สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ไร้สาระ
จริงๆ มันอยู่ที่ผู้บริโภคจะเลือกครับ
กสทช บังคับแค่ให้มีโปรแบบคิดเป็นวินาทีเพื่อเป็นทางเลือก
ไม่ได้บังคับให้ยกเลิกโปรเหมาจ่ายคิดเป็นนาที
ซึ่งโปรแบบเหมาจ่าย ถ้าคุยยาวๆ มันถูกและคุ้มกว่าโปรวินาทีซะอีก
แต่ถ้าวันไหนไม่อยากคุย ก็ไปใช้โปรคิดเป็นวินาทีแทน
คนกลุ่มนี้ อย่าเอาความคิดตัวเองไปตัดสินคนอื่นเลย
เขาเลิอกโปรที่เหมาะสมกับตนเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาเลือกแทน
ควรเอาเวลาไปฟ้องร้องเรื่อง SMS กินตังดีกว่า
เรื่องนี้เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคชัดเจน
จริงๆ มันอยู่ที่ผู้บริโภคจะเลือกครับ
กสทช บังคับแค่ให้มีโปรแบบคิดเป็นวินาทีเพื่อเป็นทางเลือก
ไม่ได้บังคับให้ยกเลิกโปรเหมาจ่ายคิดเป็นนาที
ซึ่งโปรแบบเหมาจ่าย ถ้าคุยยาวๆ มันถูกและคุ้มกว่าโปรวินาทีซะอีก
แต่ถ้าวันไหนไม่อยากคุย ก็ไปใช้โปรคิดเป็นวินาทีแทน
คนกลุ่มนี้ อย่าเอาความคิดตัวเองไปตัดสินคนอื่นเลย
เขาเลิอกโปรที่เหมาะสมกับตนเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาเลือกแทน
ควรเอาเวลาไปฟ้องร้องเรื่อง SMS กินตังดีกว่า
เรื่องนี้เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคชัดเจน
แสดงความคิดเห็น
กลุ่มผู้บริโภครวมพลังยื่นฟ้อง 3 บริษัทโทรคมนาคมของไทยเป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท แก้โกงปัดเศษวินาที
Source : https://www.prachachat.net/general/news-170452
โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกับ คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) โดย ผศ.รุจน์ โกมลบุตร ประธานอนุกรรมการ คอบช.ได้กล่าวว่า ค่ายบริการโทรศัพท์คิดบริการแบบปัดเศษคือ หากมีการโทรเป็นระยะเวลา 1.01 นาที จะปัดเศษเป็น 2 นาที ทำให้ผู้บริโภคเสียหาย #ถูกเอาเปรียบจากการไม่คิดค่าบริการตามจริง
ด้าน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า #การคิดค่าโทรแบบปรับเศษเป็นปัญหาของผู้บริโภคมาหลายปี #แต่ยังไม่มีการแก้ไขให้คิดค่าบริการตามจริงได้ จึงเกิดการยื่นฟ้องศาลจำนวน 3 คดี จำเลยคือค่ายโทรศัพท์ทั้ง 3 ราย คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค
"#คดีนี้มีหลักฐานชัดเจน เนื่องจากการมีคำสั่ง กสทช.ออกมา เรื่องการคิดค่าบริการที่ไม่ตรงไปตรงมา เชื่อได้ว่าทั้ง 3 ค่ายคิดค่าบริการเกินจริง ฉะนั้น ต้องคืนค่าบริการเหล่านั้นแก่โจทก์และสมาชิกกลุ่ม โดยดูจากคำขอท้ายฟ้องและต้องคืนให้สมาชิกกลุ่มที่ใช้บริการแบบรายเดือนและเติมเงินในจำนวนเท่ากัน โดยขอให้ศาลพิพากษาเชิงลงโทษ คิดค่าเสียหายเป็นจำนวน 5 เท่าจากที่เรียกร้อง #เนื่องจากกรณีนี้มีการเอาเปรียบผู้บริโภคตั้งแต่แรก" ว่าที่ร้อยตรีสมชาย อามีน นายกสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า #การฟ้องคดีแบบกลุ่มเป็นการอำนวยความยุติธรรมแบบทั่วถึง #ผลทางคดีออกมาครั้งเดียวสามารถใช้ได้ทั้งประเทศ #วัตถุประสงค์ที่สำคัญของกฎหมายนี้ก็เพื่อป้องปรามผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่สุจริต อาจต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวนมากจากการถูกฟ้อง โดยหากศาลให้จ่ายค่าเสียหายซึ่งทั้ง 3 ค่ายโทรศัพท์นี้มีผู้ใช้บริการกว่า 90 ล้านเลขหมาย ฉะนั้น ต้องจ่ายคืนผู้บริโภคไม่น้อยกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท.