ยากไหม นานไหม โอนรถ โอ้ย สงสัยต้องลางานทั้งวัน เออแล้วรถเยอะแยะขนาดนั้นไปจอดกันตรงไหน
นี่คือความคิดเบื้องต้นของผม หวั่นใจตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วครับ
เพราะวันนี้ถึงเวลาต้องไปโอนรับรถที่พี่ชาย โอนลอยมาให้จนจะครบปี ด้วยความหวาดหวั่นในเรื่องที่กล่าวไว้ข้างต้นก็ผลัดผ่อนเรื่อยมา
จนเป็นเรื่อง เพราะไปต่อภาษีก็ไม่ได้ เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องโอนย้ายมาเข้า กทม ก่อนถึงจะต่อภาษีได้นะจ๊ะ ลืมบอกไปครับ รถของผมคันนี้บ้านเกิดอีสานครับ
แล้วจึงเป็นที่มาว่า ถ้าจะโอนรับรถจากเจ้าของเก่า มาเป็นของเราต้องทำยังไง
บ้านผมอยู่เขตลาดพร้าวจึงต้องไปติดต่อ กรมการขนส่ง ทางบก แถวตลาดนัดจตุจัดร ครับ อันนี้คือข้อพึงระวังนะครับ ว่าท่านอยู่ กทม เขตไหนต้องไปทำเรื่องที่สำนักงานสาขาไหน
ก่อนไปก็ต้องเตรียทเอกสารให้พร้อมครับ
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้โอน รับรองสำเนาถูกต้อง
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับโอน รับรองสำเนาถูกต้อง
3. สมุดทะเบียนรถ
4. หนังสือการโอน โหลดได้จาก เว็บขนส่งครับ เจ้าของเก่าหรือผู้โอนลงนามมาให้ครบ
5. หนังสือมอบอำนาจให้ผู้รับโอนไปทำการโอนแทน
เจ้าของเก่าลงนามมาด้วยนะ
6. หนังสือเพื่อยืนคำขอโอนรถ อันนี้ผู้รับโอนลงนามครับ
สำคัญมากถ้าไม่อยากเสียเวลา บัตรประชาชน ต้องยังไม่หมดอายุครับ
ไปเอกสารครบ เราไปโอนรถกัน เจ้าของไม่ได้มาไม่เป็นไร เอาเอกสารมาให้ครบรับรองจบ
เคล็ดลับเวลาไปติดต่อราชการของผมคือ ไปแต่เข้าครับ ผมออกจากบ้าน 6:30 ถึง ขนส่งหมอชิต 7:15 รถติดมากเป็นปกติ แห่ะๆ
ไปแล้วขับรถไปตรวจตัวถังและเลขเครื่องก่อนเลย ขับตามป้ายที่บอกว่าตรวจสภาพรถ ครับ อยู่ด้านหลังอาคาร4
ไปถึงก็ต่อแถว เจ้าหน้าที่ มาบอกดับเครื่อง เปิดกระโปรง ไม่ต้องอายครับ เปิดฝากระโปรงทันใด พร้อมแจ้งความประสงค์ ว่าโอนรับรถ และถ้ารถท่านเกิน 7 ปีบอกพี่ช่างเค้าไปเลยว่าตรวจสภาพเพื่อต่อภาษี ด้วยนะครับจะได้ไม่เสียเวลา
จากนั้นเอารถไปหาที่จอดแล้วไปนั่งรอรับเอกสารที่ ห้อง 8 ใต้ตึก 4 นั่นแหละครับ เพื่อเรียกรับเอกสาร จากนั้น ก็เดินไป อาคาร 2 ของผมรถยนต์นั่งก็เดินขึ้นชั้น 2 ครับ
ไปต่อแถวที่ช่องประชาสัมพันธ์ ชั้นสอง วันที่ผมไป ตอนนั้นประมาณ 8:30 คนก็จะเยอะแล้วแต่ กผ้ต่อแถวไม่นานครับประมาณ 15 นาที
เมื่อเจอพี่ประชาสัมพันธ์ ยื่นเอกสารพร้อมแจ้งความจำนงค์ ว่าโอนย้ายเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถ พร้อมเสียภาษี พี่เค้าก็จะบอกว่า ทำ พรบ มารึยังถ้ายังไม่ต้องตกใจเดินลงมาชั้น 1 เลี้ยวซ้ายมีบริษัทประกันมาให้เลือกบริการครับ
เลือกเอาครับ จากนั้นขึ้นมารอชั้น 2 เรียกคิวปั๊บยื่นเอกสารจ่ายเงินภาษี ค่าโอน ค่าปรับเพราะมาโอนช้า เลือกเลขทะเบียน ถ้าไม่ได้จองเลขมาก็พี่เค้าจะเลือกให้ตามที่มี ครับ ผมไม่เรื่องมากครับ เลขอะไรก็ได้
รอไม่นาน พี่บอกไปรับแผ่นป้ายทะเบียนด้านล่าง ได้เลย ถอดป้ายเก่า จังหวัดเดิม มาแลก ป้าย กทม ได้ที่ชั้น 1 จุดพีคของผมคือ ในรถดันไม่มีไขควงถอดน็อตที่ป้ายทะเบียนเก่า อันนี้เตือนเพื่อนๆ ว่าเตรียมไว้ด้วยนะครับ ส่วนของผมก็อาศัยสบตาพี่แท็กซี่ แถวนั้น เพื่อยืมมาครับ พอถอดได้ ก็เดินไปชั้น 1 ตึก 2 นั่นแหละครับเอาแผ่นเก่าไปแลก แป่นใหม่ กลายเป็นหนุ่มกรุงเทพ อย่างถูกต้องตามกฏหมาย
สรุปตั้งแต่มาถึง 7:15 จนได้แผ่นป้าย 9:00 ต้องบอกว่าประทับใจครับ รวดเร็วใช้ได้เลย
อ้าวบุญหล่นทับ ต้องไปโอนรับรถทำยังไง ม่ะไปดูกัน
ยากไหม นานไหม โอนรถ โอ้ย สงสัยต้องลางานทั้งวัน เออแล้วรถเยอะแยะขนาดนั้นไปจอดกันตรงไหน
นี่คือความคิดเบื้องต้นของผม หวั่นใจตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วครับ
เพราะวันนี้ถึงเวลาต้องไปโอนรับรถที่พี่ชาย โอนลอยมาให้จนจะครบปี ด้วยความหวาดหวั่นในเรื่องที่กล่าวไว้ข้างต้นก็ผลัดผ่อนเรื่อยมา
จนเป็นเรื่อง เพราะไปต่อภาษีก็ไม่ได้ เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องโอนย้ายมาเข้า กทม ก่อนถึงจะต่อภาษีได้นะจ๊ะ ลืมบอกไปครับ รถของผมคันนี้บ้านเกิดอีสานครับ
แล้วจึงเป็นที่มาว่า ถ้าจะโอนรับรถจากเจ้าของเก่า มาเป็นของเราต้องทำยังไง
บ้านผมอยู่เขตลาดพร้าวจึงต้องไปติดต่อ กรมการขนส่ง ทางบก แถวตลาดนัดจตุจัดร ครับ อันนี้คือข้อพึงระวังนะครับ ว่าท่านอยู่ กทม เขตไหนต้องไปทำเรื่องที่สำนักงานสาขาไหน
ก่อนไปก็ต้องเตรียทเอกสารให้พร้อมครับ
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้โอน รับรองสำเนาถูกต้อง
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับโอน รับรองสำเนาถูกต้อง
3. สมุดทะเบียนรถ
4. หนังสือการโอน โหลดได้จาก เว็บขนส่งครับ เจ้าของเก่าหรือผู้โอนลงนามมาให้ครบ
5. หนังสือมอบอำนาจให้ผู้รับโอนไปทำการโอนแทน
เจ้าของเก่าลงนามมาด้วยนะ
6. หนังสือเพื่อยืนคำขอโอนรถ อันนี้ผู้รับโอนลงนามครับ
สำคัญมากถ้าไม่อยากเสียเวลา บัตรประชาชน ต้องยังไม่หมดอายุครับ
ไปเอกสารครบ เราไปโอนรถกัน เจ้าของไม่ได้มาไม่เป็นไร เอาเอกสารมาให้ครบรับรองจบ
เคล็ดลับเวลาไปติดต่อราชการของผมคือ ไปแต่เข้าครับ ผมออกจากบ้าน 6:30 ถึง ขนส่งหมอชิต 7:15 รถติดมากเป็นปกติ แห่ะๆ
ไปแล้วขับรถไปตรวจตัวถังและเลขเครื่องก่อนเลย ขับตามป้ายที่บอกว่าตรวจสภาพรถ ครับ อยู่ด้านหลังอาคาร4
ไปถึงก็ต่อแถว เจ้าหน้าที่ มาบอกดับเครื่อง เปิดกระโปรง ไม่ต้องอายครับ เปิดฝากระโปรงทันใด พร้อมแจ้งความประสงค์ ว่าโอนรับรถ และถ้ารถท่านเกิน 7 ปีบอกพี่ช่างเค้าไปเลยว่าตรวจสภาพเพื่อต่อภาษี ด้วยนะครับจะได้ไม่เสียเวลา
จากนั้นเอารถไปหาที่จอดแล้วไปนั่งรอรับเอกสารที่ ห้อง 8 ใต้ตึก 4 นั่นแหละครับ เพื่อเรียกรับเอกสาร จากนั้น ก็เดินไป อาคาร 2 ของผมรถยนต์นั่งก็เดินขึ้นชั้น 2 ครับ
ไปต่อแถวที่ช่องประชาสัมพันธ์ ชั้นสอง วันที่ผมไป ตอนนั้นประมาณ 8:30 คนก็จะเยอะแล้วแต่ กผ้ต่อแถวไม่นานครับประมาณ 15 นาที
เมื่อเจอพี่ประชาสัมพันธ์ ยื่นเอกสารพร้อมแจ้งความจำนงค์ ว่าโอนย้ายเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถ พร้อมเสียภาษี พี่เค้าก็จะบอกว่า ทำ พรบ มารึยังถ้ายังไม่ต้องตกใจเดินลงมาชั้น 1 เลี้ยวซ้ายมีบริษัทประกันมาให้เลือกบริการครับ
เลือกเอาครับ จากนั้นขึ้นมารอชั้น 2 เรียกคิวปั๊บยื่นเอกสารจ่ายเงินภาษี ค่าโอน ค่าปรับเพราะมาโอนช้า เลือกเลขทะเบียน ถ้าไม่ได้จองเลขมาก็พี่เค้าจะเลือกให้ตามที่มี ครับ ผมไม่เรื่องมากครับ เลขอะไรก็ได้
รอไม่นาน พี่บอกไปรับแผ่นป้ายทะเบียนด้านล่าง ได้เลย ถอดป้ายเก่า จังหวัดเดิม มาแลก ป้าย กทม ได้ที่ชั้น 1 จุดพีคของผมคือ ในรถดันไม่มีไขควงถอดน็อตที่ป้ายทะเบียนเก่า อันนี้เตือนเพื่อนๆ ว่าเตรียมไว้ด้วยนะครับ ส่วนของผมก็อาศัยสบตาพี่แท็กซี่ แถวนั้น เพื่อยืมมาครับ พอถอดได้ ก็เดินไปชั้น 1 ตึก 2 นั่นแหละครับเอาแผ่นเก่าไปแลก แป่นใหม่ กลายเป็นหนุ่มกรุงเทพ อย่างถูกต้องตามกฏหมาย
สรุปตั้งแต่มาถึง 7:15 จนได้แผ่นป้าย 9:00 ต้องบอกว่าประทับใจครับ รวดเร็วใช้ได้เลย