ภาพสยบมาร!บิ๊กตู่นวดหลวงปู่ลี
12 มิ.ย.2561 - เว็บไซต์อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม ซึ่งเป็นเว็บวัดไทยในลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาได้วิเคราะห์การลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะการเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่ลี ตาณังกะโร เจ้าอาวาสวัดหัวตลุกวนาราม (วัดป่าหัวตลุก) ต.สระแก้ว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในหัวข้อ “นวดหลวงปู่ลี ! บิ๊กตู่ร่ายคาถามหานิยมพัวะ นวดหลวงปู่ลี เล่นเอาพวกต้านอ่อนระทวย” โดยระบุว่า
อา..เห็นมะ ก็แค่นี้แหละ แค่ภาพเดียวก็เที่ยวได้ทั่วไทย ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที มีข่าวสารพัด "รัฐจ้องทำลายพระพุทธศาสนา" บ้าง "บิ๊กตู่ไม่ใช่พุทธ" บ้าง ขนาดว่าเปิดคอให้ดูพระเครื่อง "เป็นพวง" ก็ยังไม่เชื่อ ครั้นพอเปิดภาพ "นวดขาหลวงปู่ลี" เข้าเท่านั้น ทุกอย่างก็เงียบ
ที่เงียบก็เพราะว่า ชาวพุทธเขาอยากเห็นผู้นำ แสดงบทบาทของการ "นำ" ในทางพระศาสนา เช่นว่า เข้าวัดวาอาราม ไหว้พระไหว้เจ้า ทำบุญสุนทาน ถึงจะมีข่าวเสียหาย "จับพระสึก" บ้าง มันก็พอฟัง แต่ถ้ามีข่าวเสียด้านเดียวอย่างต่อเนื่อง มันก็ถือว่าไม่เป็นมงคล รัฐบาลเองก็คงรู้ว่า อย่านับแต่เรื่องพระเรื่องเจ้าเลย แค่เรื่องการเมืองก็แย่แล้ว
ภาพบิ๊กตู่นวดหลวงปู่ลีในวันนี้ ถือว่าเป็นภาพประวัติศาสตร์ เป็นภาพแห่งความทรงจำ เป็นคำตอบแทนคำถาม "นับล้านข้อ" ที่เคยมีต่อบิ๊กตู่ จะอยู่จะไป ชาวพุทธไทยเขาก็สบายใจแล้ว จะจับพระสึกอีกกี่รูปก็คงไม่หวาดระแวง คือคงเชื่อว่าพระผิดจริงๆ นิ่งแล้วเดินหน้าทำให้เป็นรูปธรรม มันได้ผลกว่าใช้โฆษกรัฐบาลออกมาขู่กันเยอะ
https://www.thaipost.net/main/detail/11212
รัฐบาลยืนยัน บิ๊กตู่ไม่ใช่มุสลิม โดนกล่าวหา อุปถัมภ์อิสลามมากกว่าพุทธ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam
วันที่ 9 มิถุนายน 2561 พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์ข้อความ และภาพในโซเชียลมีเดีย ที่มีการระบุว่าการจับพระที่กำลังเป็นข่าวใหญ่อยู่ขณะนี้ เป็นการกลบข่าวที่ทำเนียบเลี้ยงละศีลอดเดือนรอมฎอน และรัฐบาลอนุมัติงบก่อสร้างมัสยิดหลายแห่ง เพราะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นมุสลิมนั้น
พล.ท. สรรเสริญ ระบุว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง มีผู้พยายามปล่อยข่าวบิดเบือนสร้างความสับสน ยืนยันว่า พล.อ. ประยุทธ์ นับถือศาสนาพุทธ เป็นผู้ที่ทำบุญตักบาตรอย่างสม่ำเสมอ และเข้าร่วมพิธีทางศาสนา เมื่อถึงโอกาสสำคัญ เช่น วันวิสาขบูชา ทั้งที่เป็นพระราชพิธีและภายในทำเนียบรัฐบาล และในฐานะผู้นำประเทศก็ดูแลให้ความสำคัญกับทุกศาสนา
ส่วนการจัดเลี้ยงละศีลอดเดือนรอมฎอนนั้น เป็นงานที่รัฐบาลจัดขึ้นทุกปี ไม่ได้เริ่มในรัฐบาลนี้ เช่นเดียวกับงานเมาลิดกลางที่ผู้นำประเทศ จะไปร่วมงานด้วยเช่นกัน ส่วนการสนับสนุนงบประมาณให้แก่ศาสนาใด ก็จะมีกฎระเบียบและขั้นตอนที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยศาสนาพุทธก็มีเงินอุดหนุนวัด เช่นกัน ดังที่เป็นข่าวอยู่ในปัจจุบันว่ามีบางวัดกำลังมีปัญหาเรื่องการทุจริต ส่วน มัสยิดที่มีการก่อสร้างหลายแห่งนั้น ส่วนใหญ่ใช้เงินบริจาค หรืองบประมาณจากท้องถิ่น เช่น มัสยิดที่ จ.นนทบุรี ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช ก็มีการอนุมัติงบตั้งแต่ปี 2555
ขณะที่ค่าตอบแทนของโต๊ะอิหม่าม, อิหม่าม, คอเต็บ และบิหลั่น ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย นั้นอยู่ระหว่าง 1,0003,500 บาท ไม่ใช่ 18,000 บาทต่อเดือน ตามที่กล่าวอ้าง ทั้งนี้ รัฐบาลขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลที่บิดเบือน และขอให้ผู้ไม่หวังดีหยุดพฤติกรรมบ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างศาสนา หากพบผู้ใดเป็นต้นตอของการปล่อยข่าวเท็จจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
https://hilight.kapook.com/view/173522
ตอนนี้มีข่าวลือ ข่าวปลอมมากันบ่อยๆ ต้องฟังหูไว้หูกันนะคะ
มีผู้ไม่หวังดีกำลังทำงานปั่นป่วน
อย่าตกเป็นเหยื่อขบวนการปล่อยข่าวลือค่ะ
คืนนี้หลับฝันดีนะคะ ....🌹🌹🌹🌹🌹🌹
🔇~มาลาริน~ฟังหูไว้หูกันค่ะ..ยืนยัน ลุงตู่ไม่ใช่มุสลิม โดนกล่าวหา อุปถัมภ์อิสลามมากกว่าพุทธ ภาพสยบมาร!ลุงตู่นวดหลวงปูลี
ภาพสยบมาร!บิ๊กตู่นวดหลวงปู่ลี
12 มิ.ย.2561 - เว็บไซต์อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม ซึ่งเป็นเว็บวัดไทยในลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาได้วิเคราะห์การลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะการเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่ลี ตาณังกะโร เจ้าอาวาสวัดหัวตลุกวนาราม (วัดป่าหัวตลุก) ต.สระแก้ว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในหัวข้อ “นวดหลวงปู่ลี ! บิ๊กตู่ร่ายคาถามหานิยมพัวะ นวดหลวงปู่ลี เล่นเอาพวกต้านอ่อนระทวย” โดยระบุว่า
อา..เห็นมะ ก็แค่นี้แหละ แค่ภาพเดียวก็เที่ยวได้ทั่วไทย ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที มีข่าวสารพัด "รัฐจ้องทำลายพระพุทธศาสนา" บ้าง "บิ๊กตู่ไม่ใช่พุทธ" บ้าง ขนาดว่าเปิดคอให้ดูพระเครื่อง "เป็นพวง" ก็ยังไม่เชื่อ ครั้นพอเปิดภาพ "นวดขาหลวงปู่ลี" เข้าเท่านั้น ทุกอย่างก็เงียบ
ที่เงียบก็เพราะว่า ชาวพุทธเขาอยากเห็นผู้นำ แสดงบทบาทของการ "นำ" ในทางพระศาสนา เช่นว่า เข้าวัดวาอาราม ไหว้พระไหว้เจ้า ทำบุญสุนทาน ถึงจะมีข่าวเสียหาย "จับพระสึก" บ้าง มันก็พอฟัง แต่ถ้ามีข่าวเสียด้านเดียวอย่างต่อเนื่อง มันก็ถือว่าไม่เป็นมงคล รัฐบาลเองก็คงรู้ว่า อย่านับแต่เรื่องพระเรื่องเจ้าเลย แค่เรื่องการเมืองก็แย่แล้ว
ภาพบิ๊กตู่นวดหลวงปู่ลีในวันนี้ ถือว่าเป็นภาพประวัติศาสตร์ เป็นภาพแห่งความทรงจำ เป็นคำตอบแทนคำถาม "นับล้านข้อ" ที่เคยมีต่อบิ๊กตู่ จะอยู่จะไป ชาวพุทธไทยเขาก็สบายใจแล้ว จะจับพระสึกอีกกี่รูปก็คงไม่หวาดระแวง คือคงเชื่อว่าพระผิดจริงๆ นิ่งแล้วเดินหน้าทำให้เป็นรูปธรรม มันได้ผลกว่าใช้โฆษกรัฐบาลออกมาขู่กันเยอะ
https://www.thaipost.net/main/detail/11212
รัฐบาลยืนยัน บิ๊กตู่ไม่ใช่มุสลิม โดนกล่าวหา อุปถัมภ์อิสลามมากกว่าพุทธ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam
วันที่ 9 มิถุนายน 2561 พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์ข้อความ และภาพในโซเชียลมีเดีย ที่มีการระบุว่าการจับพระที่กำลังเป็นข่าวใหญ่อยู่ขณะนี้ เป็นการกลบข่าวที่ทำเนียบเลี้ยงละศีลอดเดือนรอมฎอน และรัฐบาลอนุมัติงบก่อสร้างมัสยิดหลายแห่ง เพราะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นมุสลิมนั้น
พล.ท. สรรเสริญ ระบุว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง มีผู้พยายามปล่อยข่าวบิดเบือนสร้างความสับสน ยืนยันว่า พล.อ. ประยุทธ์ นับถือศาสนาพุทธ เป็นผู้ที่ทำบุญตักบาตรอย่างสม่ำเสมอ และเข้าร่วมพิธีทางศาสนา เมื่อถึงโอกาสสำคัญ เช่น วันวิสาขบูชา ทั้งที่เป็นพระราชพิธีและภายในทำเนียบรัฐบาล และในฐานะผู้นำประเทศก็ดูแลให้ความสำคัญกับทุกศาสนา
ส่วนการจัดเลี้ยงละศีลอดเดือนรอมฎอนนั้น เป็นงานที่รัฐบาลจัดขึ้นทุกปี ไม่ได้เริ่มในรัฐบาลนี้ เช่นเดียวกับงานเมาลิดกลางที่ผู้นำประเทศ จะไปร่วมงานด้วยเช่นกัน ส่วนการสนับสนุนงบประมาณให้แก่ศาสนาใด ก็จะมีกฎระเบียบและขั้นตอนที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยศาสนาพุทธก็มีเงินอุดหนุนวัด เช่นกัน ดังที่เป็นข่าวอยู่ในปัจจุบันว่ามีบางวัดกำลังมีปัญหาเรื่องการทุจริต ส่วน มัสยิดที่มีการก่อสร้างหลายแห่งนั้น ส่วนใหญ่ใช้เงินบริจาค หรืองบประมาณจากท้องถิ่น เช่น มัสยิดที่ จ.นนทบุรี ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช ก็มีการอนุมัติงบตั้งแต่ปี 2555
ขณะที่ค่าตอบแทนของโต๊ะอิหม่าม, อิหม่าม, คอเต็บ และบิหลั่น ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย นั้นอยู่ระหว่าง 1,0003,500 บาท ไม่ใช่ 18,000 บาทต่อเดือน ตามที่กล่าวอ้าง ทั้งนี้ รัฐบาลขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลที่บิดเบือน และขอให้ผู้ไม่หวังดีหยุดพฤติกรรมบ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างศาสนา หากพบผู้ใดเป็นต้นตอของการปล่อยข่าวเท็จจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
https://hilight.kapook.com/view/173522
ตอนนี้มีข่าวลือ ข่าวปลอมมากันบ่อยๆ ต้องฟังหูไว้หูกันนะคะ
มีผู้ไม่หวังดีกำลังทำงานปั่นป่วน
อย่าตกเป็นเหยื่อขบวนการปล่อยข่าวลือค่ะ
คืนนี้หลับฝันดีนะคะ ....🌹🌹🌹🌹🌹🌹