ออกตัวก่อนว่า เราเป็นแค่แฟนเพลงเฉย ๆ ทราบข่าวจากเพจ amoeba culture
ก็ติดตามข่าวแล้วก็ซื้อบัตรตามปกติ ซึ่งในใจเราก็คิดว่า งานคงสเกลเล็กมาก จึงเรียกว่าโชว์เคส
แล้วก็ไม่ได้รู้เลยว่ารูปแบบของโชว์จะเป็นอย่างไร
พอถึงวันจริง ปรากฎว่ามีพิธีกรด้วย คือคุณคิวมีล่าม คือคุณเจยอง เจ้าประจำงานเกาหลีทั้งคู่
เราก็แปลกใจหน่อย ๆ ว่าต้องถึงขั้นมีพิธีกรสัมภาษณ์เลยหรอ อย่างกับมีตติ้งพระเอกซีรีย์เลย
งานก็เป็นไปในลักษณะ ร้องสลับสัมภาษณ์ จนมาถึงช่วงที่ต้องตอบคำถามจากแฟน ๆ ที่ส่งมา
ถามว่าตลกมั้ย ตลก สนุกมั้ย ก็เรื่อย ๆ ตอบคำถามจากโซเชียลเนตเวิร์คยังไม่พอ มีคำถามจากโพสอิทอีก
และแล้วครัชก็พูดว่า กลัวทุกคนจะเบื่อกัน เรานึกในใจเลย เออกุเบื่อแหละ อยากฟังนายร้องเพลงมากกว่า
มาถึงตรงนี้ก็ ใจเขาใจเรา เราเองอาจจะอยากฟังเพลงมากไป พอมีการสัมฯที่มันวึ่นวือ เลยเซ็ง
แต่สำหรับคนที่เป็นแฟนติดตามมานานคงประทับใจมาก เพราะโอกาสมาไทยก็คงน้อย
ได้พูดคุยกัน ทำความรู้จัก ได้เห็นมุมเซนสิทิฟ ความตั้งใจทำงานของครัช ก็เป็นข้อที่เราเพิ่งเคยเห็น
แต่สุดท้ายก็แอบเสียดายไม่ได้ ที่ได้ฟังเพลงน้อยมากจริง ๆ
ใครได้ไปงานโชว์เคสของ Crush เมื่อวานนี้บ้างคะ รู้สึกยังไงกันบ้าง
ก็ติดตามข่าวแล้วก็ซื้อบัตรตามปกติ ซึ่งในใจเราก็คิดว่า งานคงสเกลเล็กมาก จึงเรียกว่าโชว์เคส
แล้วก็ไม่ได้รู้เลยว่ารูปแบบของโชว์จะเป็นอย่างไร
พอถึงวันจริง ปรากฎว่ามีพิธีกรด้วย คือคุณคิวมีล่าม คือคุณเจยอง เจ้าประจำงานเกาหลีทั้งคู่
เราก็แปลกใจหน่อย ๆ ว่าต้องถึงขั้นมีพิธีกรสัมภาษณ์เลยหรอ อย่างกับมีตติ้งพระเอกซีรีย์เลย
งานก็เป็นไปในลักษณะ ร้องสลับสัมภาษณ์ จนมาถึงช่วงที่ต้องตอบคำถามจากแฟน ๆ ที่ส่งมา
ถามว่าตลกมั้ย ตลก สนุกมั้ย ก็เรื่อย ๆ ตอบคำถามจากโซเชียลเนตเวิร์คยังไม่พอ มีคำถามจากโพสอิทอีก
และแล้วครัชก็พูดว่า กลัวทุกคนจะเบื่อกัน เรานึกในใจเลย เออกุเบื่อแหละ อยากฟังนายร้องเพลงมากกว่า
มาถึงตรงนี้ก็ ใจเขาใจเรา เราเองอาจจะอยากฟังเพลงมากไป พอมีการสัมฯที่มันวึ่นวือ เลยเซ็ง
แต่สำหรับคนที่เป็นแฟนติดตามมานานคงประทับใจมาก เพราะโอกาสมาไทยก็คงน้อย
ได้พูดคุยกัน ทำความรู้จัก ได้เห็นมุมเซนสิทิฟ ความตั้งใจทำงานของครัช ก็เป็นข้อที่เราเพิ่งเคยเห็น
แต่สุดท้ายก็แอบเสียดายไม่ได้ ที่ได้ฟังเพลงน้อยมากจริง ๆ