ผ่านมาหลายวันกับประเด็นคลิปล้อเลียนกะเทยของเจ้าขุนกับคุณเจ เจตริน
มีกระแสติเตียนออกมามากมาย จนที่สุดคลิปต้นทางก็ถูกลบออกจากไอจี ของเจ้าขุน
แต่ก็ยังไม่เห็นว่าคุณ เจตรินและเจ้าขุน จะมีความรู้ความเข้าใจใดต่อความผิดพลาดของตนเอง
ดิฉันอยากจะบอกเหลือเกินว่า การที่คุณมีเพื่อนเป็นเพศที่สามเยอะแยะ
ไม่ได้หมายความคุณจะไม่เหยียดพวกเขา
หรือ ยอมรับพวกเขาในแบบที่พวกคุณยอมรับหญิงชายที่เป็น Straight (ชอบเพศตรงข้าม)
เรื่องนี้ในประเทศไทยเป็นประเด็นที่ไม่เคยถูก take seriously
เพราะเพศที่สามถูกขายเป็นความบันเทิงในเมืองไทยมาช้านาน
ตั้งแต่ตลกคาเฟ่ ที่ความเป็นกะเทยถูกลดทอนต่างๆนานาเพียงเพื่อ "ความบันเทิง"
หรือ ในชีวิตประจำวันความตลกก็ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ปลอดภัยและร่วมสังคมได้
(แต่ในฐานะไหนนั้น คงรู้กันอยู่)
และเพราะยังมีกะเทยเองที่อาศัยขายเพศสภาพเพื่อความบันเทิง
สังคมก็ยิ่งไม่ตระหนักว่ามันมีปัญหาอย่างไร และนั่นทำให้สังคมถกเถียงว่า
"จริงจังไปป่าววะ" "เขาทำเอาฮา ไม่ใช่การเหยียด"
กลับมาประเด็น เจ้าขุน และคุณเจตริน
จริงๆข่าวลือนี้มีมาหลายวันก่อนที่จะเป็นข่าว
เริ่มที่ทวิตเตอร์ แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญจนเงียบไปดิฉันยังลืม
เจออีกที่อ้าว มีข่าวสัมภาษณ์พร้อมคลิปที่เป็นปัญหาออกมา
อย่างแรก
ไม่รู้ว่าคุณเจตรินรู้หรือยังว่าการสัมภาษณ์ของคุณนั้น มันทุเรศและดูกลวงมากๆ
ถ้าเป็นคนที่มีกึ๋นพอ น่าจะใช้จังหวะนี้ในการสนับสนุนความหลาหลายทางเพศด้วยซ้ำ
เช่น การให้สัมภาษณ์ว่าเท่าที่รู้ลูกผมก็ชอบผู้หญิงนะ แต่ถ้าเขาจะชอบกะเทย ชอบใครก็ไม่เป็นปัญหา
ถ้าคุณสัมภาษณ์แบบนี้นอกจากคุณจะดูดีแล้ว ยังสร้างคุณูปการในการเป็นส่วนหนึ่งทำให้
รสนิยมทางเพศแบบนี้เป็นเรื่องปกติ
มันเลยสะท้อนความคิดคุณหรือเปล่า ลึกๆแล้วคุณและครอบครัวมีความรังเกียจหรือมองเรื่องพวกนี้
ไม่ปกติ
อย่างที่สอง
คุณให้สัมภาษณ์ว่า
"...คือถ้าขุนเป็นกะเทย หรือขุนเทิร์นเป็นเกย์จริงๆ เนี่ย เป็นเกย์ทั้งประเทศได้เลย(หัวเราะ) คือเป็นไปไม่ได้ครับ..."
ลูกคุณไม่ใช่บรรทัดฐานความเป็นเกย์ และมันก็ไม่มีอะไรเป็นบรรทัดฐาน
ดิฉันไม่เข้าใจว่าคุณไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน
รสนิยมทางเพศเป็นอะไรที่ลื่นไหลได้ คุณอาจจะชอบเพศเดียวกัน พรุ่งนี้ชอบต่างเพศก็ได้
มันไม่มีบรรทัดฐานอะไรเลย แบบที่สังคมหรือละครไทยเข้าใจกันมาตลอดหลายสิบปี
และคำว่า
เป็นไปไม่ได้ ดิฉันคิดว่าคนเป็นพ่อแม่ในยุคสมัยใหม่ยิ่งไม่ควรพูด
เพราะมันเป็นการปิดกั้นการตัดสินใจของลูกคุณ และทำเหมือนเกย์เป็นเรื่อง negative
ซึ่งคุณยังให้สัมภาษณ์ต่อว่าลูกคุณสายโหด ซึ่งสื่อนัยว่ามีความแมนเยอะไม่เป็นหรอก
มันสะท้อนว่าคุณนั้นขาดความเข้าใจในเรื่องเพศสภาพและรสนิยมทางเพศมากๆ
อย่างที่สาม
คลิปที่ลูกคุณทำ ต้นฉบับคือกะเทยคนหนึ่งทำขึ้นมา
หลายคนอ้างว่า นี่ไงกะเทยยังทำเลย มันเหยียดตรงไหนกัน
ก็ขอเรียนนะคะ
มนุษย์ไม่ได้รู้สึกถึงโซ่ตรวนที่พันธการตัวเองทุกคน
กะเทยเกย์ก็ไม่ได้รู้สึกถึงการเหยียดว่ามีอยู่ทุกคน
แต่ดิฉันคิดว่าคำตอบในโลกโซเชี่ยลน่าจะมากพอบอกได้ว่า
หลายคนรู้สึกไม่โอเค รู้สึกแย่ขนาดไหน
เพราะบริบทท่ี่คุณทำคือ คุณทำออกมาเพื่อ
"ตอบโต้ว่าคุณไม่ได้เป็นกะเทย"
อย่างที่สี่
การกระทำของเจ้าขุน และคุณเจ ที่มีขึ้นเพื่อตอบโต้ถึงรสนิยมทางเพศ
ในลักษณะล้อเลียน ขบขัน เป็นตัวตลก =
ยืนยันไปในตัวว่าเรื่องพวกนี้มันไม่ปกติ
(แน่นอนว่าคุณคงไม่รู้ตัว) แต่เพราะแบบนี้ไง
มันถึงมีผู้ชายหลายคนที่รักกะเทยแล้วไม่กล้าสานต่อความสัมพันธ์
หรือกล้าเปิดเผยตัว เพราะขนาดคนดังที่มีอิทธิพลต่อสื่อขนาดนี้
ยังทำให้เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องตลกดูไม่ปกติเลย
ทำไมต้องมีแต่ความรัก รสนิยมของ LGTB ที่กลายเป็นเรื่องตลกด้วยตัวเอง?
บางคนอาจยกอย่าง ว.ด. นี่ไง เขาทั้งเปิดตัว แต่งงาน
ยังเข้ามาเม้น I love this ใต้คลิปเจ้าขุนเล้ย หรือดีเจ น.ที่คุณเจอ้างในบทสัมภาษณ์มติชนว่าก็ขำ
ประทานโทษนะคะ ดิฉันไม่เคยอินกับคนวงการบันเทิงอย่างคุณ วด หรือใคร
เพราะคนพวกนี้อยู่ใน Comfort Zone ไม่เคยมีคุณูปการอะไรต่อวงการ LGTB
นอกจากทำให้สังคมรับรู้ว่าเอ้ยมีพวกนี้อยู่นะ แต่แค่นั้นไม่มีนอกจากนี้
นอกจากเจ้าของคลิปแล้ว ดิฉันก็เวทนาพวกดาราต่างๆ ทั้งดาราเกย์ นักร้องที่เป็นแรงบันดาลให้เกย์
และที่เหลือ เข้าไปขบขัน เอาฮา คนพวกนี้ไม่เคยตระหนักถึงปัญหาว่ามันผลิตคุณค่าอะไรสู่สังคม
ซึ่ง
ไปกดทับชาว LGBT ที่ไม่ได้อยู่ใน Comfort Zone แบบพวกเขา
ชาว LGTB ไม่น้อยถูกทรีตเป็นตัวตลก เพราะสังคมเห็นเป็นอย่างนั้น
ชาว LGTB ไม่น้อยถูกเลือกปฏิบัติ เพราะสังคมเข้าใจเขาแบบนั้น
พวกคุณ โดยเฉพาะเจ้าของคลิป คุณได้รู้ไหมว่า นอกจากจะไม่ได้ส่งเสริมแล้ว
คุณยัง
ลดทอนบรรยากาศที่ปลอดภัยต่อชาว LGTB ด้วย
ดิฉันจะขยายให้ฟังด้วยการเล่าถึงหนังเรื่องหนึ่งซึ่งพึ่งเข้าโรงฉายไปไม่นาน
Love, Simon
เป็นหนังเล่าชีวิตเกย์วัยรุ่นที่มีเนื้อหาดีมากก และเนื้อหานั้นมีความ PC (Political correctness*)
ในเรื่อง พระเอกเป็นเกย์วัยรุ่นที่ต้องปกปิดตัวเอง เพราะ...กลัว
เขากลัวว่าถ้าเปิดเผยตัว ครอบครัวจะไม่เหมือนเดิม
เขากลัวว่าถ้าเปิดเผยตัว เพื่อนรอบข้างเขาจะไม่เหมือนเดิม
เขากลัวว่าถ้าเปิดเผยตัว สังคมจะทำร้ายเขา
นี่คือความกลัวของชาว LGTB หลายคนทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทย
เพียงแต่ว่าบ้านเรามีสื่อเล่นประเด็น LGTB มาก ก็เลยดูเหมือนประเทศนี้ใจกว้าง
แค่เดินไปบอกว่า "ผมเป็นเกย์ครับพ่อ" พ่อแค่ยิ้มกลับมาจบ...ซึ่งไม่ใช่
เราเป็นสังคมที่ฉาบฉวยว่ายอมรับพวกเขา ใช่ยอมรับในระดับหนึ่ง ไม่ปลุกคนไปตีหรือเหยียดซึ่งหน้า
แต่ก็ยังไม่ยอมรับในแบบที่ปฏิบัติกับหญิงชาย Straight ตัวไป
แต่คลิปที่มีเป็นปัญหา คุณทำให้การเปิดเผยตัวเป็นเรื่องตลก + ทำออกมาตอบโต้
ผลลัพธ์มันคือ negative ด้านลบที่หลายคนรู้สึกได้
แทนที่คุณจะส่งเสริมบรรยากาศสังคมให้ดีขึ้น
ให้บรรยากาศที่รู้สึกเปิดกว้าง รู้สึกปลอดภัย และรู้สึกธรรมดา ไม่ขบขันพวกเขา
คุณไม่ได้ส่งเสริม แต่ทำลายมันด้วยซ้ำ
ด้วยการผลิตคลิปกลวงๆออกมาซ้ำเติมคุณค่าเดิม
ดิฉันขอสปอยล์ Love, Simon สักหน่อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในความจริงแล้ว ครอบครัวพระเอกยอมรับได้แต่ไม่กล้าถามลูกเพราะกลัวละเมิด
เพื่อนก็รับได้ สังคมก็รับได้ แม้จะมีพวกแอนตี้อยู่บ้าง แต่เพราะบรรยากาศสังคมไม่เคยทำให้
พระเอกรับรู้เลยว่าเขาปลอดภัย เขาโอเคนะที่จะเปิดตัว (จริงๆชอบอีกอันที่พระเอกพูดคือ
ทำไมมีแต่เกย์ต้องเปิดเผยตัว)
และที่สำคัญ พ่อพระเอก ซึ่งชอบเล่นมุขผู้ชายๆ กลับร้องไห้ขอโทษลูกที่เขาเล่น
มุขผู้ชายๆพวกนี้มาตลอดหลายปี คงทำให้ลูกอึดอัดน่าดู (มุขผู้ชายแบบ
ตอนพระเอกจะเปิดตัวบอกมีเรื่องจะบอก พ่อยังเล่นมุขว่าไปทำหญิงท้องหรอ)
นี่ไงคะ การสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยแก่ทุกเพศสภาพและรสนิยมทางเพศ
ในการดำเนินชีวิต มันง่ายมาก รวมถึงการอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีไม่ได้เป็นตัวตลกหรือของแปลก
ดิฉันนี่อยากจะซื้อตั๋วและให้พวกดาราพวกนี้ไปนั่งดูและเขียนวิจารณ์เหลือเกินว่าได้อะไรมาบ้างไหม
สุดท้าย ดิฉันหวังว่าครอบครัวคุณเจ และเหล่าเพื่อนพ้องดาราผู้เข้าไปขำขัน
ตลอดจนคนทั่วไปที่ยังไม่เห็นปัญหา ได้ลองพิจารณาแง่มุมนี้ดูบ้าง
สุดท้ายนี้ดิฉันขอบันทึกเหล่าคนดังที่พอจะบันทึกได้ไว้เป็นหลักฐาน
ว่าพวกเขาไม่มีกึ๋นเพียงใด
อืมม์ รักการตอบโต้แบบนี้หรอคะ
ถ้ามีข่าวไปกินผู้หญิงแทน จะออกมาแบบนี้ไหมนะ
การเป็นแต๋ว เป็นเรื่องขำหรอคะ
ดิฉันเห็นโลกตะวันตก แม้แต่ตะวันออกอย่างญี่ปุ่น เกาหลี
ยังมีโอกาสได้เห็นนักแสดงที่เป็นเฟมินิสต์ หรือยืนยันคุณค่าสมัยใหม่
โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก กับเรื่อง LGTB การออกสนับสนุนให้เลี้ยงลูกแบบไม่แบ่งเพศ
(แต่ดูแล้วบางครอบครัวคงปลูกฝังความแมนน่าดู)
ได้เห็นพวกเขาพูดอะไรฉลาดๆ ไม่รู้หรอกว่ามันแค่สร้างภาพหรืออะไร
แต่มันได้สร้างบรรยากาศของสังคมสมัยใหม่ให้ดีขึ้น
แต่ย้อนมาดูดาราไทย เหอๆ ทำได้ดีสุดแค่เปิดตัว
แต่จะหากึ๋นอะไรในการสนับสนุนคุณค่าสมัยใหม่...หายาก
สุดท้ายของจริง ฝากถึงนักข่าวด้วย มีนักข่าวเพศที่สามก็หลายคน
ช่วงใช้ความคิดมากกว่านี้หน่อยค่ะ ไม่ใช่ใช้คำสัมภาษณ์หรือไปถาม
อะไรที่ทำให้ดูรสนิยมทางเพศตัวเองเป็นของแปลกเลยค่ะ
ข่าวบางแห่งยังมองการไปมีอะไรกับกะเทยยังเป็นเสื่อมเสียเลย
ไม่ไหวค่ะสื่อไทย
ดิฉันแท็กนักร้อง นักแสดง เพราะสื่อถึงพวกคุณโดยตรงค่ะ
*Political Correctness แปลเป็นไทยประมาณว่า ความถูกต้องทางการเมือง
แต่คำว่าการเมือง ไม่ใช่ในแบบที่คนไทยเข้าใจส่วนใหญ่
ถ้าให้เห็นภาพคือ การทำหรือพูดอะไรที่ไปกระทบกับกลุ่มคนหนึ่งในสังคม
ที่ไปในแนวทางทำให้พวกเขามีชีวิตที่อยู่ยาก จริงๆการเมืองก็คืออำนาจระหร่วางกลุ่ม
การระมัดระวัง PC คือการระมัดระวังไม่ไปกดทับอำนาจคนกลุ่มชายขอบประมาณนี้ค่ะ
(ดิฉันอธิบายไม่ดีเท่าไหร่)
คุณเจ เจตริน ได้เข้าใจหรือยังคะว่าคุณและลูกได้ทำอะไรผิดพลาดไป?
มีกระแสติเตียนออกมามากมาย จนที่สุดคลิปต้นทางก็ถูกลบออกจากไอจี ของเจ้าขุน
แต่ก็ยังไม่เห็นว่าคุณ เจตรินและเจ้าขุน จะมีความรู้ความเข้าใจใดต่อความผิดพลาดของตนเอง
ดิฉันอยากจะบอกเหลือเกินว่า การที่คุณมีเพื่อนเป็นเพศที่สามเยอะแยะ
ไม่ได้หมายความคุณจะไม่เหยียดพวกเขา
หรือ ยอมรับพวกเขาในแบบที่พวกคุณยอมรับหญิงชายที่เป็น Straight (ชอบเพศตรงข้าม)
เรื่องนี้ในประเทศไทยเป็นประเด็นที่ไม่เคยถูก take seriously
เพราะเพศที่สามถูกขายเป็นความบันเทิงในเมืองไทยมาช้านาน
ตั้งแต่ตลกคาเฟ่ ที่ความเป็นกะเทยถูกลดทอนต่างๆนานาเพียงเพื่อ "ความบันเทิง"
หรือ ในชีวิตประจำวันความตลกก็ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ปลอดภัยและร่วมสังคมได้
(แต่ในฐานะไหนนั้น คงรู้กันอยู่)
และเพราะยังมีกะเทยเองที่อาศัยขายเพศสภาพเพื่อความบันเทิง
สังคมก็ยิ่งไม่ตระหนักว่ามันมีปัญหาอย่างไร และนั่นทำให้สังคมถกเถียงว่า
"จริงจังไปป่าววะ" "เขาทำเอาฮา ไม่ใช่การเหยียด"
กลับมาประเด็น เจ้าขุน และคุณเจตริน
จริงๆข่าวลือนี้มีมาหลายวันก่อนที่จะเป็นข่าว
เริ่มที่ทวิตเตอร์ แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญจนเงียบไปดิฉันยังลืม
เจออีกที่อ้าว มีข่าวสัมภาษณ์พร้อมคลิปที่เป็นปัญหาออกมา
อย่างแรก
ไม่รู้ว่าคุณเจตรินรู้หรือยังว่าการสัมภาษณ์ของคุณนั้น มันทุเรศและดูกลวงมากๆ
ถ้าเป็นคนที่มีกึ๋นพอ น่าจะใช้จังหวะนี้ในการสนับสนุนความหลาหลายทางเพศด้วยซ้ำ
เช่น การให้สัมภาษณ์ว่าเท่าที่รู้ลูกผมก็ชอบผู้หญิงนะ แต่ถ้าเขาจะชอบกะเทย ชอบใครก็ไม่เป็นปัญหา
ถ้าคุณสัมภาษณ์แบบนี้นอกจากคุณจะดูดีแล้ว ยังสร้างคุณูปการในการเป็นส่วนหนึ่งทำให้
รสนิยมทางเพศแบบนี้เป็นเรื่องปกติ
มันเลยสะท้อนความคิดคุณหรือเปล่า ลึกๆแล้วคุณและครอบครัวมีความรังเกียจหรือมองเรื่องพวกนี้ไม่ปกติ
อย่างที่สอง
คุณให้สัมภาษณ์ว่า
"...คือถ้าขุนเป็นกะเทย หรือขุนเทิร์นเป็นเกย์จริงๆ เนี่ย เป็นเกย์ทั้งประเทศได้เลย(หัวเราะ) คือเป็นไปไม่ได้ครับ..."
ลูกคุณไม่ใช่บรรทัดฐานความเป็นเกย์ และมันก็ไม่มีอะไรเป็นบรรทัดฐาน
ดิฉันไม่เข้าใจว่าคุณไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน
รสนิยมทางเพศเป็นอะไรที่ลื่นไหลได้ คุณอาจจะชอบเพศเดียวกัน พรุ่งนี้ชอบต่างเพศก็ได้
มันไม่มีบรรทัดฐานอะไรเลย แบบที่สังคมหรือละครไทยเข้าใจกันมาตลอดหลายสิบปี
และคำว่าเป็นไปไม่ได้ ดิฉันคิดว่าคนเป็นพ่อแม่ในยุคสมัยใหม่ยิ่งไม่ควรพูด
เพราะมันเป็นการปิดกั้นการตัดสินใจของลูกคุณ และทำเหมือนเกย์เป็นเรื่อง negative
ซึ่งคุณยังให้สัมภาษณ์ต่อว่าลูกคุณสายโหด ซึ่งสื่อนัยว่ามีความแมนเยอะไม่เป็นหรอก
มันสะท้อนว่าคุณนั้นขาดความเข้าใจในเรื่องเพศสภาพและรสนิยมทางเพศมากๆ
อย่างที่สาม
คลิปที่ลูกคุณทำ ต้นฉบับคือกะเทยคนหนึ่งทำขึ้นมา
หลายคนอ้างว่า นี่ไงกะเทยยังทำเลย มันเหยียดตรงไหนกัน
ก็ขอเรียนนะคะ มนุษย์ไม่ได้รู้สึกถึงโซ่ตรวนที่พันธการตัวเองทุกคน
กะเทยเกย์ก็ไม่ได้รู้สึกถึงการเหยียดว่ามีอยู่ทุกคน
แต่ดิฉันคิดว่าคำตอบในโลกโซเชี่ยลน่าจะมากพอบอกได้ว่า
หลายคนรู้สึกไม่โอเค รู้สึกแย่ขนาดไหน
เพราะบริบทท่ี่คุณทำคือ คุณทำออกมาเพื่อ "ตอบโต้ว่าคุณไม่ได้เป็นกะเทย"
อย่างที่สี่
การกระทำของเจ้าขุน และคุณเจ ที่มีขึ้นเพื่อตอบโต้ถึงรสนิยมทางเพศ
ในลักษณะล้อเลียน ขบขัน เป็นตัวตลก = ยืนยันไปในตัวว่าเรื่องพวกนี้มันไม่ปกติ
(แน่นอนว่าคุณคงไม่รู้ตัว) แต่เพราะแบบนี้ไง
มันถึงมีผู้ชายหลายคนที่รักกะเทยแล้วไม่กล้าสานต่อความสัมพันธ์
หรือกล้าเปิดเผยตัว เพราะขนาดคนดังที่มีอิทธิพลต่อสื่อขนาดนี้
ยังทำให้เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องตลกดูไม่ปกติเลย
ทำไมต้องมีแต่ความรัก รสนิยมของ LGTB ที่กลายเป็นเรื่องตลกด้วยตัวเอง?
บางคนอาจยกอย่าง ว.ด. นี่ไง เขาทั้งเปิดตัว แต่งงาน
ยังเข้ามาเม้น I love this ใต้คลิปเจ้าขุนเล้ย หรือดีเจ น.ที่คุณเจอ้างในบทสัมภาษณ์มติชนว่าก็ขำ
ประทานโทษนะคะ ดิฉันไม่เคยอินกับคนวงการบันเทิงอย่างคุณ วด หรือใคร
เพราะคนพวกนี้อยู่ใน Comfort Zone ไม่เคยมีคุณูปการอะไรต่อวงการ LGTB
นอกจากทำให้สังคมรับรู้ว่าเอ้ยมีพวกนี้อยู่นะ แต่แค่นั้นไม่มีนอกจากนี้
นอกจากเจ้าของคลิปแล้ว ดิฉันก็เวทนาพวกดาราต่างๆ ทั้งดาราเกย์ นักร้องที่เป็นแรงบันดาลให้เกย์
และที่เหลือ เข้าไปขบขัน เอาฮา คนพวกนี้ไม่เคยตระหนักถึงปัญหาว่ามันผลิตคุณค่าอะไรสู่สังคม
ซึ่งไปกดทับชาว LGBT ที่ไม่ได้อยู่ใน Comfort Zone แบบพวกเขา
ชาว LGTB ไม่น้อยถูกทรีตเป็นตัวตลก เพราะสังคมเห็นเป็นอย่างนั้น
ชาว LGTB ไม่น้อยถูกเลือกปฏิบัติ เพราะสังคมเข้าใจเขาแบบนั้น
พวกคุณ โดยเฉพาะเจ้าของคลิป คุณได้รู้ไหมว่า นอกจากจะไม่ได้ส่งเสริมแล้ว
คุณยัง ลดทอนบรรยากาศที่ปลอดภัยต่อชาว LGTB ด้วย
ดิฉันจะขยายให้ฟังด้วยการเล่าถึงหนังเรื่องหนึ่งซึ่งพึ่งเข้าโรงฉายไปไม่นาน Love, Simon
เป็นหนังเล่าชีวิตเกย์วัยรุ่นที่มีเนื้อหาดีมากก และเนื้อหานั้นมีความ PC (Political correctness*)
ในเรื่อง พระเอกเป็นเกย์วัยรุ่นที่ต้องปกปิดตัวเอง เพราะ...กลัว
เขากลัวว่าถ้าเปิดเผยตัว ครอบครัวจะไม่เหมือนเดิม
เขากลัวว่าถ้าเปิดเผยตัว เพื่อนรอบข้างเขาจะไม่เหมือนเดิม
เขากลัวว่าถ้าเปิดเผยตัว สังคมจะทำร้ายเขา
นี่คือความกลัวของชาว LGTB หลายคนทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทย
เพียงแต่ว่าบ้านเรามีสื่อเล่นประเด็น LGTB มาก ก็เลยดูเหมือนประเทศนี้ใจกว้าง
แค่เดินไปบอกว่า "ผมเป็นเกย์ครับพ่อ" พ่อแค่ยิ้มกลับมาจบ...ซึ่งไม่ใช่
เราเป็นสังคมที่ฉาบฉวยว่ายอมรับพวกเขา ใช่ยอมรับในระดับหนึ่ง ไม่ปลุกคนไปตีหรือเหยียดซึ่งหน้า
แต่ก็ยังไม่ยอมรับในแบบที่ปฏิบัติกับหญิงชาย Straight ตัวไป
แต่คลิปที่มีเป็นปัญหา คุณทำให้การเปิดเผยตัวเป็นเรื่องตลก + ทำออกมาตอบโต้
ผลลัพธ์มันคือ negative ด้านลบที่หลายคนรู้สึกได้
แทนที่คุณจะส่งเสริมบรรยากาศสังคมให้ดีขึ้น
ให้บรรยากาศที่รู้สึกเปิดกว้าง รู้สึกปลอดภัย และรู้สึกธรรมดา ไม่ขบขันพวกเขา
คุณไม่ได้ส่งเสริม แต่ทำลายมันด้วยซ้ำ
ด้วยการผลิตคลิปกลวงๆออกมาซ้ำเติมคุณค่าเดิม
ดิฉันขอสปอยล์ Love, Simon สักหน่อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นี่ไงคะ การสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยแก่ทุกเพศสภาพและรสนิยมทางเพศ
ในการดำเนินชีวิต มันง่ายมาก รวมถึงการอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีไม่ได้เป็นตัวตลกหรือของแปลก
ดิฉันนี่อยากจะซื้อตั๋วและให้พวกดาราพวกนี้ไปนั่งดูและเขียนวิจารณ์เหลือเกินว่าได้อะไรมาบ้างไหม
สุดท้าย ดิฉันหวังว่าครอบครัวคุณเจ และเหล่าเพื่อนพ้องดาราผู้เข้าไปขำขัน
ตลอดจนคนทั่วไปที่ยังไม่เห็นปัญหา ได้ลองพิจารณาแง่มุมนี้ดูบ้าง
สุดท้ายนี้ดิฉันขอบันทึกเหล่าคนดังที่พอจะบันทึกได้ไว้เป็นหลักฐาน
ว่าพวกเขาไม่มีกึ๋นเพียงใด
อืมม์ รักการตอบโต้แบบนี้หรอคะ
ถ้ามีข่าวไปกินผู้หญิงแทน จะออกมาแบบนี้ไหมนะ
การเป็นแต๋ว เป็นเรื่องขำหรอคะ
ดิฉันเห็นโลกตะวันตก แม้แต่ตะวันออกอย่างญี่ปุ่น เกาหลี
ยังมีโอกาสได้เห็นนักแสดงที่เป็นเฟมินิสต์ หรือยืนยันคุณค่าสมัยใหม่
โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก กับเรื่อง LGTB การออกสนับสนุนให้เลี้ยงลูกแบบไม่แบ่งเพศ
(แต่ดูแล้วบางครอบครัวคงปลูกฝังความแมนน่าดู)
ได้เห็นพวกเขาพูดอะไรฉลาดๆ ไม่รู้หรอกว่ามันแค่สร้างภาพหรืออะไร
แต่มันได้สร้างบรรยากาศของสังคมสมัยใหม่ให้ดีขึ้น
แต่ย้อนมาดูดาราไทย เหอๆ ทำได้ดีสุดแค่เปิดตัว
แต่จะหากึ๋นอะไรในการสนับสนุนคุณค่าสมัยใหม่...หายาก
สุดท้ายของจริง ฝากถึงนักข่าวด้วย มีนักข่าวเพศที่สามก็หลายคน
ช่วงใช้ความคิดมากกว่านี้หน่อยค่ะ ไม่ใช่ใช้คำสัมภาษณ์หรือไปถาม
อะไรที่ทำให้ดูรสนิยมทางเพศตัวเองเป็นของแปลกเลยค่ะ
ข่าวบางแห่งยังมองการไปมีอะไรกับกะเทยยังเป็นเสื่อมเสียเลย
ไม่ไหวค่ะสื่อไทย
ดิฉันแท็กนักร้อง นักแสดง เพราะสื่อถึงพวกคุณโดยตรงค่ะ
*Political Correctness แปลเป็นไทยประมาณว่า ความถูกต้องทางการเมือง
แต่คำว่าการเมือง ไม่ใช่ในแบบที่คนไทยเข้าใจส่วนใหญ่
ถ้าให้เห็นภาพคือ การทำหรือพูดอะไรที่ไปกระทบกับกลุ่มคนหนึ่งในสังคม
ที่ไปในแนวทางทำให้พวกเขามีชีวิตที่อยู่ยาก จริงๆการเมืองก็คืออำนาจระหร่วางกลุ่ม
การระมัดระวัง PC คือการระมัดระวังไม่ไปกดทับอำนาจคนกลุ่มชายขอบประมาณนี้ค่ะ
(ดิฉันอธิบายไม่ดีเท่าไหร่)