คือกลางปีที่แล้ว  ผมเป็นนายจ้างไปทำเรื่องขอใบอนุญาตทำงานให้แม่บ้านพม่า (ไทใหญ่)  ซึ่งมีพาสปอร์ตเล่มม่วง  อายุวีซ่าอยู่ได้ถึง เม.ย. 61 ปีนี้

แต่พอจะไปเอาใบอนุญาตทำงาน  ก็ถูกเลื่อนมาเรื่อยว่ายังไม่เสร็จ  จนแม่บ้านลากลับบ้านไปช่วงเมษา  กลับมาอีกที พอไปขอรับใบอนุญาตทำงาน

เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าหมดอายุแล้ว ต้องมาขอใบอนุญาตใหม่

แต่ผมไม่ทราบว่าต้องไปทำเรื่องต่ออายุภายใน 30 วัน  แต่ได้ยินจากข่าวว่า เค้าจะผ่อนผันให้พวกแรงงานต่างด้าวจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. นี้

ผมก็เลยเข้าใจว่า ของผมสามารถไปทำเรื่องต่ออายุใหม่ได้จนถึง 30 มิ.ย นี้ไปด้วย (คือเข้าใจผิดไป)

ทีนี้ พออาทิตย์ที่แล้วมีเวลาว่าง จึงพาลูกจ้างไปตรวจสุขภาพเพื่อขอใบรับรองแพทย์ก่อน แล้วจึงพาไปทำเรื่องต่ออายุ  แต่ จนท.บอกว่า ไม่สามารถต่ออายุได้แล้ว เพราะเกิน 30 วัน จะต้องทำเรื่องนำเข้า MOU ใหม่เลย แล้วเค้าก็ให้ใบรายชื่อบริษัทนายหน้ามา ให้มาเลือกเอาเอง

ผมก็โทรติดต่อไปรายนึง   เค้าก็แจ้งค่าใช้จ่ายว่า ทั้งหมด 16,000 บาท รวมพาลูกจ้างไปทำเรื่องที่ด่าน แล้วก็ข้ามไปพม่า (เมียววดี) เพื่อทำเรื่องพาสปอร์ตอะไรนี่แหละ จำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 3 วัน  (แต่แม่บ้านผมไม่มีทะเบียนบ้านตัวจริง  ก็ต้องกลับไปบ้านที่ไทใหญ่เพื่อไปเอาทะเบียนบ้านมาใช้ทำเรื่องอีก  เสร็จแล้ว ก็ต้องเอากลับไปคืนที่บ้าน เพราะที่บ้านต้องใช้เล่มนี้ตลอด)


แต่ปัญหาใหญ่สุดอยู่ตรงที่ว่า   ทาง พนง.ของบริษัทเอเจ้นท์แจ้งผม (หลังจากที่เค้าโทรคุยกับเจ้านาย) ว่า  "ตอนแม่บ้านข้ามแตนกลับไปพม่าแล้ว ช่วงนี้จะไม่สามารถเดินทางกลับมาเมืองไทยได้อีกเป็นเวลา 3 เดือน  เพราะทางการกำลังคุมเข้ม"  

คือผมอยากจะรู้ว่า จริงหรือเปล่าครับ

เพราะถ้าจริง  ผมก็จะลำบาก เพราะจะไม่มีแม่บ้านทำงานให้ผมถึง 3 เดือน  ซึ่งที่บ้านผมจะต้องมีคนคอยดูแลแม่ผมซึ่งสูงอายุแล้ว และอยู่บ้านคนเดียว  ผมอาจจะต้องหาคนมาแทนในช่วงนี้  หรือผมควรจะรอให้ถึงเมษาปีหน้า แล้วให้เค้าลากลับบ้านยาวเลย 3 เดือน แล้วค่อยทำ MOU นำเข้าให้เค้าช่วงนั้นครับ  (ตอนนี้ก็ต้องอยู่อย่างผิดกฎหมายไปก่อน  แต่หวังว่าทางการคงจะไม่คุมเข้มคนงานต่างด้าวที่ทำงานตามบ้านพักอาศัยในหมุ่บ้าน  แต่ไปคุมเข้มพวกโรงงานหรือร้านอาหาร หรือพวกไซค์งานก่อสร้างแทน)