สวัสดีค่ะ
หลังจากหาข้อมูลในห้องนี้มานานเพราะอยากรับน้องแมวมาเลี้ยงเพิ่ม อ่านไปก็ใจสั่นเพราะเห็นหลายกระทู้มีปัญหาไม่สามารถทำให้น้องแมวเข้ากันได้
บางบ้านใช้เวลาเป็นเดือนเลยก็มี แต่เนื่องจากเราอยากหาเพื่อนให้แมวตัวเก่าเลยตัดสินใจลองดูค่ะ จะเล่าเป็นขั้นตอนเลยนะคะ
1. หาน้องแมว
ที่สวีเดนการหาน้องแมวไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ง่ายเท่าที่ไทย ที่นี่จะมีเฟซบุคกลุ่มสำหรับซื้อขายและหาบ้านให้น้องแมว เราได้แมวตัวแรกมาจากในนี้นี่ล่ะค่ะ ไม่ก็จากเว็บไซต์ชื่อ Blocket ที่ขายตั้งแต่บ้านยันหนูแฮมสเตอร์ซึ่งเราได้ตัวที่สองจากเว็บนี้ จริงๆมีอีกหนทางเลือกคือรับแมวจากบ้านพักแมวมาเลี้ยง แต่เราลองติดต่อไปแล้วไม่มีลูกแมวเลย ที่มีก็อยู่ไกลเกินไปต้องนั่งรถไฟเกินหนึ่งชั่วโมงซึ่งเราคิดว่ามันหนักเกินไปสำหรับลูกแมว จะให้รับแมวโตมาเลี้ยงก็ไม่แน่ใจว่าจะเข้ากับแมวเก่าได้มั้ยจึงตัดตัวเลือกนี้ไปและที่นี่มีกฎว่าห้ามพรากลูกแมวอายุต่ำกว่าสามเดือนจากแม่แมวค่ะ
อันนี้อาเจ๊ประจำบ้าน ดูหุ่นเจ๊ซะก่อน
เราเจอประกาศขายน้องแมวบนเว็บ เจ้าของบอกว่าน้องแมวอายุสามเดือนกว่าไม่สามารถเข้ากับน้องหมาที่บ้านได้ เลยอยากหาบ้านใหม่ให้ เราเช็คสถานที่แล้วห่างไป 50 กิโล ไม่มีรถบัสเข้าถึงต้องขับรถไปอย่างเดียวแถมเราดันไม่มีรถอีก แต่ก็ลองส่งข้อความไปหาดูเพราะเห็นหน้าน้องแมวแล้วถูกชะตาเรากับสามี แถมน้องแมวเกิดวันวาเลนไทน์ด้วย
ปรากฎเช้าวันต่อมาเจ้าของส่งข้อความกลับมาว่าถ้ายังสนใจเค้าจะขับรถพาน้องแมวมาให้ที่บ้านพร้อมของใช้น้องแมว นอกจากค่าตัวน้องแมวกับกระเป๋าเดินทางที่ให้ต่อราคาถูกมาก ขอแค่ค่าน้ำมันเพิ่มแค่นั้นเพราะเค้าต้องขับรถชั่วโมงนึงมาเมืองที่เราอยู่ เราคุยกับสามีแล้วก็ตกลงเลยค่ะเพราะตอนแรกจะเสนอค่าน้ำมันให้เค้าอยู่แล้วด้วย
2. รับน้องแมวเข้าบ้าน
เช้าวันเสาร์เราก็รับน้องเข้าบ้านค่ะ เราอ่านวิธีจากพันทิปว่าให้ขังน้องแมวตัวใหม่ในกรงสามสี่วัน ปล่อยให้ตัวเก่าดมๆจนพอใจก่อน ที่นี่ทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ผิดกฎหมายเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ เราใช้วิธีให้น้องแมวอยู่ในกระเป๋าก่อนตอนเข้าบ้าน แน่นอนว่าตัวใหม่ก็รีบวิ่งมาดม ดมไปทีเดียวเท่านั้นล่ะขนฟูวิ่งเข้าห้องนอนไม่ยอมออกมาเลยค่ะ ไอ้เจ้าตัวใหม่ก็อยากออกจากกรงเต็มแก่ เราเลยปล่อยให้ออกมากินข้าวดื่มน้ำก่อน น้องกินง่ายมาก ข้าวในจานนี่เรียบแปร้ คิดว่าถ้ากินจานด้วยได้คงกินไปแล้ว
แล้วเราก็ปล่อยให้น้องเดินดมๆ สำรวจบ้านใหม่ก่อน ส่วนเราก็เดินไปดูตัวเก่าพยายามเอาเค้าออกจากใต้เตียงค่ะ ระหว่างนั้นตัวใหม่ก็พยายามแนะนำตัวเองกับตัวเก่ามากๆ ตัวเก่านี่ขนฟู ขนร่วง ทำเสียงเหมือนเรือหางยาวขู่ตัวใหม่ไม่หยุดก่อนจะวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ สรุปช่วงเช้าวันแรกเรานั่งในห้องน้ำกับแมวตัวเก่าจนหมดครึ่งเช้าค่ะ นั่งไปยาวๆ 3-4 ชั่วโมง คอยปลอบคอยลูบเค้า ส่วนสามีก็จัดการตัวใหม่ไป ไอ้วิธีเอาผ้าขนหนูลูบๆสลับกลิ่นนี่ไม่ได้ผลเลยค่ะ ตัวเก่าขู่หนักกว่าเดิม
หมดครึ่งเช้าตัวเก่ายอมเดินออกมาจากห้องน้ำ เราให้นั่งจ้องหน้ากันประมาณครึ่งชม.ก่อนจะพาตัวเก่าเข้าห้องนอนไปสงบสติอารมณ์กับนอนพัก ตัวใหม่ก็ชิลเหลือเกินราวกับอยู่บ้านนี้มาสิบปี พูดง่ายๆคือตัวใหม่ปรับตัวเข้ากับที่บ้านใหม่ทันทีที่มาถึง ปัญหาคือตัวเก่าที่เค้ารู้สึกว่ามีคนบุกรุกที่เค้าค่ะ
เนื่องจากบ้านเรามีสามห้องรวมห้องครัวเป็นสี่ มีแค่ห้องนอนกับห้องน้ำที่มีประตูแล้วแมวตัวเก่านอนกับเราทุกคืน เราเลยเลือกให้แมวตัวเก่าอยู่ในห้องนอนเพื่อที่เค้าจะได้มีพื้นที่ส่วนตัว ช่วงบ่ายวันแรกตัวเก่าตื่นนอนจากนอนกลางวันก็เกาประตูเรียกให้เรามาเปิดค่ะ พอเปิดปุ๊บเห็นหน้าตัวใหม่วิ่งลั้นลาก็ทำเสียงเรือหางยาวใส่อีก เราก็ให้จ้องกันไปเรื่อยๆซักพักก่อนจะพาเค้ากลับเข้าห้องนอน
โฉมหน้าตัวใหม่ ความชิลที่แท้ทรู
แชร์ประสบการณ์รับน้องแมวมาเลี้ยงและวิธีทำให้เข้ากับแมวเก่าค่ะ
หลังจากหาข้อมูลในห้องนี้มานานเพราะอยากรับน้องแมวมาเลี้ยงเพิ่ม อ่านไปก็ใจสั่นเพราะเห็นหลายกระทู้มีปัญหาไม่สามารถทำให้น้องแมวเข้ากันได้
บางบ้านใช้เวลาเป็นเดือนเลยก็มี แต่เนื่องจากเราอยากหาเพื่อนให้แมวตัวเก่าเลยตัดสินใจลองดูค่ะ จะเล่าเป็นขั้นตอนเลยนะคะ
1. หาน้องแมว
ที่สวีเดนการหาน้องแมวไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ง่ายเท่าที่ไทย ที่นี่จะมีเฟซบุคกลุ่มสำหรับซื้อขายและหาบ้านให้น้องแมว เราได้แมวตัวแรกมาจากในนี้นี่ล่ะค่ะ ไม่ก็จากเว็บไซต์ชื่อ Blocket ที่ขายตั้งแต่บ้านยันหนูแฮมสเตอร์ซึ่งเราได้ตัวที่สองจากเว็บนี้ จริงๆมีอีกหนทางเลือกคือรับแมวจากบ้านพักแมวมาเลี้ยง แต่เราลองติดต่อไปแล้วไม่มีลูกแมวเลย ที่มีก็อยู่ไกลเกินไปต้องนั่งรถไฟเกินหนึ่งชั่วโมงซึ่งเราคิดว่ามันหนักเกินไปสำหรับลูกแมว จะให้รับแมวโตมาเลี้ยงก็ไม่แน่ใจว่าจะเข้ากับแมวเก่าได้มั้ยจึงตัดตัวเลือกนี้ไปและที่นี่มีกฎว่าห้ามพรากลูกแมวอายุต่ำกว่าสามเดือนจากแม่แมวค่ะ
อันนี้อาเจ๊ประจำบ้าน ดูหุ่นเจ๊ซะก่อน
เราเจอประกาศขายน้องแมวบนเว็บ เจ้าของบอกว่าน้องแมวอายุสามเดือนกว่าไม่สามารถเข้ากับน้องหมาที่บ้านได้ เลยอยากหาบ้านใหม่ให้ เราเช็คสถานที่แล้วห่างไป 50 กิโล ไม่มีรถบัสเข้าถึงต้องขับรถไปอย่างเดียวแถมเราดันไม่มีรถอีก แต่ก็ลองส่งข้อความไปหาดูเพราะเห็นหน้าน้องแมวแล้วถูกชะตาเรากับสามี แถมน้องแมวเกิดวันวาเลนไทน์ด้วย
ปรากฎเช้าวันต่อมาเจ้าของส่งข้อความกลับมาว่าถ้ายังสนใจเค้าจะขับรถพาน้องแมวมาให้ที่บ้านพร้อมของใช้น้องแมว นอกจากค่าตัวน้องแมวกับกระเป๋าเดินทางที่ให้ต่อราคาถูกมาก ขอแค่ค่าน้ำมันเพิ่มแค่นั้นเพราะเค้าต้องขับรถชั่วโมงนึงมาเมืองที่เราอยู่ เราคุยกับสามีแล้วก็ตกลงเลยค่ะเพราะตอนแรกจะเสนอค่าน้ำมันให้เค้าอยู่แล้วด้วย
2. รับน้องแมวเข้าบ้าน
เช้าวันเสาร์เราก็รับน้องเข้าบ้านค่ะ เราอ่านวิธีจากพันทิปว่าให้ขังน้องแมวตัวใหม่ในกรงสามสี่วัน ปล่อยให้ตัวเก่าดมๆจนพอใจก่อน ที่นี่ทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ผิดกฎหมายเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ เราใช้วิธีให้น้องแมวอยู่ในกระเป๋าก่อนตอนเข้าบ้าน แน่นอนว่าตัวใหม่ก็รีบวิ่งมาดม ดมไปทีเดียวเท่านั้นล่ะขนฟูวิ่งเข้าห้องนอนไม่ยอมออกมาเลยค่ะ ไอ้เจ้าตัวใหม่ก็อยากออกจากกรงเต็มแก่ เราเลยปล่อยให้ออกมากินข้าวดื่มน้ำก่อน น้องกินง่ายมาก ข้าวในจานนี่เรียบแปร้ คิดว่าถ้ากินจานด้วยได้คงกินไปแล้ว
แล้วเราก็ปล่อยให้น้องเดินดมๆ สำรวจบ้านใหม่ก่อน ส่วนเราก็เดินไปดูตัวเก่าพยายามเอาเค้าออกจากใต้เตียงค่ะ ระหว่างนั้นตัวใหม่ก็พยายามแนะนำตัวเองกับตัวเก่ามากๆ ตัวเก่านี่ขนฟู ขนร่วง ทำเสียงเหมือนเรือหางยาวขู่ตัวใหม่ไม่หยุดก่อนจะวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ สรุปช่วงเช้าวันแรกเรานั่งในห้องน้ำกับแมวตัวเก่าจนหมดครึ่งเช้าค่ะ นั่งไปยาวๆ 3-4 ชั่วโมง คอยปลอบคอยลูบเค้า ส่วนสามีก็จัดการตัวใหม่ไป ไอ้วิธีเอาผ้าขนหนูลูบๆสลับกลิ่นนี่ไม่ได้ผลเลยค่ะ ตัวเก่าขู่หนักกว่าเดิม
หมดครึ่งเช้าตัวเก่ายอมเดินออกมาจากห้องน้ำ เราให้นั่งจ้องหน้ากันประมาณครึ่งชม.ก่อนจะพาตัวเก่าเข้าห้องนอนไปสงบสติอารมณ์กับนอนพัก ตัวใหม่ก็ชิลเหลือเกินราวกับอยู่บ้านนี้มาสิบปี พูดง่ายๆคือตัวใหม่ปรับตัวเข้ากับที่บ้านใหม่ทันทีที่มาถึง ปัญหาคือตัวเก่าที่เค้ารู้สึกว่ามีคนบุกรุกที่เค้าค่ะ
เนื่องจากบ้านเรามีสามห้องรวมห้องครัวเป็นสี่ มีแค่ห้องนอนกับห้องน้ำที่มีประตูแล้วแมวตัวเก่านอนกับเราทุกคืน เราเลยเลือกให้แมวตัวเก่าอยู่ในห้องนอนเพื่อที่เค้าจะได้มีพื้นที่ส่วนตัว ช่วงบ่ายวันแรกตัวเก่าตื่นนอนจากนอนกลางวันก็เกาประตูเรียกให้เรามาเปิดค่ะ พอเปิดปุ๊บเห็นหน้าตัวใหม่วิ่งลั้นลาก็ทำเสียงเรือหางยาวใส่อีก เราก็ให้จ้องกันไปเรื่อยๆซักพักก่อนจะพาเค้ากลับเข้าห้องนอน
โฉมหน้าตัวใหม่ ความชิลที่แท้ทรู