สวัสดีครับ ผมกำลังจะขอผู้หญิงคนนึงแต่งงานครับ แต่เธอยังไม่รู้หรอก และผมเองก็ยังไม่ได้คิดวิธีการเอาไว้ เพราะตอนนี้ไอเท็มที่ยังหาไม่ได้ก็คือแหวนที่จะเอาใปแต่งงานนี่ล่ะครับ
พูดถึงแหวนแต่งงาน สารภาพตรงๆ เลยละกันว่าไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย จะเลือกมั่วๆ ไปให้จบก็ดูจะ loser ไปหน่อย เพราะมันคือแหวนที่จะอยู่กับคนที่เรารักไปอีกนาน มันควรจะต้องพิเศษซักหน่อยสิ ผมก็เลยแอบไปศึกษาเรื่องของการเลือกแหวนแต่งงานมาครับ ชนิดที่ว่ามากที่สุดเท่าที่ขีดจำกัดของผู้ชายอย่างผมจะรับไหว (แต่อาจจะเล็กน้อยไปสำหรับบางคนก็เป็นได้)
วันนี้ก็เลยจะขอมาแชร์ประสบการณ์การเลือกแหวนแต่งงานไปยังว่าที่พ่อบ้านใจกล้าท่านอื่นๆ ครับ ว่าต้องดูยังไง ต้องเริ่มตรงไหน ไปครับ เริ่มกันเลยดีกว่า
ขั้นที่ 1 : ตั้งงบประมาณไว้ในใจ
สเต็ปแรกคือวาง Budget คร่าวๆ ในใจครับ ว่าเรามีงบเท่าไหร่ สำหรับเรทราคาของแหวนเพชรนี่เค้าก็มีเริ่มตั้งแต่ หลักหมื่น / หลักแสน / หลักล้านครับ แต่ละร้านก็จะแตกต่างกันออกไป อย่างร้านที่ผมเลือกแวะดูวันนี้ เริ่มที่ 13,000 ก็มีครับ
วิธีการตั้งงบเอาไว้แบบนี้ จะช่วยให้เราประหยัดเวลาในเลือกไปเยอะมาก เพราะบางทีที่เราเห็นว่าวงนี้ดีไซน์สวย แต่ถ้าได้เห็นราคา อาจะจะเหงื่อเปียกไปถึงขาเลยก็ได้ ยิ่งสโคปราคาเอาไว้แบบนี้ ก็ยิ่งง่ายในการเลือกทั้งกับเราและกับพนักงานด้วยครับ
ขั้นที่ 2 : เลือกกะรัต
กะรัตคืออะไร? กะรัตคือน้ำหนักของเพชร หรือขนาดของเพชรครับ พอเราได้งบคร่าวๆ ในใจ ก็สามารถเอาไปเทียบเคียงได้เลยว่า ราคาเท่านี้ ซื้อได้กี่กะรัต แล้วจำนวนกะรัตเท่านี้ ขนาดของเพชรจะประมาณไหน เล็กไปหรือใหญ่ไป ยิ่งเพชรกะรัตเยอะ เม็ดก็จะใหญ่ และราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ครับ
ขั้นที่ 3 : เลือกรูปทรง ดีไซน์ของเพชร
จริงๆ แล้วรูปทรงของเพชรมีหลายรูปทรงมากๆ มีทั้งแบบทรงกลม สีเหลี่ยม ผืนผ้า จตุรัส วงรี วงไข่ หัวใจ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ส่วนใหญ่เค้าจะแนะนำเป็นทรงกลมครับ เพราะมันหมายถึงความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด (อันนี้ความรู้ใหม่เลย)
ขั้นที่ 4 : เลือกสีของเพชร
อีกหนึ่งความรู้ใหม่ จริงๆ แล้วเพชรเนี่ยจะมีสีที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับน้ำเพชร ถ้าน้ำสวยๆ จะเรียกว่าเพชรน้ำ 100 หรือ D color อันนี้คือไม่มีสีเลย แวววาวชัดเจน แต่ถ้าลดลงกว่า 100 ก็จะมีสีเหลืองหรือส้ม หรือน้ำตาลปนอยู่ ความแวววาวก็จะลดลงมาอีกหน่อย
ถ้าอยากรู้ว่าวงไหนเป็นเพชรน้ำดี? ต้องไปดูกันที่ Certificate ครับ บรราดาร้านเพชรเขาก็จะเตรียมไว้ให้เราอยู่แล้ว อยู่ที่เราเลือกร้านเพชรที่ได้มาตรฐานและไว้ใจได้ครับ ส่วนเรื่องตำหนิของเพชร ถ้ามีน้อยมากๆ หรือไม่มีเลย เพชรก็จะยิ่งสวย และราคาแพงครับ
ขั้นที่ 5 : เลือกวัสดุและแบบของแหวน
โค้งสุดท้าย ก็คือการเลือกตัววงแหวน โดยทั่วไปวัสดุจะมี 3 แบบ คือ ทองขาว, ทอง และ Pink Gold ครับ
พนักงานบอกว่า สีทองเหมาะกับคนผิวสองสีใส่แล้วจะช่วยขับผิว ส่วน Pink Gold เหมือบกับผิวขาวเหลือง แต่ถ้าเข้ากับทุกสีผิวก็ต้องเป็นสีทองขาว เพราะจะช่วยขับประกายของเพชรให้แวววาวขึ้นไปอีก
ดูกฏเกณฑ์ องค์ประกอบกันไปครบแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลาเลือกแหวนจริงๆ สักที มีสวยๆ ให้เลือกหลายวงเลยครับ
วงนี้น่ารักดี
ส่วนมากที่คนนิยมกันก็น่าจะประมาณนี้ครับ
อันนี้เป็นแบบใส่คู่กันได้ครับ
เพิ่งรู้ว่าการเลือกแหวนเพชรสักวง มันยากพอๆ กับการเลือกแฟนมาใช้ชีวิตด้วยกันสักคนเลยครับ เฮ้อ จะเลือกวงไหนดีล่ะเนี่ย…
และในทุกสุดก็เลือกวงที่ถูกใจได้สักที
แถ่ม ถะ ดะ แด๊ม แดม แด่ม แด่ม แดม แด๊มม
เสร็จสิ้นภารกิจนี้ตามล่าหาแหวนแต่งงานไปแล้ว ขั้นสุดท้ายก็คือการเซอร์ไพรส์ขอ แต่งงาน… เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับทุกท่าน เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาแล้วตอนนี้ แล้วก็ขอบคุณมากๆ ที่ติดตามกระทู้นี้ครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆ ท่านครับ
[CR]กระทู้รวมพลคนรักเมีย… รีวิวการเลือกแหวนแต่งงานไปเซอร์ไพรส์ภรรยา ฉบับสามีแห่งชาติ
พูดถึงแหวนแต่งงาน สารภาพตรงๆ เลยละกันว่าไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย จะเลือกมั่วๆ ไปให้จบก็ดูจะ loser ไปหน่อย เพราะมันคือแหวนที่จะอยู่กับคนที่เรารักไปอีกนาน มันควรจะต้องพิเศษซักหน่อยสิ ผมก็เลยแอบไปศึกษาเรื่องของการเลือกแหวนแต่งงานมาครับ ชนิดที่ว่ามากที่สุดเท่าที่ขีดจำกัดของผู้ชายอย่างผมจะรับไหว (แต่อาจจะเล็กน้อยไปสำหรับบางคนก็เป็นได้)
วันนี้ก็เลยจะขอมาแชร์ประสบการณ์การเลือกแหวนแต่งงานไปยังว่าที่พ่อบ้านใจกล้าท่านอื่นๆ ครับ ว่าต้องดูยังไง ต้องเริ่มตรงไหน ไปครับ เริ่มกันเลยดีกว่า
ขั้นที่ 1 : ตั้งงบประมาณไว้ในใจ
สเต็ปแรกคือวาง Budget คร่าวๆ ในใจครับ ว่าเรามีงบเท่าไหร่ สำหรับเรทราคาของแหวนเพชรนี่เค้าก็มีเริ่มตั้งแต่ หลักหมื่น / หลักแสน / หลักล้านครับ แต่ละร้านก็จะแตกต่างกันออกไป อย่างร้านที่ผมเลือกแวะดูวันนี้ เริ่มที่ 13,000 ก็มีครับ
วิธีการตั้งงบเอาไว้แบบนี้ จะช่วยให้เราประหยัดเวลาในเลือกไปเยอะมาก เพราะบางทีที่เราเห็นว่าวงนี้ดีไซน์สวย แต่ถ้าได้เห็นราคา อาจะจะเหงื่อเปียกไปถึงขาเลยก็ได้ ยิ่งสโคปราคาเอาไว้แบบนี้ ก็ยิ่งง่ายในการเลือกทั้งกับเราและกับพนักงานด้วยครับ
ขั้นที่ 2 : เลือกกะรัต
กะรัตคืออะไร? กะรัตคือน้ำหนักของเพชร หรือขนาดของเพชรครับ พอเราได้งบคร่าวๆ ในใจ ก็สามารถเอาไปเทียบเคียงได้เลยว่า ราคาเท่านี้ ซื้อได้กี่กะรัต แล้วจำนวนกะรัตเท่านี้ ขนาดของเพชรจะประมาณไหน เล็กไปหรือใหญ่ไป ยิ่งเพชรกะรัตเยอะ เม็ดก็จะใหญ่ และราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ครับ
ขั้นที่ 3 : เลือกรูปทรง ดีไซน์ของเพชร
จริงๆ แล้วรูปทรงของเพชรมีหลายรูปทรงมากๆ มีทั้งแบบทรงกลม สีเหลี่ยม ผืนผ้า จตุรัส วงรี วงไข่ หัวใจ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ส่วนใหญ่เค้าจะแนะนำเป็นทรงกลมครับ เพราะมันหมายถึงความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด (อันนี้ความรู้ใหม่เลย)
ขั้นที่ 4 : เลือกสีของเพชร
อีกหนึ่งความรู้ใหม่ จริงๆ แล้วเพชรเนี่ยจะมีสีที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับน้ำเพชร ถ้าน้ำสวยๆ จะเรียกว่าเพชรน้ำ 100 หรือ D color อันนี้คือไม่มีสีเลย แวววาวชัดเจน แต่ถ้าลดลงกว่า 100 ก็จะมีสีเหลืองหรือส้ม หรือน้ำตาลปนอยู่ ความแวววาวก็จะลดลงมาอีกหน่อย
ถ้าอยากรู้ว่าวงไหนเป็นเพชรน้ำดี? ต้องไปดูกันที่ Certificate ครับ บรราดาร้านเพชรเขาก็จะเตรียมไว้ให้เราอยู่แล้ว อยู่ที่เราเลือกร้านเพชรที่ได้มาตรฐานและไว้ใจได้ครับ ส่วนเรื่องตำหนิของเพชร ถ้ามีน้อยมากๆ หรือไม่มีเลย เพชรก็จะยิ่งสวย และราคาแพงครับ
ขั้นที่ 5 : เลือกวัสดุและแบบของแหวน
โค้งสุดท้าย ก็คือการเลือกตัววงแหวน โดยทั่วไปวัสดุจะมี 3 แบบ คือ ทองขาว, ทอง และ Pink Gold ครับ
พนักงานบอกว่า สีทองเหมาะกับคนผิวสองสีใส่แล้วจะช่วยขับผิว ส่วน Pink Gold เหมือบกับผิวขาวเหลือง แต่ถ้าเข้ากับทุกสีผิวก็ต้องเป็นสีทองขาว เพราะจะช่วยขับประกายของเพชรให้แวววาวขึ้นไปอีก
ดูกฏเกณฑ์ องค์ประกอบกันไปครบแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลาเลือกแหวนจริงๆ สักที มีสวยๆ ให้เลือกหลายวงเลยครับ
เพิ่งรู้ว่าการเลือกแหวนเพชรสักวง มันยากพอๆ กับการเลือกแฟนมาใช้ชีวิตด้วยกันสักคนเลยครับ เฮ้อ จะเลือกวงไหนดีล่ะเนี่ย…
และในทุกสุดก็เลือกวงที่ถูกใจได้สักที
เสร็จสิ้นภารกิจนี้ตามล่าหาแหวนแต่งงานไปแล้ว ขั้นสุดท้ายก็คือการเซอร์ไพรส์ขอ แต่งงาน… เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับทุกท่าน เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาแล้วตอนนี้ แล้วก็ขอบคุณมากๆ ที่ติดตามกระทู้นี้ครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆ ท่านครับ