนนี้ แพ้ครีมกันแดดผิวกาย หากทาเวลาโดนแดดจะขึ้นตุ่มเล็กๆน้ำใสๆในบริเวณที่ทา แพ้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ใช้แล้วแพ้กับริมฝีปาก ปากพองปากเบลอ แพ้ลิปสติกง่าย ขนาดวาสลีนที่มีส่วนผสมเป็นปิโตรเลี่ยมเจลก็แพ้ค่ะ อาการเดียวกับแพ้ครีมกันแดด ส่วนผมแพ้แชมพูที่มีส่วนผสมของซิลิโคน ใช้แล้วหนังศรีสระแห้ง เป็นรังแคร์ เป็นต้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เดิมๆที่ใช้แล้วไม่แพ้และไม่มีการเปลี่ยนยี่ห้อเลยเป็นระยะเวลาหลายปีค่ะ
2. ระหว่าง1อาทิตย์ที่ใช้ก็มีฉุดคิดค่ะ แต่ไม่ได้เอะใจเพราะอย่างที่บอกเราใช้อะไรประจำๆเราจะไม่ค่อยรู้ว่าแบรนอื่นหรือผลิตภัณฑ์อื่นมันแตกต่างมากน้อยเพียงไหน และหากบอกว่าเกือบทุกแบรนที่ออกแบบแพคเก็ดให้แตกต่างกันระหว่างแชมพูกับครีมนวดนั้น ก็รู้และเคยสังเกตุค่ะ แต่ขวดแรกที่ใช้ไปคือใช้แบบให้มันผ่านๆไปอะงงไหมคะ ไม่ได้มาใส่ใจอะไรในตัวผลิตภัณฑ์มากนักเลยไม่นึกเอะใจ
3. ส่วนขวดที่ 2 พึ่งมาคิดได้เพราะหลายๆปัจจัยย้อนอดีตไป 1 อาทิตย์เลยถึงบางอ้อว่าตัวเองนั้นใช้ผิด
4. อย่าใช้คำว่าโง่เลยเนอะ ใช้คำว่าไม่รู้หรือไม่รอบคอบดีกว่าค่ะ 5555 ที่มาตั้งก็ขำตัวเองเฉยๆ อีกอย่างมันเขียนครีมบำรุงผม เราก็นึกใจในอยู่ว่าใช่ไหม แต่คือแบบมาคิดหลายๆอย่าง ร้านนั้นอะมีอีกตัวซึ่งเราไม่คิดใช้เลยเพราะเคยใช้และแพ้มากๆเลยไม่ซื้อ ซึ่งมันเขียนตรงตัวว่าเป็นแชมพู แต่เลือกอีกแบบที่จำนวนมันเยอะมากและมีแต่ครีมบำรุงผม คือมันน่าคิดไงว่าร้านค้าที่ไหนมันจะเอาแต่ครีมนวดผมมาขายอะ งงไหมคะ ทั้งๆที่ก็เอะใจแหละเพราะแพ็กเก็ตมันก็ต่างกันแล้ว แต่คิดเยอะในหลายๆเรื่องมากไปเลยเอามากลบความจริงที่เดิมคิดถูกแล้วก็เท่านั้นค่ะ
ส่วนขวดที่ 2 พอมั่นใจก็ลงไปเปลี่ยนค่ะ เอาแบบที่บอกว่าไม่คิดซื้อเพราะแพ้นั่นละค่ะ ก็กะว่าใช้ไปก่อนแค่วันนี้คงไม่สงผลกระทบมาก บอกตรงๆตอนไปเปลี่ยนก็รู้สึกอายตัวเองมากๆ 55555
เบื่อการแพ้นั่นแพ้นี้มากๆค่ะ กว่าจะมาเจอผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ก็ผ่านการลองผิดลองถูกและศึกษาส่วนประกอบที่ทำให้เกิดการแพ้ พอใช้เดิมๆไปนานๆก็ไม่รู้จริงๆว่านอกเหนือกว่าที่เคยใช้มันแตกต่างกันมากไหมในส่วนของเนื้อหาที่พิมพ์ไว้ในตัวผลิตภัณฑ์เป็นคำพูดที่แตกต่างกันมากน้อยเพียงใด หากจะเปลี่ยนก็เสี่ยงกับการแพ้อีก เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต หากแท็กผิดห้อง มีคำผิดหรือพิมพ์ไม่น่าอ่านยังไงขออภัยค่ะ ถือเป็นเรื่องขำขันไปละกันค่ะ=-=
เหตุเกิดจากการสระผมโดยใช้ครีมนวดผม(สระผม)มาเป็นอาทิตย์โดยที่ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ 5555
เข้าเรื่องเลยละกันค่ะเมื่ออาทิตย์ก่อนแชมพูที่ใช้ประจำหมด แล้วคิดว่ามีการซื้อตุนไว้อยู่แล้วจึงไม่ได้ซื้อเพิ่มค่ะ ปรากฏว่าหมดค่ะไม่เหลือเลย
ด้วยความที่เราออกกำลังกายทุกวันต้องสระผมทุกวัน วันนั้นก็พึ่งออกกำลังกายเสร็จจะสระผมแล้วแชมพูหมด จึงลงไปร้านค้าและซื้อมา (ไม่ใช่ยี่ห้อเดิมที่เคยใช้) ก็เลยหยิบๆมาไม่ทันได้ดูหรืออ่านอะไรค่ะ แถวที่เราอยู่มีร้านค้าของชำเล็กๆค่ะ ก็เลยไปซื้อมาใช้ๆแก้ขัดไปก่อนอะไรแบบนี้ค่ะ ก็หยิบๆมาใช้ไม่ได้คิดอะไรมาก สรุปผ่านมาเกือบ 1 อาทิตย์ขวดนั้นหมดค่ะ
*****แล้วก็ยังไม่ได้ไปซื้อของเดิมที่เคยใช้ ก็เลยไปซื้ออีก แต่รอบนี้มีเวลาได้อ่านค่ะ พอเริ่มใช้เข้าอาทิตย์ที่ 2 ก็เลยเลือกอ่านและเลือกใช้ให้ตรงกับสภาพผมเราสักหน่อย (ย้ำว่าอ่านผ่านๆจริงๆ) และรายละเอียดตรงนั้นด้านบนจะมีเขียนว่า "ครีมบำรุงผม" ตอนอ่านก็เอะใจกับคำพูดนี้อยู่บ้างและวิธีใช้ก็ไม่ได้บ่งชี้มากนักแต่ก็ยังไม่มันใจใจตัวเอง
ก็ตัดสินใจซื้อค่ะทั้งที่ยังลังเลนั่นละ เป็นยี่ห้อเดิมกับอาทิตย์ก่อน แต่รอบนี้เปลี่ยนสีเพราะมันบำรุงผมตามสภาพผมเรา ระหว่างที่ซื้อมาเสร็จก็ขึ้นลิฟท์และคิดไปด้วยว่ามันเป็นครีมนวดผมไหมหว่า คือด้วยความที่เราไม่ค่อยได้เปลี่ยนแชมพูหรืออะไรพวกนี้อะ เราเลยสับสนศัพท์ที่บางผลิตภัณฑ์นั้นใช้มากๆ ว่ามันเรียกอะไรยังไงหรือป่าว บางผลิตภัณฑ์ใช้คำว่า ทรีทเมนต์บำรุงผม Conditioner ครีมนวดผม ฯลฯ
ก็ยังไม่มันใจพอถึงห้องจึงลองเปิดดูและสังเกตุชัดๆอีกครั้งนึง สรุปชัดเจนครีมนวดผมจ้า55555 ความพีคคือไอ้ขวดที่ใช้ก่อนหน้านี้อะก็แบบเดียวกันแต่คนละสี และสีครีมค่อนข้างต่างกัน ซึ่งเวลาเราสระผมอะ เราจะชอบก้มสระมากกว่ายืนสระ เลยไม่เคยสังเกตุเลยใน 1 อาทิตย์ที่ผ่านมามันเป็นยังไง
*****แต่พอรู้ก็มาคิดย้อนว่าเห้ยยยย ครีมนวดผมกับแชมพูมันต่างกันมากนะ ที่ผ่านมาก็คิดอยู่ว่ารอบแรกที่สระทำไมฟองมันไม่ออกเลยฟะ จึงบีบเพิ่มไปอีกแล้วก็สระต่อ พอบีบเพิ่มอารมณ์ตอนนั้นคือมันเยอะเลยมีฟองบ้างอะไรแบบนี้(ก้มสระไม่เคยสังเกตุ) ละในใจก็คิดว่า คงอารมณ์เดียวกับโฟมล้างหน้าแหละมั๊ง เขาคงปรับสูตรแบบไม่มีฟอง คล้ายๆโฟมล้างหน้า โลกสวยไปอีก 555555 แล้วก็สังเกตุตอนล้างอยู่นะคะว่าทำไมมันออกยากเลยแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะสระด้วยแชมพู 2 รอบแล้วก็จะใช้ครีมนวดผม(ยี่ห้อเดิมที่ยังไม่หมด)อีกรอบ มันเลยมองข้ามว่าทำไมล้างออกไม่หมดในตอนแรก
ถ้าสงสัยว่าทำไมไม่สังเกตุเลยหรอมันต่างกันมากเลยนะ
1. เป็นคนที่บอกไปแล้วตอนแรกใช้แต่ผลิตภัณฑ์เดิมๆ(ย้ำว่าไม่เคยเปลี่ยนเลยเพราะเป็นคนแพ้ง่ายมากจริงๆ) ยกตัวอย่างที่เป็นตอนนี้ แพ้ครีมกันแดดผิวกาย หากทาเวลาโดนแดดจะขึ้นตุ่มเล็กๆน้ำใสๆในบริเวณที่ทา แพ้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ใช้แล้วแพ้กับริมฝีปาก ปากพองปากเบลอ แพ้ลิปสติกง่าย ขนาดวาสลีนที่มีส่วนผสมเป็นปิโตรเลี่ยมเจลก็แพ้ค่ะ อาการเดียวกับแพ้ครีมกันแดด ส่วนผมแพ้แชมพูที่มีส่วนผสมของซิลิโคน ใช้แล้วหนังศรีสระแห้ง เป็นรังแคร์ เป็นต้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เดิมๆที่ใช้แล้วไม่แพ้และไม่มีการเปลี่ยนยี่ห้อเลยเป็นระยะเวลาหลายปีค่ะ
2. ระหว่าง1อาทิตย์ที่ใช้ก็มีฉุดคิดค่ะ แต่ไม่ได้เอะใจเพราะอย่างที่บอกเราใช้อะไรประจำๆเราจะไม่ค่อยรู้ว่าแบรนอื่นหรือผลิตภัณฑ์อื่นมันแตกต่างมากน้อยเพียงไหน และหากบอกว่าเกือบทุกแบรนที่ออกแบบแพคเก็ดให้แตกต่างกันระหว่างแชมพูกับครีมนวดนั้น ก็รู้และเคยสังเกตุค่ะ แต่ขวดแรกที่ใช้ไปคือใช้แบบให้มันผ่านๆไปอะงงไหมคะ ไม่ได้มาใส่ใจอะไรในตัวผลิตภัณฑ์มากนักเลยไม่นึกเอะใจ
3. ส่วนขวดที่ 2 พึ่งมาคิดได้เพราะหลายๆปัจจัยย้อนอดีตไป 1 อาทิตย์เลยถึงบางอ้อว่าตัวเองนั้นใช้ผิด
4. อย่าใช้คำว่าโง่เลยเนอะ ใช้คำว่าไม่รู้หรือไม่รอบคอบดีกว่าค่ะ 5555 ที่มาตั้งก็ขำตัวเองเฉยๆ อีกอย่างมันเขียนครีมบำรุงผม เราก็นึกใจในอยู่ว่าใช่ไหม แต่คือแบบมาคิดหลายๆอย่าง ร้านนั้นอะมีอีกตัวซึ่งเราไม่คิดใช้เลยเพราะเคยใช้และแพ้มากๆเลยไม่ซื้อ ซึ่งมันเขียนตรงตัวว่าเป็นแชมพู แต่เลือกอีกแบบที่จำนวนมันเยอะมากและมีแต่ครีมบำรุงผม คือมันน่าคิดไงว่าร้านค้าที่ไหนมันจะเอาแต่ครีมนวดผมมาขายอะ งงไหมคะ ทั้งๆที่ก็เอะใจแหละเพราะแพ็กเก็ตมันก็ต่างกันแล้ว แต่คิดเยอะในหลายๆเรื่องมากไปเลยเอามากลบความจริงที่เดิมคิดถูกแล้วก็เท่านั้นค่ะ
ส่วนขวดที่ 2 พอมั่นใจก็ลงไปเปลี่ยนค่ะ เอาแบบที่บอกว่าไม่คิดซื้อเพราะแพ้นั่นละค่ะ ก็กะว่าใช้ไปก่อนแค่วันนี้คงไม่สงผลกระทบมาก บอกตรงๆตอนไปเปลี่ยนก็รู้สึกอายตัวเองมากๆ 55555
เบื่อการแพ้นั่นแพ้นี้มากๆค่ะ กว่าจะมาเจอผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ก็ผ่านการลองผิดลองถูกและศึกษาส่วนประกอบที่ทำให้เกิดการแพ้ พอใช้เดิมๆไปนานๆก็ไม่รู้จริงๆว่านอกเหนือกว่าที่เคยใช้มันแตกต่างกันมากไหมในส่วนของเนื้อหาที่พิมพ์ไว้ในตัวผลิตภัณฑ์เป็นคำพูดที่แตกต่างกันมากน้อยเพียงใด หากจะเปลี่ยนก็เสี่ยงกับการแพ้อีก เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต หากแท็กผิดห้อง มีคำผิดหรือพิมพ์ไม่น่าอ่านยังไงขออภัยค่ะ ถือเป็นเรื่องขำขันไปละกันค่ะ=-=