เนย์มาร์ กองหน้าตัวเก่งของสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ขึ้นแท่นเป็นดาวซัลโวอันดับ 3 ของทีมชาติด้วยจำนวน 55 ประตู
โดยก่อนหน้านี้หัวหอกวัย 26 ปีส่อฟิตไม่ทันศึกฟุตบอลโลก 2018 หลังได้รับบาดเจ็บหลังได้รับบาดเจ็บตรงฝ่าเท้าจากเกม ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่ เปแอสเช เอาชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ.จนต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็กลับมาลงสนามได้ตั้งแต่เกมที่ “แซมบา” เอาชนะ โครเอเชีย ได้ 3-0 เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.
และในเกมล่าสุดที่ “เซเลเซา” ถล่ม ออสเตรีย ได้ 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (10 มิ.ย.) ดาวเตะค่าตัวสถิติโลกก็ทำประตูได้อีก 1 ลูกซึ่งส่งผลให้เจ้าตัวกลายเป็นดาวซัลโวอันดับ 3 ของทีมชาติด้วยจำนวน 55 ลูกเทียบเท่ากับ โรมาริโอ ศูนย์หน้าระดับตำนาน ส่วนอันดับ 1 ยังคงเป็น เปเล อดีตแข้งชื่อก้องที่ยิงให้ทีมชาติไปถึง 77 ลูก
หลังเกมอดีตนักเตะ บาร์เซโลนา กล่าวว่า “สำหรับผมถือว่าเป็นเกียรติมากที่สามารถยิงประตูให้ทีมชาติเทียบเท่ากับ โรมาริโอ ซึ่งถือว่าเป็นไอดอลของผม อย่างไรก็ตามผมไม่ได้อยากจะทำสถิติเพื่อแข่งขันกับใคร ซึ่งผมเพียงหวังว่าตนเองจะพัฒนาขึ้นเท่านั้น”
ข้อมูลจาก
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/804426
"เนย์มาร์"ขึ้นแท่นดาวซัลโวอันดับ3บราซิล
เนย์มาร์ กองหน้าตัวเก่งของสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ขึ้นแท่นเป็นดาวซัลโวอันดับ 3 ของทีมชาติด้วยจำนวน 55 ประตู
โดยก่อนหน้านี้หัวหอกวัย 26 ปีส่อฟิตไม่ทันศึกฟุตบอลโลก 2018 หลังได้รับบาดเจ็บหลังได้รับบาดเจ็บตรงฝ่าเท้าจากเกม ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่ เปแอสเช เอาชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ.จนต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็กลับมาลงสนามได้ตั้งแต่เกมที่ “แซมบา” เอาชนะ โครเอเชีย ได้ 3-0 เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.
และในเกมล่าสุดที่ “เซเลเซา” ถล่ม ออสเตรีย ได้ 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (10 มิ.ย.) ดาวเตะค่าตัวสถิติโลกก็ทำประตูได้อีก 1 ลูกซึ่งส่งผลให้เจ้าตัวกลายเป็นดาวซัลโวอันดับ 3 ของทีมชาติด้วยจำนวน 55 ลูกเทียบเท่ากับ โรมาริโอ ศูนย์หน้าระดับตำนาน ส่วนอันดับ 1 ยังคงเป็น เปเล อดีตแข้งชื่อก้องที่ยิงให้ทีมชาติไปถึง 77 ลูก
หลังเกมอดีตนักเตะ บาร์เซโลนา กล่าวว่า “สำหรับผมถือว่าเป็นเกียรติมากที่สามารถยิงประตูให้ทีมชาติเทียบเท่ากับ โรมาริโอ ซึ่งถือว่าเป็นไอดอลของผม อย่างไรก็ตามผมไม่ได้อยากจะทำสถิติเพื่อแข่งขันกับใคร ซึ่งผมเพียงหวังว่าตนเองจะพัฒนาขึ้นเท่านั้น”
ข้อมูลจาก http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/804426