บทเรียนจากการบริการกับธนาคารยูโอบี

ขอนำประสบการณ์ของตัวเองมาเล่าสู่กันฟังแล้วกันนะครับ
เมื่อ 3 ปีที่แล้วธนาคารยูโอบีโทรมาชวนให้ทำบัตรเครดิต เห็นว่าไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีก็เลยทำไป ทำมาได้ 2 ปีเพิ่งจะมีโอกาสได้ใช้บัตรครั้งแรกและพบว่าตอนชำระเงินมีความยุ่งยากเพราะธนาคารไม่มีสาขาในจังหวัดที่ผมอยู่ เลยตัดสินใจไปเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่สาขาในจังหวัดใกล้เคียงเผื่อไว้ใช้หักบัญชีเวลาใช้บัตรเครดิต แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้ใช้บริการของธนาคารอีกเลย จนเมื่อวานนี้ผมได้รับจดหมายเตือนจากธนาคารว่าบัญชีเงินฝากของผมนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวเกิน 1 ปีและมีเงินคงเหลือน้อยกว่า 5,000 บาท ทำให้ธนาคารจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการรักษาบัญชีเงินฝากที่ไม่มีรายการเคลื่อนไหว 100 บาทต่อเดือน ผมก็พยายามจะโอนเงินเข้าบัญชีผ่าน net banking และทางตู้ ATM พบว่าไม่สามารถทำรายการได้ จึงโทรสอบถามทางธนาคารได้รับคำตอบว่ามีทางเดียวที่จะปลดล็อคได้คือผมต้องไปถอนเงินที่สาขาที่ผมเปิดบัญชีอยู่เท่านั้น ไม่สามารถใช้การฝากเงินเพื่อปลดล็อคตรงนี้ได้ ผมก็พยายามจะบอกว่าถ้าผมต้องขับรถไป 60 กม.เพื่อไปถอนเงินรู้สึกว่ามันลำบากเกินไป พอจะมีช่องทางอื่นหรือไม่ คำตอบคือไม่มี ผมเข้าใจนะครับว่ากฎเกณฑ์ของธนาคารเป็นเช่นนั้น แต่เสียความรู้สึกว่าถ้าจะทำจดหมายเตือนเรื่องบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว ทำไมธนาคารไม่ทำจดหมายเตือนก่อนที่จะเกิน 1 ปี ผมเปิดบัญชีออมทรัพย์วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2561 และผมได้รับจดหมายเตือนซึ่งลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2561 เตือนก่อนหน้านี้ซัก 1 สัปดาห์ไม่ได้หรือ ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าถ้าปล่อยให้บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเกิน 1 ปี ภาระและความยุ่งยากก็จะไปตกอยู่กับลูกค้าของธนาคารเอง สรุปคือก็ไม่ได้โต้เถียงอะไร บอกมาอย่างไรก็อย่างนั้น ก็คงจะหาเวลาขับรถไปติดต่อธนาคารสาขาที่เปิดบัญชีไว้ ไม่ได้ไปถอนแต่จะปิดบัญชีไปเลย และก็จะแจ้งยกเลิกบัตรเครดิตด้วย คิดว่าคงจะไม่ใช้บริการกับธนาคารนี้อีกต่อไปครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่