สวัสดีค่าสาวๆ เข้าหน้าฝนแล้วเป็นยังไงกันบ้างคะ ไม่นานมานี้ผึ้งได้เห็นข่าวการอภิเษกสมรสของเจ้าชายแฮรี่ และได้เห็นเมคอัพลุคของดัชเชสเมแกน แล้วก็รู้สึกว่าเป็นความเรียบหรูที่งดงามเลอค่ามากกกก ผึ้งจึงอยากลองทำฮาวทูเจ้าสาวท้าฝน โดยมีอินสไปเรชั่นจากดัชเชสเมแกนดูค่ะ มารับชมไปพร้อมๆ กันเลยนะคะ
นี่เป็นเครื่องสำอางค์ที่ผึ้งใช้แต่งลุคนี้ค่ะ
มาดูหน้าสดกันก่อนเลย...คิ้วบางเหมือนพึ่งไปบวชสามเณรภาคฤดูร้อนมา
วันแต่งงานเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในชีวิตลูกผู้หญิงเรานะคะ และยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนด้วยแล้ว เราจึงต้องใส่ใจกับการเตรียมผิวเป็นพิเศษ โดยผึ้งจะเตรียมผิวโดยใช้ไพเมอร์ beyond veil อันโด่งดังจาก illamasqua เพราะไพเมอร์ที่ดีนั้นจะช่วยให้เมคอัพของเราดูโดดเด่นและติดทนยิ่งขึ้น โดยเจ้า beyond veil ตัวนี้จะเป็นไพเมอร์สีแชมเปญที่มีชิมเมอร์ละเอียดๆ ช่วยกระจายแสงได้ดี ให้ผิวออร่าเบา ๆ และยังช่วยเบลอรูขุมขนของเรา ให้ผิวของเรานั้นดูเรียบเนียนอิ่มน้ำ เปล่งปลั่งสุขภาพดี โดยผึ้งใช้ในปริมาณเพียง 1 ตักเท่านั้น ก่อนใช้ผึ้งจะวอร์มที่หลังมือก่อนและนวดวนบริเวณ จมูก หน้าแก้ม คาง ระหว่างคิ้ว ซึ่งเป็นจุดที่รูขุมขนกว้างและมีความมันออกมามากกว่าจุดอื่น หลังทาไพเมอร์แล้วจะรู้สึกเหมือนมีฟิล์มบางๆ เคลือบอยู่บนผิวหน้าของเราอยู่ ทำให้เมคอัพที่จะลงต่อไปนั้นไม่เข้าไปอุดตันรูขุมขน เนื้อเบามากไม่ได้ทำให้รู้สึกหนักหน้าเลยค่ะ ซึ่งผึ้งเป็นคนที่เป็นสิวอุดตันง่ายมากแต่ได้ใช้เจ้าตัวนี้ก็รู้สึกสบายหายห่วง ไม่กลัวการอุดตันแล้วค่ะ
ยังค่ะยังไม่จบกับการเตรียมผิว ขั้นตอนต่อมานะคะ ผึ้งลงรองพื้นของ l’oreal true match ด้วยแปรงนะคะ เพราะผึ้งอยากได้ลุคที่เป็นงานผิวธรรมชาติๆ แบบดัชเชสเมแกน แต่ก็ทำใจไม่ได้กับใต้ตาที่ดำคล้ำเหลือเกิน เลยต้องลงคอนซีลเลอร์กลบใต้ตาเสียหน่อย ด้วย sola primer teint concealer ซึ่งเจ้าคอนซีลเลอร์ตัวนี้จะมีเนื้อที่ค่อนข้างเหลวไม่หนักมาก ทำให้เวลาเรานำมากลบแพนด้าใต้ตาแล้วก็จะไม่ตกร่องหรือจับเป็นก้อน โดยผึ้งเลือกใช้สีสว่างกว่าผิวของผึ้งนะคะ ซึ่งแม้ว่าเจ้าคอนซีลเลอร์ตัวนี้จะไม่ได้ให้การปกปิดอะไรมาก แต่ก็ให้ลุคที่เป็นธรรมชาติค่ะ
มาต่อด้วยการลงแป้งนะคะ ผึ้งใช้แป้งผสมรองพื้นของ illamasqua ซึ่งเป็นแป้งเนื้อละเอียดมาก ปกปิดได้ดีมากๆ และไม่หมองระหว่างวันแน่นอน ยิ่งตอนออกบ้านเหงื่อออกแป้งเซ็ตตัวเข้ากับผิวแล้วก็ค้นพบว่านอกจากไม่หมองลงแล้ว ผิวหน้ายังบริ๊งค์ขึ้นอีกค่ะ ได้อารมณ์หน้ายิ่งมัน ผิวยิ่งออร่า รักเลยแป้งแบรนด์นี้ ผึ้งลงแป้งโดยการใช้แปรงค่ะ เพราะอยากได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติไม่ได้เน้นการปกปิดมาก แต่หากสาวๆ คนไหนอยากได้การปกปิดระดับ full coverage แบบไม่ต้องง้อรองพื้น เจ้าแป้งด้วยนี้ก็สามารถบันดาลให้ได้นะคะ เพียงแค่เราเปลี่ยนจากการลงแป้งด้วยแปรงมาลงแป้งด้วยพัฟที่ชุบน้ำหมาดๆ แทน เพียงเท่านี้สาวๆ ก็ไม่ต้องเปลืองเงินไปซื้อแป้งหลายๆ ตลับแล้วค่ะ
มาถึงการเขียนคิ้วนะคะ เป็นสิ่งที่ผึ้งหนักใจมากว่าชาตินี้ยังไงๆ คิ้วก็คงไม่เหมือนดัชเชสเมแกน เพราะบุญคงน้อยขนคิ้วเลยน้อยตาม ผึ้งเลยเขียนคิ้วตามทรงคิ้วของผึ้งค่ะ
Step 1 : ร่างโครงคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วจาก sweetheart เจ้าตัวนี้เนี่ยเป็นลูกรักของผึ้งเลย ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปแต่ทุกคนจะเห็นว่าผึ้งไม่เคยเปลี่ยนดินสอเขียนคิ้วเลยค่ะ เพราะหลงรักในความถูกและดีของนาง
Step 2 : ลงสีคิ้วด้วยที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นจาก canmake รุ่น natural chiffon eyebrow โดยไล่สีจากอ่อนที่หัวคิ้วไปเข้มสุดที่หางคิ้ว เพื่อคิ้วของเราจะได้ดูมีมิติไม่เป็นแท่งค่ะ
Step 3 : จัดทรงคิ้วด้วยมาสคาร่าแบบใสจาก etudy รุ่น oh! m’ eye lash โดยปัดให้ขนคิ้วช่วงหัวคิ้วตั้งๆ ส่วนที่เหลือปัดทางทรงคิ้วเลยค่ะ
ต่อไปจะเป็นขั้นตอนการแต่งตานะคะ ผึ้งจะใช้พาเลตแต่งตา Nubian palette by juvia’s place ค่ะ
โดยผึ้งจะแต่งตาโทนสีน้ำตาลๆ ธรรมชาติๆ มาแต่งตามไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
Step 1 : ลงสีที่ 1 ซึ่งเป็นสีที่มีชิมเมอร์บริเวณหัวตาถึงกลางตาค่ะ
Step 2 : ลงสีที่ 2 ซึ่งเป็นสีน้ำตาลอ่อนที่บริเวณกลางตาถึงหางตาค่ะ
Step 3 : ลงสี่ที่ 3 ซึ่งเป็นสีน้ำตาลเข้มเป็นสามเหลี่ยมเล็กๆ ที่บริเวณหางตาดังภาพค่ะ
Step 4 : มาเริ่มการแต่งใต้ตาโดยการใช้สีที่ 1 ลงบริเวณหัวตาถึงกลางตาล่างค่ะ จากนั้นใช้สีที่ 3 ลงบริเวณกลางตาล่างถึงหางตาล่างค่ะ
****อย่าลืมเบลนสีตาให้เข้ากันนะคะสาวๆ****
หลังจากแต่งตาเสร็จแล้ว ผึ้งใช้อายไลเนอร์ชนิดดินสอจาก kate ในการเขียนขอบตาให้ดำสนิทโดยที่เขียนมาถึงขอบตาล่างเล็กน้อย จากนั้นก็ดัดขนตาและติดขนตาเบอร์สะพรึงทั้งบนและล่าง ให้ตาแลดูคมเข้มน่าค้นหาแบบดัชเชสเมแกน จากนั้นก็ปัดมาสคาร่าจาก l’oreal miss manga ให้ขนตาจริงกับขนตาปลอมเข้ากัน โดยเจ้ามาสคาร่ารุ่นนี้ก็เป็นรุ่นกันน้ำ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าสาวหน้าฝนอย่างเราพร้อมรับทุกสถานะการค่ะ
มาสร้างมิติให้กับใบหน้าของเราด้วยบรอนเซอร์จาก benefit hoola โดยใช้แปรงปัดบรอนเซอร์ตามในภาพได้เลยนะคะ โดยผึ้งจะปัดไปถึงลำคอเลยนะคะ เจ้า benefit hoola เนี่ยเป็นบรอนเซอร์เนื้อแมต ที่ทั้งสีนัว ทั้งติดทน และกลิ่นก็หอมด้วยค่ะ
มาแต่งแต้มสีสันให้ใบหน้ากันเถอะค่ะสาวๆ จะเห็นได้ว่าลุคของดัชเชสนั้นแก้มจะมีความระเรื่อ ธรรมชาติมากเวอร์ ผึ้งเลยจะลงบลัชออนสีหวานๆ เบาๆ โดยผึ้งจะเริ่มจากการลงบลัชออนแบบครีม illamasqua cream blusher สี promise แตะลงให้ทั่วพวงแก้ม ตอนนี้เจ้าตัวนี้เป็นบลัชออนที่ผึ้งกำลังชอบมากกก เพราะเนื้อเกลี่ยง่ายมาก ไม่เป็นคราบเลยค่ะ และบลัชออนแบบครีมนั้นจะให้ความเป็นธรรมชาติและติดทน แต่ยังไม่พอค่ะ ผึ้งใช้ powder blusher สี tremble ซึ่งเป็นสีที่ใกล้เคียงกับบลัชออนแบบครีมตัวแรกที่เราลงไปปัดทับลงไปที่พวงแก้มเบาๆ เพื่อความติดทนที่มากขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็น cream blusher หรือ powder blusher ผึ้งก็ใช้การแตะเพียงนิดเดียวก็ให้สีที่ชัดเจนดังที่เห็นในภาพแล้วค่ะ สวยคุ้มดีงามขนาดนี้ไม่มีไม่ได้แล้วนะคะสาวๆ เพราะในวันสำคัญของเรา เราไม่อาจรู้ได้ว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้าง ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนด้วยแล้วเราต้องยิ่งเตรียมตัวให้พร้อมเสมอเพราะเราเป็นเจ้าสาวที่สวยไม่กลัวฝนอยู่แล้ว
เพิ่มความโดดเด่นให้ใบหน้าของเราด้วยไฮไลท์จาก the balm ซึ่งเป็นประกายๆ สีทองอ่อนๆ เนื้อละเอียด ปัดแล้วไม่หลอกตาดูผู้ดีมากก โดยปัดตามภาพได้เลยนะคะสาวๆ
เดินทางมาถึงขั้นตอนสุดท้ายกันแล้ว ผึ้งเลือกใช้ลิปของ mac สี runway hit ซึ่งจะเป็นสีแบบนู้ดๆ เพราะอยากได้ลุคริมฝีปากธรรมชาติๆ แบบดัชเชส แต่สีในกล้องมันเพี้ยนไปหน่อยนะคะ
เป็นไงกับบ้างคะสาวๆ สำหรับลุคเจ้าสาวไม่กลัวฝนของผึ้ง อาจจะไม่เหมือนดัชเชสเมแกนซะทีเดียว แต่ผึ้งก็ได้อินสไปเรชั่นการแต่งลุคนี้มาจากดัชเชสแล้วเอามาปรับใช้เอาค่ะ เพียงเท่านี้เราก็พร้อมเป็นเจ้าสาวแล้ว ขาดอย่างเดียวคือเจ้าบ่าวนี่แหละค่ะ หายากจริงๆ
[How to] เจ้าสาวไม่กลัวฝน…กับเมคอัพสไตล์ Meghan Markle
นี่เป็นเครื่องสำอางค์ที่ผึ้งใช้แต่งลุคนี้ค่ะ
มาดูหน้าสดกันก่อนเลย...คิ้วบางเหมือนพึ่งไปบวชสามเณรภาคฤดูร้อนมา
วันแต่งงานเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในชีวิตลูกผู้หญิงเรานะคะ และยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนด้วยแล้ว เราจึงต้องใส่ใจกับการเตรียมผิวเป็นพิเศษ โดยผึ้งจะเตรียมผิวโดยใช้ไพเมอร์ beyond veil อันโด่งดังจาก illamasqua เพราะไพเมอร์ที่ดีนั้นจะช่วยให้เมคอัพของเราดูโดดเด่นและติดทนยิ่งขึ้น โดยเจ้า beyond veil ตัวนี้จะเป็นไพเมอร์สีแชมเปญที่มีชิมเมอร์ละเอียดๆ ช่วยกระจายแสงได้ดี ให้ผิวออร่าเบา ๆ และยังช่วยเบลอรูขุมขนของเรา ให้ผิวของเรานั้นดูเรียบเนียนอิ่มน้ำ เปล่งปลั่งสุขภาพดี โดยผึ้งใช้ในปริมาณเพียง 1 ตักเท่านั้น ก่อนใช้ผึ้งจะวอร์มที่หลังมือก่อนและนวดวนบริเวณ จมูก หน้าแก้ม คาง ระหว่างคิ้ว ซึ่งเป็นจุดที่รูขุมขนกว้างและมีความมันออกมามากกว่าจุดอื่น หลังทาไพเมอร์แล้วจะรู้สึกเหมือนมีฟิล์มบางๆ เคลือบอยู่บนผิวหน้าของเราอยู่ ทำให้เมคอัพที่จะลงต่อไปนั้นไม่เข้าไปอุดตันรูขุมขน เนื้อเบามากไม่ได้ทำให้รู้สึกหนักหน้าเลยค่ะ ซึ่งผึ้งเป็นคนที่เป็นสิวอุดตันง่ายมากแต่ได้ใช้เจ้าตัวนี้ก็รู้สึกสบายหายห่วง ไม่กลัวการอุดตันแล้วค่ะ
ยังค่ะยังไม่จบกับการเตรียมผิว ขั้นตอนต่อมานะคะ ผึ้งลงรองพื้นของ l’oreal true match ด้วยแปรงนะคะ เพราะผึ้งอยากได้ลุคที่เป็นงานผิวธรรมชาติๆ แบบดัชเชสเมแกน แต่ก็ทำใจไม่ได้กับใต้ตาที่ดำคล้ำเหลือเกิน เลยต้องลงคอนซีลเลอร์กลบใต้ตาเสียหน่อย ด้วย sola primer teint concealer ซึ่งเจ้าคอนซีลเลอร์ตัวนี้จะมีเนื้อที่ค่อนข้างเหลวไม่หนักมาก ทำให้เวลาเรานำมากลบแพนด้าใต้ตาแล้วก็จะไม่ตกร่องหรือจับเป็นก้อน โดยผึ้งเลือกใช้สีสว่างกว่าผิวของผึ้งนะคะ ซึ่งแม้ว่าเจ้าคอนซีลเลอร์ตัวนี้จะไม่ได้ให้การปกปิดอะไรมาก แต่ก็ให้ลุคที่เป็นธรรมชาติค่ะ
มาต่อด้วยการลงแป้งนะคะ ผึ้งใช้แป้งผสมรองพื้นของ illamasqua ซึ่งเป็นแป้งเนื้อละเอียดมาก ปกปิดได้ดีมากๆ และไม่หมองระหว่างวันแน่นอน ยิ่งตอนออกบ้านเหงื่อออกแป้งเซ็ตตัวเข้ากับผิวแล้วก็ค้นพบว่านอกจากไม่หมองลงแล้ว ผิวหน้ายังบริ๊งค์ขึ้นอีกค่ะ ได้อารมณ์หน้ายิ่งมัน ผิวยิ่งออร่า รักเลยแป้งแบรนด์นี้ ผึ้งลงแป้งโดยการใช้แปรงค่ะ เพราะอยากได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติไม่ได้เน้นการปกปิดมาก แต่หากสาวๆ คนไหนอยากได้การปกปิดระดับ full coverage แบบไม่ต้องง้อรองพื้น เจ้าแป้งด้วยนี้ก็สามารถบันดาลให้ได้นะคะ เพียงแค่เราเปลี่ยนจากการลงแป้งด้วยแปรงมาลงแป้งด้วยพัฟที่ชุบน้ำหมาดๆ แทน เพียงเท่านี้สาวๆ ก็ไม่ต้องเปลืองเงินไปซื้อแป้งหลายๆ ตลับแล้วค่ะ
มาถึงการเขียนคิ้วนะคะ เป็นสิ่งที่ผึ้งหนักใจมากว่าชาตินี้ยังไงๆ คิ้วก็คงไม่เหมือนดัชเชสเมแกน เพราะบุญคงน้อยขนคิ้วเลยน้อยตาม ผึ้งเลยเขียนคิ้วตามทรงคิ้วของผึ้งค่ะ
Step 1 : ร่างโครงคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วจาก sweetheart เจ้าตัวนี้เนี่ยเป็นลูกรักของผึ้งเลย ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปแต่ทุกคนจะเห็นว่าผึ้งไม่เคยเปลี่ยนดินสอเขียนคิ้วเลยค่ะ เพราะหลงรักในความถูกและดีของนาง
Step 2 : ลงสีคิ้วด้วยที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นจาก canmake รุ่น natural chiffon eyebrow โดยไล่สีจากอ่อนที่หัวคิ้วไปเข้มสุดที่หางคิ้ว เพื่อคิ้วของเราจะได้ดูมีมิติไม่เป็นแท่งค่ะ
Step 3 : จัดทรงคิ้วด้วยมาสคาร่าแบบใสจาก etudy รุ่น oh! m’ eye lash โดยปัดให้ขนคิ้วช่วงหัวคิ้วตั้งๆ ส่วนที่เหลือปัดทางทรงคิ้วเลยค่ะ
ต่อไปจะเป็นขั้นตอนการแต่งตานะคะ ผึ้งจะใช้พาเลตแต่งตา Nubian palette by juvia’s place ค่ะ
โดยผึ้งจะแต่งตาโทนสีน้ำตาลๆ ธรรมชาติๆ มาแต่งตามไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
Step 1 : ลงสีที่ 1 ซึ่งเป็นสีที่มีชิมเมอร์บริเวณหัวตาถึงกลางตาค่ะ
Step 2 : ลงสีที่ 2 ซึ่งเป็นสีน้ำตาลอ่อนที่บริเวณกลางตาถึงหางตาค่ะ
Step 3 : ลงสี่ที่ 3 ซึ่งเป็นสีน้ำตาลเข้มเป็นสามเหลี่ยมเล็กๆ ที่บริเวณหางตาดังภาพค่ะ
Step 4 : มาเริ่มการแต่งใต้ตาโดยการใช้สีที่ 1 ลงบริเวณหัวตาถึงกลางตาล่างค่ะ จากนั้นใช้สีที่ 3 ลงบริเวณกลางตาล่างถึงหางตาล่างค่ะ
****อย่าลืมเบลนสีตาให้เข้ากันนะคะสาวๆ****
หลังจากแต่งตาเสร็จแล้ว ผึ้งใช้อายไลเนอร์ชนิดดินสอจาก kate ในการเขียนขอบตาให้ดำสนิทโดยที่เขียนมาถึงขอบตาล่างเล็กน้อย จากนั้นก็ดัดขนตาและติดขนตาเบอร์สะพรึงทั้งบนและล่าง ให้ตาแลดูคมเข้มน่าค้นหาแบบดัชเชสเมแกน จากนั้นก็ปัดมาสคาร่าจาก l’oreal miss manga ให้ขนตาจริงกับขนตาปลอมเข้ากัน โดยเจ้ามาสคาร่ารุ่นนี้ก็เป็นรุ่นกันน้ำ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าสาวหน้าฝนอย่างเราพร้อมรับทุกสถานะการค่ะ
มาสร้างมิติให้กับใบหน้าของเราด้วยบรอนเซอร์จาก benefit hoola โดยใช้แปรงปัดบรอนเซอร์ตามในภาพได้เลยนะคะ โดยผึ้งจะปัดไปถึงลำคอเลยนะคะ เจ้า benefit hoola เนี่ยเป็นบรอนเซอร์เนื้อแมต ที่ทั้งสีนัว ทั้งติดทน และกลิ่นก็หอมด้วยค่ะ
มาแต่งแต้มสีสันให้ใบหน้ากันเถอะค่ะสาวๆ จะเห็นได้ว่าลุคของดัชเชสนั้นแก้มจะมีความระเรื่อ ธรรมชาติมากเวอร์ ผึ้งเลยจะลงบลัชออนสีหวานๆ เบาๆ โดยผึ้งจะเริ่มจากการลงบลัชออนแบบครีม illamasqua cream blusher สี promise แตะลงให้ทั่วพวงแก้ม ตอนนี้เจ้าตัวนี้เป็นบลัชออนที่ผึ้งกำลังชอบมากกก เพราะเนื้อเกลี่ยง่ายมาก ไม่เป็นคราบเลยค่ะ และบลัชออนแบบครีมนั้นจะให้ความเป็นธรรมชาติและติดทน แต่ยังไม่พอค่ะ ผึ้งใช้ powder blusher สี tremble ซึ่งเป็นสีที่ใกล้เคียงกับบลัชออนแบบครีมตัวแรกที่เราลงไปปัดทับลงไปที่พวงแก้มเบาๆ เพื่อความติดทนที่มากขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็น cream blusher หรือ powder blusher ผึ้งก็ใช้การแตะเพียงนิดเดียวก็ให้สีที่ชัดเจนดังที่เห็นในภาพแล้วค่ะ สวยคุ้มดีงามขนาดนี้ไม่มีไม่ได้แล้วนะคะสาวๆ เพราะในวันสำคัญของเรา เราไม่อาจรู้ได้ว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้าง ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนด้วยแล้วเราต้องยิ่งเตรียมตัวให้พร้อมเสมอเพราะเราเป็นเจ้าสาวที่สวยไม่กลัวฝนอยู่แล้ว
เพิ่มความโดดเด่นให้ใบหน้าของเราด้วยไฮไลท์จาก the balm ซึ่งเป็นประกายๆ สีทองอ่อนๆ เนื้อละเอียด ปัดแล้วไม่หลอกตาดูผู้ดีมากก โดยปัดตามภาพได้เลยนะคะสาวๆ
เดินทางมาถึงขั้นตอนสุดท้ายกันแล้ว ผึ้งเลือกใช้ลิปของ mac สี runway hit ซึ่งจะเป็นสีแบบนู้ดๆ เพราะอยากได้ลุคริมฝีปากธรรมชาติๆ แบบดัชเชส แต่สีในกล้องมันเพี้ยนไปหน่อยนะคะ
เป็นไงกับบ้างคะสาวๆ สำหรับลุคเจ้าสาวไม่กลัวฝนของผึ้ง อาจจะไม่เหมือนดัชเชสเมแกนซะทีเดียว แต่ผึ้งก็ได้อินสไปเรชั่นการแต่งลุคนี้มาจากดัชเชสแล้วเอามาปรับใช้เอาค่ะ เพียงเท่านี้เราก็พร้อมเป็นเจ้าสาวแล้ว ขาดอย่างเดียวคือเจ้าบ่าวนี่แหละค่ะ หายากจริงๆ