เรียน สมาชิกคุณ PPDF06
คำตอบข้อที่ 1       
        การแจ้งย้ายปลายทางของเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
หลักเกณฑ์/เงื่อนไข
- การแจ้งการย้ายที่อยู่ปลายทาง เป็นการแจ้งการย้ายที่อยู่โดยสามารถขอแจ้งย้ายออกและขอแจ้งย้ายเข้าต่อนายทะเบียนในท้องที่ที่ไปอยู่ใหม่ โดยไม่ต้องเดินทางกลับไปขอแจ้งย้ายออกในท้องที่ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- การแจ้งย้ายที่อยู่ปลายทาง สามารถแจ้งย้ายในคราวเดียวกันได้ ครั้งละไม่เกินจำนวน 3 คน
- บุคคลที่จะย้ายเข้าทะเบียนบ้าน ต้องไปแสดงตัวยืนยันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ทะเบียนเท่านั้น เพื่อสอบปากคำสาเหตุในการย้ายที่อยู่ (บิดามารดาต้องพาบุตรไปด้วย)

- เอกสาร/หลักฐาน
1. สูติบัตรของบุตร
2. ทะเบียนบ้านที่จะย้ายเข้า
3. บัตรประจำตัวประชาชนของมารดาหรือบิดา ต้นฉบับ
4. บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าบ้าน
5. ทะเบียนสมรสต้นฉบับ (เฉพาะกรณีที่บิดาไปติดต่อต้องนำไปด้วย แต่มารดาไม่ต้องใช้)
6. กรณีเจ้าบ้านไปไม่ได้ ต้องมีหนังสือยินยอมและมอบหมาย และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมเซ็นรับรองของเจ้าบ้าน

อธิบายเพิ่มเติม
- จากข้อ 5 หากบิดาไปดำเนินการต้องเตรียมทะเบียนสมรสไปด้วย แต่ถ้าเป็นมารดาไม่ต้องใช้
- หนังสือยินยอมและมอบหมาย คือ เจ้าบ้านยินยอมให้ผู้ย้ายเข้ามามีชื่อในทะเบียนบ้านได้ ส่วนมอบหมาย เป็นกรณีที่เจ้าบ้านไม่สามารถไปดำเนินการได้ จึงมอบหมายให้ผู้ปกครองหรือผู้ที่มีชื่อในทะเบียนเดียวกันไปดำเนินการแทน เจ้าบ้าน ซึ่งหนังสือยินยอมและมอบหมายสามารถทำเป็นฉบับเดียวกันระบุรายละเอียดที่สำคัญลงไป

อัตราค่าธรรมเนียม
ชำระค่าธรรมเนียม 20 บาท ต่อการยื่นเรื่อง 1 ครั้ง

สถานที่ติดต่อสอบถาม
- สำนักงานเขต
- ที่ว่าการอำเภอ หรือกิ่งอำเภอ

คำตอบข้อที่ 2
   การขอเปลี่ยนสถานพยาบาลในบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองกรณีที่มีการย้ายที่อยู่หรือทะเบียนบ้าน สามารถติดต่อขอเปลี่ยนสถานพยาบาลมายังพื้นที่ที่เราพักอาศัยอยู่ได้

- หลักฐานที่ใช้ในการติดต่อ
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายซึ่งทางราชการออกให้ กรณีเด็กต่ำกว่า 15 ปี ใช้สำเนาใบสูติบัตร หรือใบเกิดแทน
2. สำเนาทะเบียนบ้านที่ผู้ขอมีชื่ออยู่   

- สถานที่ติดต่อติดต่อขอเปลี่ยนสถานพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร  
     ขณะนี้สามารถติดต่อขอเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ที่สำนักงานเขต 19 แห่งดังนี้ (ยังคงมีเจ้าหน้าที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำอยู่)
1. คลองสามวา
2. คลองเตย
3. ธนบุรี
4. บางกะปิ
5. บางขุนเทียน
6. บางพลัด
7. บางแค
8. ประเวศ
9. พระโขนง
10. มีนบุรี
11. ราชเทวี
12. ราษฎร์บูรณะ
13. ลาดกระบัง
14. ลาดพร้าว
15. สายไหม
16. หนองจอก
17. หนองแขม
18. หลักสี่
19. ห้วยขวาง

หมายเหตุ :
- เวลาให้บริการ 08.00- 16.00 น. (จันทร์-ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ )

คำตอบข้อที่ 3
การเปลี่ยนสถานพยาบาลโดยที่ไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้าน
หลักฐานที่ใช้ในการติดต่อ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่าย ซึ่งทางราชการออกให้
- กรณีเด็กต่ำกว่า 15 ปี ใช้สำเนาใบสูติบัตร หรือใบเกิดแทน
- สำเนาทะเบียนบ้านที่ผู้ขอมีชื่ออยู่

สถานที่ติดต่อ
- ในเขตกรุงเทพมหานคร ติดต่อขอเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ที่สำนักงานเขตในพื้นที่ที่พักอาศัย (ตามรายชื่อสำนักงานเขตทั้ง 19 แห่งที่กำหนด)
- ถ้าในพื้นที่ต่างจังหวัดติดต่อที่สถานีอนามัยในพื้นที่ หรือโรงพยาบาลของรัฐที่เราจะย้ายสถานพยาบาล

     ***  หลังจากยื่นดำเนินการเสร็จแล้ว สิทธิ์บัตรทองจะเกิดต้องรอประมาณ 30 วัน หากเจ็บป่วยทั่วไปก็ทำการรักษาที่โรงพยาบาลเดิมก่อนสามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่หมายเลขสายด่วน 1330 ว่า ณ ตอนนั้นสิทธิ์ที่โรงพยาบาลใหม่เกิดแล้วหรือไม่ ตรวจสอบได้ในวันที่ 15 หรือวันที่ 28 ของเดือน แต่หากเกิดการเจ็บป่วยขึ้นมาในระหว่างที่รอการเกิดสิทธิ์ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ โดยติดต่อได้ที่หน่วยบริการที่ระบุในบัตร โดยบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้านยื่นต่อทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลด้วย

คำตอบข้อที่ 4
    เขตพื้นที่บริการของโรงเรียนนักเรียนจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตให้บริการของโรงเรียน อย่างน้อย 2 ปี หมายถึง มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของ ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ เป็นเจ้าบ้าน แต่ถ้ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่บุคคลอื่นนอกเหนือจาก ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ เป็นเจ้าบ้านไม่ถือว่าเป็นเด็กในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียน ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ ค่ะ      

Sasipa