สวัสดีค่ะ

เมื่อวานลูกชายบ่นปวดหูมากตอนหนึ่งทุ่มกว่าๆ เลยตัดสินใจพาไปร.พ.ที่มีหมอตลอด 24 ช.ม. ย่านฝั่งธนฯ  คุณหมอแจ้งว่าหูอักเสบให้กินยาแก้อักเสบ โดยคุณหมอน่ารักมากเห็นลูกเรามีอาการหวัดร่วมด้วยจึงถามว่ามียาลดน้ำมูกกับยาแก้ไอหรือยัง  เราแจ้งว่ามีแล้ว คุณหมอเลยไม่สั่งยาให้  ให้เพียงแค่ยาแก้อักเสบเท่านั้น

ระหว่างที่เรานั่งรอจ่ายเงิน เรานั่งชมคุณหมอให้ลูกฟังว่าให้หมอไม่สั่งยาที่เรามีอยู่แล้วให้  ใจดีมากๆ  เราก็นั่งลุ้นว่าวันนี้จะหมดค่ารักษาเท่าไร เพราะเราไปถึงคุณหมอก็ 2 ทุ่มกว่าๆ น่าจะมีค่าแพทย์ที่แพงกว่าปกติเพราะเลยเวลามาตรฐาน  พอจนท.เรียกไปจ่ายเงิน  จนท.แจ้งเราว่าค่าใช้จ่าย 2800 กว่าบาท  เราแอบตกใจมาก แต่ก็จ่ายไป  พอได้ใบเสร็จมาเห็นค่าแพทย์แค่ 500 บาท  ค่ายา 2,150 บาท  แอบคิดในใจว่าคิดค่ายาผิดไหมนี้แค่ยาอย่างเดียวเอง  พอเภสัชจ่ายยาให้เราเลยถามว่ายาตัวนี้แพงมากเลยเหรอคะ  เภสัชตอบว่าใช่ขวดหนึ่งประมาณ 1,000 บาท  ลูกเราต้องกิน 2 ขวด  (AUGMENTIN ES 50ml)  เราเลยรับยามาแบบเซ็งๆ แล้วกลับบ้าน

พอช่วงเช้าเจอเพื่อนเลยเล่าให้เขาฟัง เขาบอกว่ายานี้แพง ถ้าซื้อร้านขายส่ง 550 บาท  ร้านทั่วไปน่าจะ 700 กว่าบาท  เราเลยตกใจว่าถ้าร.พ.ซื้อจากร้านขายส่ง (ซึ่งคงไม่ใช่ น่าจะได้ราคาถูกกว่าอีก)  ก็คือร.พ.เอากำไรค่ายาประมาณ 100% ซึ่งเราว่าธุรกิจที่คิดกำไรขนาดนี้โหดมาก  ทั้งๆที่ในใบเสร็จก็มีเก็บค่าบริการโรงพยาบาลด้วย  คราวหน้าถ้าคุณหมอสั่งยาตัวนี้อีก จะบอกตามตรงเลยค่ะ ว่าขอไปซื้อเองข้างนอก

เราสงสัยว่าไม่มีกฎหมายอะไรควบคุมราคายาในโรงพยาบาลเลยเหรอคะ