MGR Online - กองปราบลุยค้นวัดสระเกศฯ รอบ 3 ตามหาตัว “เจ้าคุณปิง” สอบภาพคนหน้าคล้ายเสพเมถุนกับฆราวาสชาย เตรียมเชิญสำนักพระพุทธฯเข้าตรวจสอบหากพบผิดจริงก็จะต้องสละสมณเพศ ด้านเจ้าหน้าที่วัดเผยเจ้าตัวออกจากวัดไปก่อนหน้านี้แล้ว
วานนี้ (2 มิ.ย.) ที่ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นวัดสระเกศฯเป็นรอบที่ 3 เพื่อหาหลักฐานทางคดีเพิ่มเติม นอกจากนี้ ได้ติดตามหาตัว พระวิสุทธิศาสนวิเทศ (กวีศิลป์ วิ สุทธิกุโล) หรือ เจ้าคุณปิง อายุ 37 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และพระเลขานุการส่วนตัวของ อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เพื่อจะนำตัวไปสอบปากคำกรณีภาพคนหน้าคล้ายเจ้าคุณปิงเสพเมถุนกับฆราวาสชาย แต่ไม่พบตัว โดยเจ้าหน้าที่ภายในวัดบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. เจ้าคุณปิงยังคงมาปฏิบัติศาสนกิจตามปกติ แต่หลังจากเมื่อวานแล้วก็ไม่พบตัวอีกเลย และไม่ทราบว่าเดินทางไปที่ใด
จากการตรวจสอบ อาคารสิทธิเดช ซึ่งเป็นที่ตั้งกุฏิของเจ้าคุณปิง พบว่า ถูกปิดเงียบ ประตูทางเข้าต้องใช้รหัสผ่านจึงจะสามารถเข้าไปได้ ทั้งนี้ ห่างไปประมาณ 20 เมตร พบประตูรั้วสีขาวที่สามารถทะลุออกข้างวัดไปยังถนนบริพัตร ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงทราบว่าประตูดังกล่าวเป็นประตูที่พระลูกวัดและชาวบ้านใช้สัญจรไปมาเป็นปกติ ซึ่งใครก็สามารถผ่านประตูนี้ได้ทั้งนั้น
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ชุดสืบสวนกองปราบฯได้เข้าตรวจค้นกุฏิของเจ้าคุณปิงไปแล้วครั้งหนึ่ง จากการตรวจค้นพบภาพลามกอนาจารซึ่งเป็นภาพการร่วมเพศทางทวารหนักกันระหว่างบุคคลที่หน้าคล้ายกับเจ้าคุณปิงกับผู้ชายฆราวาส และภาพเปลือยผู้ชายจำนวนหนึ่งอยู่ด้วย ชุดสืบสวนกองปราบปรามจึงต้องการนำตัวไปสอบปากคำยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเป็นบุคคลเดียวกันและมีการกระทำความผิดกฎหมายอาญาก็จะต้องถูกดำเนินคดี แต่หากไม่พบการกระทำความผิดก็จะเชิญเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาตรวจสอบถึงความเหมาะสม หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดทางวินัยหรืออาบัติปาราชิกฐานเสพเมถุนก็จะต้องสละสมณเพศต่อไป
สำหรับเจ้าคุณปิงนั้นเป็นที่รู้กันว่าเป็นพระสงฆ์ที่มีความสนิทสนมกับวงการดารา ผู้จัดละคร และวงการบันเทิงจนมีลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นคนที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้เจ้าคุณปิงยังเป็นผู้สนับสนุนโครงการปลูกต้นกล้ายาตราพุทธภูมิ ซึ่งเป็นโครงการบวชสามเณรของวัดสระเกศฯ ที่มีบรรดาเด็กผู้ชายเข้ามาร่วมบวชจำนวนมากในแต่ละปีอีกด้วย ทั้งนี้ เจ้าคุณปิงถือเป็นพระดาวรุ่งคนหนึ่งของวัดสระเกศฯ ก่อนหน้าที่จะอุปสมบทจบการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จากนั้นศึกษาทางธรรมจนจบเปรียญธรรม 3 ประโยค และจบการศึกษาพุทธศาสนามหาบัณฑิตจากมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยควบคู่กันด้วย เจ้าคุณปิงเป็นหนึ่งในพระที่ได้เลื่อนสมณศักดิ์อย่างรวดเร็วเนื่องจากบวชมาเพียงแค่ 16 พรรษาแต่ได้เป็นถึงพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่ตำแหน่งพระวิสุทธิศาสนวิเทศ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2558 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ครองสมณศักดิ์เป็นพระครูปลัดสุวัฒนสิทธิคุณฯ ทำหน้าที่พระฐานานุกรมในพระพรหมสิทธิ เพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นกุฏิของพระเมธีสุทธิกร (สังคม สังฆะพัฒน์) หรืออดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ อายุ 47 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ในคณะ 4 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินทอนวัด เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยภายหลังการเข้าค้นนานกว่า 1 ชั่วโมง พบว่า ภายในกุฏิมีการเก็บกวาดเรียบร้อย และเป็นระเบียบ จนทำให้ตำรวจเกรงว่าหลักฐานบางอย่างอาจจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ก็ยังพบเอกสารจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำกลับไปตรวจสอบว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่
กองปราบบุกวัดสระเกศฯ ตามตัว “เจ้าคุณปิง” สอบภาพคนหน้าคล้ายเสพสังวาสกับฆราวาสชาย
MGR Online - กองปราบลุยค้นวัดสระเกศฯ รอบ 3 ตามหาตัว “เจ้าคุณปิง” สอบภาพคนหน้าคล้ายเสพเมถุนกับฆราวาสชาย เตรียมเชิญสำนักพระพุทธฯเข้าตรวจสอบหากพบผิดจริงก็จะต้องสละสมณเพศ ด้านเจ้าหน้าที่วัดเผยเจ้าตัวออกจากวัดไปก่อนหน้านี้แล้ว
วานนี้ (2 มิ.ย.) ที่ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นวัดสระเกศฯเป็นรอบที่ 3 เพื่อหาหลักฐานทางคดีเพิ่มเติม นอกจากนี้ ได้ติดตามหาตัว พระวิสุทธิศาสนวิเทศ (กวีศิลป์ วิ สุทธิกุโล) หรือ เจ้าคุณปิง อายุ 37 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และพระเลขานุการส่วนตัวของ อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เพื่อจะนำตัวไปสอบปากคำกรณีภาพคนหน้าคล้ายเจ้าคุณปิงเสพเมถุนกับฆราวาสชาย แต่ไม่พบตัว โดยเจ้าหน้าที่ภายในวัดบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. เจ้าคุณปิงยังคงมาปฏิบัติศาสนกิจตามปกติ แต่หลังจากเมื่อวานแล้วก็ไม่พบตัวอีกเลย และไม่ทราบว่าเดินทางไปที่ใด
จากการตรวจสอบ อาคารสิทธิเดช ซึ่งเป็นที่ตั้งกุฏิของเจ้าคุณปิง พบว่า ถูกปิดเงียบ ประตูทางเข้าต้องใช้รหัสผ่านจึงจะสามารถเข้าไปได้ ทั้งนี้ ห่างไปประมาณ 20 เมตร พบประตูรั้วสีขาวที่สามารถทะลุออกข้างวัดไปยังถนนบริพัตร ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงทราบว่าประตูดังกล่าวเป็นประตูที่พระลูกวัดและชาวบ้านใช้สัญจรไปมาเป็นปกติ ซึ่งใครก็สามารถผ่านประตูนี้ได้ทั้งนั้น
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ชุดสืบสวนกองปราบฯได้เข้าตรวจค้นกุฏิของเจ้าคุณปิงไปแล้วครั้งหนึ่ง จากการตรวจค้นพบภาพลามกอนาจารซึ่งเป็นภาพการร่วมเพศทางทวารหนักกันระหว่างบุคคลที่หน้าคล้ายกับเจ้าคุณปิงกับผู้ชายฆราวาส และภาพเปลือยผู้ชายจำนวนหนึ่งอยู่ด้วย ชุดสืบสวนกองปราบปรามจึงต้องการนำตัวไปสอบปากคำยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเป็นบุคคลเดียวกันและมีการกระทำความผิดกฎหมายอาญาก็จะต้องถูกดำเนินคดี แต่หากไม่พบการกระทำความผิดก็จะเชิญเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาตรวจสอบถึงความเหมาะสม หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดทางวินัยหรืออาบัติปาราชิกฐานเสพเมถุนก็จะต้องสละสมณเพศต่อไป
สำหรับเจ้าคุณปิงนั้นเป็นที่รู้กันว่าเป็นพระสงฆ์ที่มีความสนิทสนมกับวงการดารา ผู้จัดละคร และวงการบันเทิงจนมีลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นคนที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้เจ้าคุณปิงยังเป็นผู้สนับสนุนโครงการปลูกต้นกล้ายาตราพุทธภูมิ ซึ่งเป็นโครงการบวชสามเณรของวัดสระเกศฯ ที่มีบรรดาเด็กผู้ชายเข้ามาร่วมบวชจำนวนมากในแต่ละปีอีกด้วย ทั้งนี้ เจ้าคุณปิงถือเป็นพระดาวรุ่งคนหนึ่งของวัดสระเกศฯ ก่อนหน้าที่จะอุปสมบทจบการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จากนั้นศึกษาทางธรรมจนจบเปรียญธรรม 3 ประโยค และจบการศึกษาพุทธศาสนามหาบัณฑิตจากมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยควบคู่กันด้วย เจ้าคุณปิงเป็นหนึ่งในพระที่ได้เลื่อนสมณศักดิ์อย่างรวดเร็วเนื่องจากบวชมาเพียงแค่ 16 พรรษาแต่ได้เป็นถึงพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่ตำแหน่งพระวิสุทธิศาสนวิเทศ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2558 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ครองสมณศักดิ์เป็นพระครูปลัดสุวัฒนสิทธิคุณฯ ทำหน้าที่พระฐานานุกรมในพระพรหมสิทธิ เพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นกุฏิของพระเมธีสุทธิกร (สังคม สังฆะพัฒน์) หรืออดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ อายุ 47 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ในคณะ 4 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินทอนวัด เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยภายหลังการเข้าค้นนานกว่า 1 ชั่วโมง พบว่า ภายในกุฏิมีการเก็บกวาดเรียบร้อย และเป็นระเบียบ จนทำให้ตำรวจเกรงว่าหลักฐานบางอย่างอาจจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ก็ยังพบเอกสารจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำกลับไปตรวจสอบว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่