จากกรณีที่มีกระทู้ดราม่าการไปจับมือปูเป้ในงานจับมือซิง3ของBNK48 ผมได้อ่านความเห็นของบางคนจากกระทู้นั้นที่น่าคิดและอยากนำมาพูดคุยกับเพื่อนๆครับ ความเห็นที่ว่า คือ"การที่น้อง(ปูเป้)อารมณ์ไม่ดีเพราะมีคนไปกวนทรีนน้องเยอะรึเปล่า?"หรือ"โอตะบางคนสนุกจนล้ำเส้น ไม่ให้เกียรติน้อง"
ผมเป็นคามิโอชิปูเป้ที่ไม่ได้รับประสบการณ์การจับมือที่ดีกลับมาและรู้สึกเฟลเป็นอย่างมากทั้งๆที่เป็นครั้งแรกและรอคอยมานาน สิ่งที่ผมได้คือปูเป้หน้านิ่งและแทบจะไม่ยิ้มให้ผมเลย ผมเห็นด้วยกับคนที่บอกว่าปูเป้ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองและพัฒนาตัวเองในเรื่องปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆหรือโอตะมากกว่านี้ แต่ผมว่าจริงๆแล้วปูเป้เป็นคนนึงที่เฟรนลี่กับโอตะมากๆถึงแม้ว่าจะไม่ใช่โอตะที่โอชิตัวเองก็ตาม และไม่ใช่เพียงแค่ปูเป้เท่านั้นที่ผมไปจับมือแล้วได้รับประการณ์ที่ไม่ดีกลับมา ซัทจังก็เช่นกัน แทบไม่ต่างอะไรกับปูเป้เลย
ผมกำลังคิดว่าสาเหตุที่ในงานจับมือที่ผ่านมาปูเป้และซัทจังดูอารมณ์ไม่ดีหรือดูไม่เฟรนลี่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการกระทำของโอตะบางคนที่เข้าไปจับมือด้วยรึเปล่า? คำพูดหรือการกระทำของเราชาวโอตะมีอะไรไปกระทบจิตใจเมมเบอร์รึเปล่า? เช่น แซวเรื่องสิว,แซวเรื่องคิ้ว,แซวเรื่องอ้วน,กวนทรีนแบบต่อเนื่องและล้ำเส้น ในส่วนของปูเป้ผมคิดว่าเป็นเมมเบอร์ที่โดนกวนทรีนและพูดจาไม่ให้เกียรติเยอะที่สุดแล้วเพราะเป็นคนที่ดูธรรมชาติและดูเป็นกันเองมาก ในส่วนของซัทจังน้องพูดออกlive voov ว่าไม่ชอบที่มีคนมาทักว่าอ้วน ผมกำลังคิดว่าวันทั้งวันเมมเบอร์ต้องเจออะไรมาบ้างถึงได้กลายเป็นแบบนั้นก่อนมาเจอผม
ถ้าถามว่าใครผิด? ผมว่าผิดทั้งสองฝ่าย
ในส่วนของไอดอลเองก็ควรมีความความอดทนและภูมิคุ้มกันทางอารมณ์มากกว่านี้ เพราะในเส้นทางนี้ยังต้องเจออะไรที่หนักหนากว่านี้อีกมาก ผมเข้าใจในภาวะอารมณ์หรือความเป็นคนนะ ว่ามันก็ต้องรู้สึกไม่ดีหรือคิดมากเป็นธรรมดากับคำพูดเหล่านั้น แต่อย่าลืมว่าตัวเองเป็นใครและทำหน้าที่อะไร ไอดอลควรมีทัศนคติที่ดีและรักษาเอาไว้ให้ได้ตลอด สำหรับเหตุการณ์นี้เมมเบอร์ควรถามตัวเองว่าสามารถให้รอยยิ้มและกำลังใจกับคนที่มาจับมือได้เต็มที่รึเปล่า? บกพร่องในหน้าที่รึเปล่า? นี่คือสิ่งที่ผมอยากฝากถึงเมมเบอร์
ในส่วนของโอตะ!!! ผมอยากให้พวกคุณคิดใตร่ตรองให้ดีก่อนพูดหรือทำอะไรกับเมมเบอร์ ผมไม่ได้บอกว่าสิ่งที่พวกคุณทำมันผิดร้ายแรงหรือไม่น่าให้อภัย ผมไม่ได้ต้องการประนามใคร ผมรู้ว่าสิ่งที่พวกคุณทำลงไปเพราะรัก แต่ความรักควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของการให้เกียรติรึเปล่า? เมมเบอร์ก็คนนะครับ ถามตัวเองดูว่าเรากำลังมองเห็นเมมเบอร์เป็นแค่วัตถุเพื่อความบันเทิงรึเปล่า? บางทีเราอาจจะคิดว่าคำพูดหรือการกระทำของเรามันเล็กน้อยหรือไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่อย่าลืมว่าไม่ได้มีแค่เรา ในหนึ่งวันเมมเบอร์ต้องเจอคนพูดแบบนี้กี่รอบ ร้อยคนพูด พันคนพูด สิ่งเล็กน้อยมันก็อาจจะรุนแรงขึ้นมาได้ครับ ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าเราควรพูดไม่ควรพูดอะไรกับเมมเบอร์ แต่ถ้าเราบอกว่าเรารักพวกเค้าจริง เราก็ควรจะเลือกที่จะพูดและทำแต่สิ่งดีๆให้กับเมมเบอร์นะครับ
อย่างที่บอกครับผมเห็นด้วย กับการที่บอกว่าเมมเบอร์ควรปรับปรุง แก้ไข พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แต่พวกเราชาวโอตะก็ควรที่จะทำในส่วนของตัวเองเช่นกัน เราบอกว่าเรารักกันไม่ใช่หรือ? เราบอกว่าเราอยู่เคียงข้างกันไม่ใช่หรือ? เราบอกว่าเราให้กำลังใจซึ่งกันและกันไม่ใช่หรือ? แต่ทำไมเราถึงเรียกร้องจากเมมเบอร์อยู่ฝ่ายเดียว เราอยากได้รับประสบการณ์ที่ดีจากเมมเบอร์ แล้วเราหล่ะได้มอบประสบการณ์ที่ดีกับเมมเบอร์รึเปล่า? เราควรปรับตัวเข้าหากันคนละครึ่งทางรึเปล่า? นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะฝากถึงโอตะทุกคนครับ ขอบคุณครับ
อยากให้โอตะคิดให้ดีก่อนพูดอะไรกับเมมเบอร์
ผมเป็นคามิโอชิปูเป้ที่ไม่ได้รับประสบการณ์การจับมือที่ดีกลับมาและรู้สึกเฟลเป็นอย่างมากทั้งๆที่เป็นครั้งแรกและรอคอยมานาน สิ่งที่ผมได้คือปูเป้หน้านิ่งและแทบจะไม่ยิ้มให้ผมเลย ผมเห็นด้วยกับคนที่บอกว่าปูเป้ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองและพัฒนาตัวเองในเรื่องปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆหรือโอตะมากกว่านี้ แต่ผมว่าจริงๆแล้วปูเป้เป็นคนนึงที่เฟรนลี่กับโอตะมากๆถึงแม้ว่าจะไม่ใช่โอตะที่โอชิตัวเองก็ตาม และไม่ใช่เพียงแค่ปูเป้เท่านั้นที่ผมไปจับมือแล้วได้รับประการณ์ที่ไม่ดีกลับมา ซัทจังก็เช่นกัน แทบไม่ต่างอะไรกับปูเป้เลย
ผมกำลังคิดว่าสาเหตุที่ในงานจับมือที่ผ่านมาปูเป้และซัทจังดูอารมณ์ไม่ดีหรือดูไม่เฟรนลี่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการกระทำของโอตะบางคนที่เข้าไปจับมือด้วยรึเปล่า? คำพูดหรือการกระทำของเราชาวโอตะมีอะไรไปกระทบจิตใจเมมเบอร์รึเปล่า? เช่น แซวเรื่องสิว,แซวเรื่องคิ้ว,แซวเรื่องอ้วน,กวนทรีนแบบต่อเนื่องและล้ำเส้น ในส่วนของปูเป้ผมคิดว่าเป็นเมมเบอร์ที่โดนกวนทรีนและพูดจาไม่ให้เกียรติเยอะที่สุดแล้วเพราะเป็นคนที่ดูธรรมชาติและดูเป็นกันเองมาก ในส่วนของซัทจังน้องพูดออกlive voov ว่าไม่ชอบที่มีคนมาทักว่าอ้วน ผมกำลังคิดว่าวันทั้งวันเมมเบอร์ต้องเจออะไรมาบ้างถึงได้กลายเป็นแบบนั้นก่อนมาเจอผม
ถ้าถามว่าใครผิด? ผมว่าผิดทั้งสองฝ่าย
ในส่วนของไอดอลเองก็ควรมีความความอดทนและภูมิคุ้มกันทางอารมณ์มากกว่านี้ เพราะในเส้นทางนี้ยังต้องเจออะไรที่หนักหนากว่านี้อีกมาก ผมเข้าใจในภาวะอารมณ์หรือความเป็นคนนะ ว่ามันก็ต้องรู้สึกไม่ดีหรือคิดมากเป็นธรรมดากับคำพูดเหล่านั้น แต่อย่าลืมว่าตัวเองเป็นใครและทำหน้าที่อะไร ไอดอลควรมีทัศนคติที่ดีและรักษาเอาไว้ให้ได้ตลอด สำหรับเหตุการณ์นี้เมมเบอร์ควรถามตัวเองว่าสามารถให้รอยยิ้มและกำลังใจกับคนที่มาจับมือได้เต็มที่รึเปล่า? บกพร่องในหน้าที่รึเปล่า? นี่คือสิ่งที่ผมอยากฝากถึงเมมเบอร์
ในส่วนของโอตะ!!! ผมอยากให้พวกคุณคิดใตร่ตรองให้ดีก่อนพูดหรือทำอะไรกับเมมเบอร์ ผมไม่ได้บอกว่าสิ่งที่พวกคุณทำมันผิดร้ายแรงหรือไม่น่าให้อภัย ผมไม่ได้ต้องการประนามใคร ผมรู้ว่าสิ่งที่พวกคุณทำลงไปเพราะรัก แต่ความรักควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของการให้เกียรติรึเปล่า? เมมเบอร์ก็คนนะครับ ถามตัวเองดูว่าเรากำลังมองเห็นเมมเบอร์เป็นแค่วัตถุเพื่อความบันเทิงรึเปล่า? บางทีเราอาจจะคิดว่าคำพูดหรือการกระทำของเรามันเล็กน้อยหรือไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่อย่าลืมว่าไม่ได้มีแค่เรา ในหนึ่งวันเมมเบอร์ต้องเจอคนพูดแบบนี้กี่รอบ ร้อยคนพูด พันคนพูด สิ่งเล็กน้อยมันก็อาจจะรุนแรงขึ้นมาได้ครับ ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าเราควรพูดไม่ควรพูดอะไรกับเมมเบอร์ แต่ถ้าเราบอกว่าเรารักพวกเค้าจริง เราก็ควรจะเลือกที่จะพูดและทำแต่สิ่งดีๆให้กับเมมเบอร์นะครับ
อย่างที่บอกครับผมเห็นด้วย กับการที่บอกว่าเมมเบอร์ควรปรับปรุง แก้ไข พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แต่พวกเราชาวโอตะก็ควรที่จะทำในส่วนของตัวเองเช่นกัน เราบอกว่าเรารักกันไม่ใช่หรือ? เราบอกว่าเราอยู่เคียงข้างกันไม่ใช่หรือ? เราบอกว่าเราให้กำลังใจซึ่งกันและกันไม่ใช่หรือ? แต่ทำไมเราถึงเรียกร้องจากเมมเบอร์อยู่ฝ่ายเดียว เราอยากได้รับประสบการณ์ที่ดีจากเมมเบอร์ แล้วเราหล่ะได้มอบประสบการณ์ที่ดีกับเมมเบอร์รึเปล่า? เราควรปรับตัวเข้าหากันคนละครึ่งทางรึเปล่า? นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะฝากถึงโอตะทุกคนครับ ขอบคุณครับ