เราขึ้น ม.6 แล้วแต่ยังไม่ให้ออกไปไหนมาไหนอยู่ดี
มันน่าโมโหตรงที่ว่าเราก็อยากไปเหมือนคนอื่นบ้าง
ทำไมยังไม่ปล่อยในเมื่อ จบ ม.6 ไปก็ต้องใช้ชีวิตมหาลัยคนเดียว
เข้าใจว่าเป็นห่วงแต่แบบนี้มันก็มากเกินไป
ไม่เคยปล่อยให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง อะไรก็ต้องทำตามที่เขาสอน
เข้าใจในมุมของผู้ใหญ่น่ะค่ะ .. แต่ทำไมผู้ใหญ่บางคน
ไม่เคยมองในมมุมของวัยรุ่นคนๆนึงบ้างเรามีแฟนก็บอกกับเราว่า ถ้าอยากมีผัวก็ไปเอากับมันและก็ไปอยู่กับมันนู้น
ไม่ต้องเรียน ไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน อะไรแบบนี้
พูดเหมือนหยามใครๆก็ไม่ชอบถูกไหมล่ะค่ะ
เรียนวิทย์คณิตค่ะ .. ถ้าไม่อยากเรียนแล้วจะเรียนจนขึ้น ม.6 มาขนาดนี้หรอ
เกรดก็ 3.5 ขึ้น ยังถูกแม่มองว่าโง่อยู่ นี่เขาจะให้เอาได้ดีไปถึงไหน
มหาลัยก็เลือกว่าต้องติดที่นี้ อยากจะบอกแม่เหมือนกัน โดนแบบนี้ก็กดดันเหมือนกัน
ยังมีแม่แบบนี้อยู่บนโลกอีกไหมค่ะ เคลียดเรื่องเรียนก็มากพอแล้ว
ยังต้องมาคิดเรื่องแบบนี้อีก เหนื่อยท้อไปหมด ช่วง ม.6 เป็นช่วงที่เซนซิทีฟเหลือเกิน.
มันยังมีมนุษย์แม่แบบนี้อยู่ไหมค่ะ?
มันน่าโมโหตรงที่ว่าเราก็อยากไปเหมือนคนอื่นบ้าง
ทำไมยังไม่ปล่อยในเมื่อ จบ ม.6 ไปก็ต้องใช้ชีวิตมหาลัยคนเดียว
เข้าใจว่าเป็นห่วงแต่แบบนี้มันก็มากเกินไป
ไม่เคยปล่อยให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง อะไรก็ต้องทำตามที่เขาสอน
เข้าใจในมุมของผู้ใหญ่น่ะค่ะ .. แต่ทำไมผู้ใหญ่บางคน
ไม่เคยมองในมมุมของวัยรุ่นคนๆนึงบ้างเรามีแฟนก็บอกกับเราว่า ถ้าอยากมีผัวก็ไปเอากับมันและก็ไปอยู่กับมันนู้น
ไม่ต้องเรียน ไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน อะไรแบบนี้
พูดเหมือนหยามใครๆก็ไม่ชอบถูกไหมล่ะค่ะ
เรียนวิทย์คณิตค่ะ .. ถ้าไม่อยากเรียนแล้วจะเรียนจนขึ้น ม.6 มาขนาดนี้หรอ
เกรดก็ 3.5 ขึ้น ยังถูกแม่มองว่าโง่อยู่ นี่เขาจะให้เอาได้ดีไปถึงไหน
มหาลัยก็เลือกว่าต้องติดที่นี้ อยากจะบอกแม่เหมือนกัน โดนแบบนี้ก็กดดันเหมือนกัน
ยังมีแม่แบบนี้อยู่บนโลกอีกไหมค่ะ เคลียดเรื่องเรียนก็มากพอแล้ว
ยังต้องมาคิดเรื่องแบบนี้อีก เหนื่อยท้อไปหมด ช่วง ม.6 เป็นช่วงที่เซนซิทีฟเหลือเกิน.