ความรักสาวไทย-หนุ่มอาหรับ

สวัสดีค่ะ ชาวพันทิปทุกคน... วันนี้อยากมาเล่าเรื่องราว ประสบการณ์ความรักต่างชาติ ต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม ของตัวเองให้ได้อ่านกันค่ะ
เริ่มเลยนะค่ะ ✏ ตัวเราเองเปนคนไทย เชื้อชาติไทย นับถือศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน... แต่ใจเจ้ากรรม ดันไปรักคนต่างชาติ
ต่างภาษา ต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม... และต่างในที่นี้ไม่ได้ต่างธรรมดาด้วยน่ะค่ะ เพราะถ้าแฟน(เก่า)เราเป็นฝรั่งแถวฝั่งทวีปยุโรปจะไม่มีปํญหา
แต่แฟน(เก่า)เราดันเป็นหนุ่มอาหรับในแถบตะวันออกกลางอย่างถ่องแท้ และเขาอยู่ประเทศที่ได้ชื่อว่าประเทศต้นกำเนิดศาสนาอิสลาม นั่นคือ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ค่ะ ( ในกระทู้นี่จะไม่มีการดูถูก หรือพูดถึงศาสนาอิสลามในทางเสียหายนะค่ะ😊)
- แรมเริ่ม เราและเขารู้จักกันที่ประเทศศรีลังกาค่ะ  ตอนนั้นไปทำงาน และในการทำงาน ทำให้เราและเขาพบกันค่ะ เราได้ใกล้ชิดกัน และเริ่มติดต่อกันผ่านทาง chat โดยเราดันไปขอเบอร์เขาก่อน 555+ เพราะชอบมานานแล้ว ผู้ชายอาหรับหล่อจริงๆค่ะ แต่ก็บางคนเนอะเหมือนกับหนุ่มไทยบ้านเรานี่แหละ...
พอเราคุยกันได้ไม่นาน วีซ่าของเขาสิ้นสุดลง และเขาต้องเดินทางกลับประเทศของเขา เฮ้ออ...พอนึกถึงช่วงเวลานั้นก็ยังเศร้าอยู่เลย😢 ก่อนเขาจะเดินทางไป airport. เขามาหาเราครั้งสุดท้าย เราถึงกับวิ่งไปกอดเขาและมีน้ำตาคลอ เขาจูบที่ปากเราเบาๆ และเขาบอกว่าเขาจะกลับมา...
ตัวเราก็ต้องอยู่ที่ศรีลังกาต่อไป... แต่เวลาที่เราห่างกัน เราคุยกันทุกวัน คุยกันเสมอ และเขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายมากค่ะ เขาบอกทุกครั้งว่าให้เราอดทน และอีกไม่นานเราจะพบกัน นับวันรอ....จนกระทั้งวีซ่าการทำงาน 1 ปีของเราสิ้นสุดลง และเดินทางกลับไทย
- 1 ปีผ่านไปเราและเขาก็ยังคงคุยกันทุกวันเหมือนเดิมค่ะ จนเราวางแผนกันว่าจะไปเจอกันในประเทศที่ 3 คือ อินโดนีเซีย (ประเทศแรกที่เราพบกัน) ปล.ทั้งเราและเขาไม่สามารถเดินทางไปประเทศของกันและกันได้ เนื่องจากปัญหาระหว่างประเทศ) ดังนั้นเวลาที่เราจะพบกันได้คือเดินทางไปประเทศที่ 3 เท่านั้น
- ผ่านอินโดนีเซียไป 1 ประเทศ และกว่าจะได้เจอกันอีกก็ต้องมีระยะห่าง 3-4 เดือน (สำหรับกฎทางประเทศเขา) หลังจากนั้น ประเทศที่ 2 , 3 ก็ตามมาเรื่อยๆ
จนเวลาผ่านไป 2 ปีกว่าเกือบจะ 3 ปีแล้ว // ตอนแรกเราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับประเทศซาอุดีอาระเบีย คิดว่ายังไงก็ได้ ง่ายๆเหมือนไทย หรือยุโรป
แต่พอเราศึกษาเท่านั้นแหละค่ะ oh my god 😱😱😱  ต่างกันอย่างสิ้นเชิง และทุกสิ่งอย่าง...
- ก่อนหน้าจะมาเขียนกระทู้นี้เราและเขาพูดคุยกันเรื่องแต่งงาน เพราะ พ่อแม่ของเราโอเคกับเรา แต่!!! ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะยอมรับเรา เพราะตอนแรกแฟนเราเคยบอกว่าเราไม่สามารถแต่งงานกันได้. เนื่องจากพ่อแม่ของเขาจะไม่ยอมให้เขาแต่งงานครั้งแรกกับผู้หญิงต่างชาติเด็ดขาด! (ครั้งแรก) คิดในใจถ้าแต่งกันจริงๆเราจะเป็นคนที่ 2,3หรือ4วะเนียะ)
** แรกๆเราก็ถอดใจแล้วค่ะ แต่เขาไม่ยอมแพ้ค่ะ พยายามติดต่อกับเรา และตอน video call มักจะแสดงให้ทางครอบครัวเขาเห็นตลอด (ถ้าเป็นบางคนหรือส่วนมากคุยแบบนี่คือต้องแอบคุยอย่างเเดียว) แต่เขาไม่เคยแอบและไม่บิดบัง ไม่ว่าจะทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร จะบอกเราตลอด จนกระทั่งเราเดินทางไปพบกันได้พอสมควร และเขาหัวดื้อมาก
พ่อแม่เขายอมเปิดไฟเขียวให้เราเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ถึงขั้นแต่งงาน. และเขาบอกว่าเราต้องเปลี่ยนศาสนามาเป็นอิสลาม เพราะพ่อแม่เขาจะไม่ยอมรับศาสนาอื่น ถ้าอยากแต่งก็แต่งกันได้ แต่ต้องเปลี่ยนศาสนา เปลี่ยนชีวิต ความเป็นอยู่ทุกอย่างที่เราทำในประเทศไทศไทย เขาถึงจะยอมรับได้.😱😱
ตอนนั้นฝันหวาน คิดในใจจะได้เป็นสะใภ้ซาอุแล้วโว้ยกู 555555.  รักค่ะ ตอนนั้นยอมรับว่ารักเขามาก จะให้เปลี่ยนอะไรก็ยอม.. หลังจากนั้นก็พยายามศึกษา ทำความเข้าใจในศาสนา และวัฒนธรรมของประเทศเขาแบบจริงจังเว่อร์วัง ทั้งเราภาษาอาหรับ ฯลฯ
แต่ แต่ แต่ การแต่งงานระหว่างคนไทยและซาอุเป็นอะไรที่ยากมากๆๆๆ และโครตๆๆๆๆ บางทีเป็นไปไม่เลย เขาพยายามยื่นเรื่องขออนุมัติกับรัฐบาลหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จค่ะ แฟนเดินงานคนเดียว พ่อแม่เขาไม่ช่วย เพราะ ที่เขาเปิดไฟเขียวยอมรับเรา พ่อแม่เขารู้อยู่แล้วว่ายังไงแฟนเราก็เดินเรื่องไม่ผ่าน สุดท้ายก็ต้องกลับมาตายรังคือแต่งงานผู้หญิงในชาติซาอุกับคนที่แม่เขาหาให้ (คิดว่ามีแต่ในนิยาย แต่ นั่นคือเรื่องจริงที่เจอค่ะ)
- จนกระทั้งก่อนเข้าเดือนรอมฎอนปี 61 ที่ผ่านมา เราได้คุยเขา อย่างจริงจัง
เราบอกเขาว่า " เราควรหยุดความสัมพันธ์นี้มั้ย " (ที่ถามตอนนั้นเพราะทำใจไว้แล้วค่ะ เพราะเดือนนี่จะเป็นเดือนที่ได้คุยกันน้อยมาก)😢
เขาตอบกลับมาว่า " ทำไมถามแบบนี้ ? "
เราตอบไป (จะเรียบเรียงตามความรู้สึกนะค่ะ ไม่ดราม่าถึงการแปลเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษเนอะ) " เพราะยังไงความรักของเรามันเป็นไปไม่ได้ เราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ถึงแม้ว่าเราจะรักกันมากนั่นมันก็จริง ผ่านอะไรมาด้วยกันก็เยอะ มีความทรงจำดีมากมาย แต่...เธอคิดดีๆว่าในโลกนี้ไม่ได้มีแค่เราสองคน เรามีครอบครัว มีเพื่อน มีสังคม และเราต่างกันทุกอย่าง ฉันคิดว่าเราควรกลับไปอยู่ในที่ของตัวเองดีมั้ย เผื่ออะไรมันจะดีขึ้นทั้งคุณและฉัน" ( ตอนนั้นเริ่มพิมไปทั้งมีน้ำตาคลอแล้วค่ะ)
เขาตอบมาว่า " ถ้าคุณคิดดีแล้ว ผมยอมรับและเคารพการตัดสินใจของคุณ แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่า ผมรักคุณมาก รักคุณจริงๆ ผมไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับใคร ทุกอย่างที่ผมทำผมทำมันด้วยหัวใจ และผมเชื่อว่าคุณรักผมเช่นกัน ผมมีบางอย่างอยากขอคุณได้มั้ย please don't forget me. คุณอย่าลืมผมได้มั้ย  I will never forget you, God promises "
เราเงียบไปสักพักใหญ่หลังจากได้อ่านข้อความที่เขาส่งมา...และคิดในใจว่าข้อความที่จะส่งนี้จะเป็นข้อความสุดท้ายที่ส่งให้เขา
" ฮัสซาน ฉันไม่รู้ว่าชีวิตที่ไม่คุณต่อจากนี่จะเป็นอย่างไร ฉันจะใช้ชีวิตให้มีความสุขในทุกวันเหมือนที่คุณเคยบอกฉันเสมอ...(เวลาห่างกันเขาจะบอกให้เราใช้วิตให้มีความสุขเสมอเพื่อรอวันที่ได้พบกับเขา) ความจริงเราควรมีชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ... แต่ทุกสิ่งถูกสิ่งถูกกำหนดให้เป็นแบบนี้ เราต้องยอมรับให้ได้ และคุณต้องใช้ชีวิตให้มีความสุขเช่นกัน... ฉันจะอธิฐานขอให้พระเจ้าคุ้มครอง ขอให้คุณปลอดภัย และมีชีวิตที่สวยงาม...คุณคือวามสุขที่พระเจ้ามอบให้ฉัน ถึงแม้จะเป็นเวลาไม่นาน..ตอนนี้พระเจ้ากำลังจะเอาความสุขของฉันกลับคืนไป😢😢 แม้ว่าวันข้างหน้าจะไม่มี "เรา" คู่อีกต่อไป แต่ฉันจะพบอยู่ในหัวใจ และในความทรงจำของฉันเสมอ ฉันรักคุณ และจะไม่หยุดรัก...เกิดชาติหน้าฉันขอให้คุณกลับมาเป็นความสุขของฉันอีกครั้ง ฉันจะกอดคุณไว้ ไมให้ใครพรากคุณไปจากฉันเหมือนชาตินี้..."
และนี่คือข้อความสุดท้ายค่ะ หลังจากนั้นเราก็บล็อคเขาไปเลย ไม่อยากยืดเยื้อ เหมือนเวลาตัวบัวก็อย่าให้เหลือใย เวลาตัดใจก็อย่าให้เหลือรักเช่นกันค่ะ

- มาถึงวันนี้ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว หมดเดือนรอมฎอน เรายังทำใจไม่ได้เลยจริงๆ คิดถึงเขามากๆแต่ทำไงได้ล่ะ จะยอมอยู่กับรักที่เป็นไปไม่ได้ ไปได้ตลอดชีวิตหรอ เฮ้ออ.... ชีวิตยิ่งกว่าจริง ยิ่งกว่านิยายจริงๆค่ะ แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ถ้ามันใช่ สักวันพระเจ้าคงเหวี่ยงเขากลับมาหาเราอีกครั้งก็เป็นได้... The end
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่