[CR] ทริปฮ่องกง 4 วัน 3 คืน ฉบับมนุษย์เงินเดือน โรงแรม+ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ งบไม่เกิน 10,000 บาท ปี 2018

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของมดนะคะ ตั้งแต่เรียนจบ ทำงานมาปีกว่าๆ ยังไม่ได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ไหนเลยค่ะ
ครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกในรอบหลายปี มดกับเพื่อนเลยมาคิดกันว่า เอ.... นี่เราทำงานมาครบปีแล้ว อยากจะใช้พักร้อนแล้ววว เลยตัดสินใจหาที่เที่ยวค่ะ ตอนนั้นสไลด์หน้าฟีด facebook อยู่ดีๆ เจอโปรเที่ยวฮ่องกง !!! (ราคาที่ซื้อไม่ใช้โปรมากมายนะคะ) โทรหาถามกันไปมา เอามั้ย จองละนะ สรุปจองเลย 555555 เราจองไปวันที่ 31 พฤษภาคม กลับ 3 มิถุนายน 2561 ไฟลท์ขาไปเวลาไม่ค่อยดีเท่าไหร่เราจึงเลือกเป็น 4 วัน 3 คืน เผื่อเที่ยวไม่หมด (มาทั้งทีต้องเก็บทุกที่ที่ว่าดีค่ะ) แต่ถึงจะเพิ่มมา 1 คืน จากที่ตั้งใจ 3 วัน 2 คืน ก็ไม่ได้เพิ่มเงินมากมายค่ะเพิ่มแค่ 500 บาท ก็จัดเลยสิคะ 5555


เกริ่นมามากแล้วเดี๋ยวบอกรายละเอียดก่อนเลยละกันค่ะ...
เราสองคนจองกับสายการบิน Emirates Airline  ทั้งขาไป-ขากลับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.
เที่ยวบินขาไป EK384 บินจากกรุงเทพ 14:00 น. ถึง ฮ่องกง 18:05 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
เที่ยวบินขากลับ EK385 บินจากฮ่องกง 21:50 น. ถึง กรุงเทพ 23:45 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)


Day 1
วันแรกเริ่มออกเดินทาง มาถึงสุวรรณภูมิ Check-in เรียบร้อยเสร็จประมาณ 12:30 แต่ !! พนักงานที่เค้าเตอร์แจ้งว่าเครื่องมารอแล้วขึ้นเครื่อง 13:10 เลยนะคะ
ตอนนั้นเดินเร็วแบบตาเหลือกมากก คือไหนว่าบินบ่ายสอง เดินๆ เข้าไปถึง King Power ก็เกือบๆ บ่ายโมง กะจะเดินซื้อของแต่ตอนนั้นคือไม่มีอารมณ์ซื้อละคือรีบ เลยเดินไปเกท แต่...!!! น้ำตาจะไหล ที่รีบเดินตาเหลือกมาคือเครื่องออกเวลาเดิม เอ้าาาาาา นั่งหง่อยในเกทไปค่าา คุณขา
มาบนเครื่องละถ่ายรูปซะหน่อย แชะ !! เครื่องที่นั่งเป็นเครื่อง A380 จำนวนที่นั่ง 800 ที่นั่ง คนเต็มเครื่องมากก แต่ดีหน่อยค่ะเหมือนถ้าจองพร้อมกันสองคนระบบจะชอบจัดให้นั่งด้วยกันสองคนติดหน้าต่าง อีกที่ว่างไว้ สบายยยยหมูมาก... 55555 **แอร์ดุอ่ะ กลัว แต่สจ๊วตหน้าเหมือนมิสเตอร์เกรย์มากกก เขิน ไม่ได้ถ่าย 55555**

ทุกที่นั่งจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ไว้ให้ความบรรเทิงขณะบิน มีทั้งเกมส์ หนัง และเพลง เลือกดูได้เลยค่ะ เยอะมากกก

เครื่องบอร์ดได้ซักพักลูกเรือก็จะนำเมนูมาแจกค่ะ พร้อมกับใบ Immigration department

อาหารบนเครื่อง Main course มีให้เลือก 2 เมนู ค่ะ ระหว่าง ปลา กับ ไก่
(ซ้าย)เมนูพะแนงไก่ อร่อยค่ะ แต่รสชาติจะเบาๆ รสไม่จัดมาก กินเกลี้ยงเลย เครื่องเคียงรสจืดหน่อย แต่กินได้ค่ะหมดเหมือนกัน 55555 ของหวานรีวิวไม่เก่ง เพราะปกติไม่ค่อยชอบกินบลูเบอร์รี่เท่าไหร่ (ขวา)เพื่อนเลือกเมนูปลา ไม่รู้ว่าภาษาไทยเรียกว่าอะไร รสชาติคล้ายๆอ่อมปลา กินคู่กับมันฝรั่ง อร่อยดีค่ะ

(ตรงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ) เมื่อลงจากเครื่อง เราก็ต้องนั่งรถไฟเข้าไปที่ Terminal เพื่อผ่าน ตม. และรับกระเป๋า ตอนถึง ตม. คำถามก็จะประมาณว่า
1. มาคนเดียวหรอ
2. มากี่วัน
3. กลับวันไหน
ถามมาตอบได้หมดมาตกม้าตายข้อ 3. เกิดอะไรขึ้นไม่รู้นึกคำว่าวันที่ 3 ไม่ออก !!! ตม. เริ่มสงสัยละทำไมตอบไม่ได้ เลยถามหาตั๋วกลับ Lucky มากที่เพื่อนปริ้นใบจองตั๋วกับโรงแรมมา เลยเอาให้ดู (ที่ปริ้นมาเป็นภาษาไทยอีก ตม. ขำ) นึกขึ้นได้เลยตอบไปเป็นภาษาจีน พูดจีนได้นิดหน่อย เค้าถามๆ เราก็ตอบโช๊ะๆ ผ่านนนค่าา ก่อนลาจากกัน ตม. ฝากบอกมาว่า (下次,要打印英语 = ครั้งหน้าเอาเป็นภาษาอังกฤษมาาา 5555)

ผ่าน ตม. ออกมาแล้วก็รับกระเป๋าค่ะ เดินออกมาแป้ปนึงจะเจอเค้าเตอร์สำหรับซื้อบัตรปลาหมึก กับ Airport express ทางพนักงานแนะนำให้ซื้อ 2 ใบ
1. บัตร Airport expess แบบกรุ๊ป 2 คน (บัตรสีเหลือง) เที่ยวเดียวไปลงที่เกาลูน ราคา 150 HKD (ตกคนละ 75 HKD) ใช้ขาเข้าเมือง
2. บัตร Airport express 1 ride(บัตรสีน้ำเงิน) ไว้ใช้ขากลับเข้าสนามบิน สามารถ in town check-in สถานีใดก็ได้ (ใช้ได้ขาเดียวนะคะสำหรับ AE) ราคาใบละ 250 HKD สามารถใช้ MTR ได้ฟรีถึง 3 วัน (นับตั้งแต่เริ่มใช้งาน) ยกเว้น สายสีฟ้า(East rail line), สายสีม่วงอ่อน(West rail line), แล้วก็สายสีน้ำตาล (Ma on shan line) ซึ่งเมื่อคืนบัตรแล้วจะได้รับเงินคืน 50 HKD (สามารถเติมเงินได้เหมือนบัตรปลาหมึกเลยค่ะใช้ไม่หมดสามารถคืนได้) ลืมถ่ายรูปอีกแล้วว เสียใจ

พอนั่ง Airport Express มาถึงสถานีเกาลูน เดินออกมาเรื่อยๆ จะเจอป้ายติดที่ลิฟต์ว่า Free Shuttle Bus ขึ้นลิฟต์นั้นไปเลยค่ะ (ไม่แน่ใจว่าจำถูกมั้ย แต่มีคำว่าฟรี ชัวร์ๆค่ะ 5555) ไปถึงเพื่อนๆ ลองเช็คดูนะคะว่าโรงแรมหรือที่พักอยู่ใกล้ที่ไหนบ้าง ขึ้นสายนั้นได้เลย ฟรี นะคะ มีทั้งหมด 5 สาย K1, K2, K3, K4, และ K5 โชคดีที่โรงแรมที่จองไว้สามารถนั่งสาย K5 แล้วไปถึงหน้าโรงแรมเลย

ไปถึงโรงแรมก็เช็คอิน และจ่ายมัดจำ 500 HKD รับคีย์การ์ด และขึ้นห้อง ห้องค่อนข้างสะอาด แต่แคบมากก ขนาดประมาณ 14 ตร.ม. แต่ถือว่าไม่น่าแปลกสำหรับที่ฮ่องกง และเทียบกับราคาถือว่าค่อนข้างดีค่ะ โรงแรมที่เราพักชื่อว่า Dorsett Mong Kok Hotel นะคะ มี Wifi, ที่แปลงปลั๊ก บริการค่ะ แต่ที่แปลงปลั๊กนี่มีอันเดียวนะคะ ถือปลั๊กพ่วงไปก็ดี (มดกับเพื่อนมีปลั๊กพ่วงไปอันนึง ไม่ต้องแย่งกันเลย)

หลังจากเก็บของเสร็จก็ต้องออกไปหาของกินซักหน่อย ที่โรงแรมมีบริการรถ Shuttle bus ไปส่งตามจุดต่างๆ ออกทุกๆ 1 ชม. วันนี้เราสองคนจะออกไปเที่ยว Ladies market ค่ะ ลงรถที่ใกล้ๆ สถานีมงก๊ก แล้วถามทางไปเรื่อยๆ จนเจอ ตลาดนี้จะขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ สำหรับผู้หญิงและแถวๆ นั้นจะมีร้านรองเท้าเยอะมาก Nike, Adidas etc. หลายร้านมาก ราคาถูกกว่าที่ไทยเล็กน้อยค่ะ

มื้อแรกของวัน มาเจอร้านลุง เห็นแล้วอยากกินเลยชี้ๆ เอา ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร มีลูกชิ้นต้มอยู่ในน้ำซุปอะไรซักอย่าง มีแบบเผ็ดกับไม่เผ็ดนะคะ มดเลือกแบบเผ็ดแต่จริงๆ ก็ไม่เผ็ดเท่าไหร่ เผ็ดนิดๆ หน่อยๆ แล้วหนวดหมึก (ซื้อเพิ่ม)  อร่อยมากก ชอบสุดๆ รสชาติออกเค็มๆ กลมกล่อมดีค่ะ มีกลิ่นเปลือกส้มนิดหน่อย อร่อยยยยย ราคา 35 HKD ราคาขึ้นอยู่กับการใส่ปลาหมึกด้วยค่ะตอนนั้นหิวจัดเลยเพิ่ม 2 ไม้

กินร้านลุงไม่อิ่ม ก็ต้องหาร้านต่อไป 555555 เดินเลยจากร้านลุงมานิดนึงเจอร้านนี้ ที่สั่งเป็นเหมือนก๋วยเตี๋ยว แต่เส้นใส เส้นจะมีความเหนียวอร่อยเลยล่ะ น้ำซุปอ่อนๆ แต่มีรสชาติกลมกล่อมดีค่ะ เค้าบอกว่าเผ็ด แต่กินจนหมดลิ้นก็ไม่มีความรู้สึกนั้นเลย ราคาประมาณ 35 HKD พิกัดของทั้งสองร้านอยู่ใกล้ๆร้าน H&M นะคะ



Day 2
เช้าวันนี้ เรามีแพลนไป Victoria peak ค่ะ เดินไปทานอาหารเช้า ฝั่งตรงข้ามซักหน่อย มื้อเช้า โจ๊ก Congee กับอะไรไม่แน่ใจ 5555 คือชี้ๆ เอาอ่านไม่ออก (ร้านเก่าแก่จะพูดอังกฤษไม่ค่อยได้นะคะ แต่ฟังจีนกลางได้ พูดได้บ้างไม่ได้บ้าง) รสชาติของโจ๊กจืดๆ หน่อย แต่ถือว่าใช้ได้ค่ะ และที่เป็นสีเหลี่ยมขาวๆ ที่โรยไว้เป็นกุ้ง ส่วนขาวๆนั้นไม่แน่ใจว่าคืออะไร ทานพร้อมกันอร่อยดีนะคะ ราคาจำไม่ได้แต่จำได้ว่าสั่ง Congee 2 กับ สี่เหลี่ยมๆ 1 ราคารวมกันประมาณ 70 HKD

พอทานข้าวเสร็จก็ไปนั่งรถโรงแรม เริ่มที่สถานีมงก๊กนั่ง MTR ไปลงที่สถานี Central จากนั้นเดินออกไปที่ Exit J2 เราเปิด GPS แล้ว GPS บอกให้เดินไปที่ The Peak Tram ซึ่งถ้าเดินไม่ผิดทางจะสามารถเดินลัดเลาะไปได้ เดินไปประมาณ 15 นาที (แต่ แต่ เราเดินผิด จึงไม่ขออธิบายวิธีการเดิน 55555 เดินวนไปวนมา ถามคนนั้นคนนี้ สุดท้ายได้ไปขึ้นรถสาย 15C เพื่อไป The Peak Tram)

เมื่อถึง The Peak Tram เราก็ยื่นบัตรที่ได้จองจากที่ไทยให้พนักงานดู เดินไปต่อแถวรอขึ้นรถรางได้เลยค่ะ ไม่ต้องต่อแถวซื้อบัตร ตอนไปคนที่ต่อแถวขึ้นรถไม่ค่อยเยอะเราก็เลยได้ขึ้นเลย นั่งไม่เบียดกันด้วย สบายยยย (แนะนำซื้อบัตรจากไทยนะคะ เพราะแถวยาวมาก) พอรถรางถึงแล้วจุดจอดแล้วก็เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปจนถึงชั้นบนสุดเลยค่ะ

.....ท๊า ด๊าาา ถึงแล้วค่ะ วิวที่สวยที่สุดในฮ่องกง วิวสวยมากกก ร้อนแค่ไหนก็ไม่ผิดหวัง ตอนไปถึงนี่เที่ยงพอดีร้อนมากกก อุณหภูมิสูงสุดน่าจะ 34-36 องศาเซลเซียส แนะนำไปตอนเช้า หรือไม่ก็เย็นนะคะ ตอนเที่ยงๆ ต้องหยีตาดูวิว (เราตื่นสายยเอง โทษใครไม่ได้ จริงๆ แพลนไว้จะไปถึง 10 โมงเช้า)

หลังจากลงจาก The Peak ก็กลับไปโรงแรมค่ะ รู้สึกเป็นไข้แดด เลยกลับไปนอน ห้าโมงเย็นค่อยออกมาไปที่ ซิมซาจุ่ย โดยการนั่งรถโรงแรมออกมาแล้วไปลงป้ายใกล้ๆ ซิมซาจุ่ย แล้วเดินต่อนิดหน่อยก็ถึงค่ะ ย่านนี้จะเป็นแหล่งช๊อปปิ้งเลยนะคะ ร้านเครื่องสำอาง แบรนด์เนม หรือห้าง ต่างรวมกันอยู่ตรงนี้ เดินช๊อปไปค่ะ ร้าน Sasa อยู่ทุกที่จริงๆ แหล่วงรวมเครื่องสำอาง และน้ำหอม ลองแวะเข้าไปดู CK ถูกมากกกก ย่านนี้ก็ไม่ได้ถ่ายรูปอีก เดินอย่างว่องง เข้าร้านนู้น ออกร้านนี้ แฮปปปปี้

พอทุ่มครึ่งเราก็เปิด GPS หาทางไปดู Symphony of light ซึ่งเราอยู่ใกล้กับป้ายรถบัส เลยนั่งรถบัสไปลงที่ East Tsim Sha Tsui เดินข้ามไปเลยค่าาา อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วว คนเยอะพอสมควรค่ะกำลังนั่งรอดู ถึงสองทุ่มการแสดงก็เริ่มต้นขึ้นค่ะ จะบอกว่าปรับกล้องผิดสว่างมากกก ถ่ายมาแค่รูปเดียวด้วย ฮือออ อย่าเพิ่งด่านะคะ
ช่วงที่แสดงเงียบมากๆ ไม่มีเสียงเพลง เลยยย มีแต่เสียงลม กับเสียงคนคุยกัน แต่ก็ดูจนจบ

>>>กำลังเพลินเลยข้อความเกินซะละ เดี๋ยวมาต่อในคอมเม้นต์นะคะ<<<
ชื่อสินค้า:   เที่ยวฮ่องกง 4 วัน 3 คืน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่