ประสบการณ์ฝึกงานที่ญี่ปุ่น



เราเรียนอยู่ที่ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (Thai-Nichi Institute of Technology : TNI) คณะบริหารธุรกิจ สาขา การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ หรือ International Business (IB) กำลังจะขึ้นปี4 เราสอบชิงทุน เพื่อมาฝึกงานที่ญี่ปุ่นสองเดือน ชื่อทุน Internship Program in Japan By JTECS (Japan-Thailand Economic Cooperation Society) โดยที่โครงการนี้เหมือนการเสี่ยงดวงอยู่กลายๆ ไม่รู้เลยว่าจะส่งเราไปอยู่เมืองไหน บริษัทไหน การทำงานที่ต้องเจอเป็นอย่างไร ที่พักเป็นแบบไหน แต่การฝึกงานครั้งนี้จะมีค่าตอบแทนในต่อวัน รวมถึงค่าเดินทาง ในกรณีที่ต้องเดินทางไปทำงาน

แล้วบุญก็หล่นทับมาที่โตเกียว.. โตเกียวเฟิร์สไทม์ที่แท้จริง (ถ้าไม่นับที่เคยไปนอนรอขึ้นเครื่องบินกลับไทย) เราได้ฝึกงานที่ The Tokyo Higashi Shinkin Bank ความรู้สึกแรกที่รู้ว่าต้องฝึกงานที่นี่.. กลุ้มใจสิคะ นอกจากจะไม่เคยทำงานแล้ว ยังไม่มีความรู้ด้านธนาคารมาก่อน เรื่องเงินๆทองๆอีก เครียดค่ะ..เเต่ถ้าเป็นเรื่อง Incoterms, Marketing  อะไรพวกนี้น้องสู้ตายค่ะ เรียนมาแน่นเว่อร์ หอพักเราอยู่ห่างจากบริษัทเป็นชั่วโมง สิ่งที่ต้องทำคือตื่นแต่เช้าแล้วเบียดบนรถไฟสองต่อ ยังดีที่ห้องกว้างและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ



ส่วนการทำงาน เรายืนพื้นด้วยการอยู่แผนก Customer Support เรียนรู้เรื่องที่เกี่ยวกับธนาคารของเราทั่วๆไป เรียนรู้เรื่องการทำงานในธนาคาร เลยทำให้ได้รู้ว่า ธนาคารก็ไม่ใช่แค่เรื่องของการฝากถอนหรือโอนเงินอย่างเดียว มีทั้งการช่วยแนะนำลูกค้าในการวางแผนการลงทุน (Life Plan)  ผ่านไป 2-3 สัปดาห์ก็เริ่มมีการลงลไปเรียนนรู้งานในแผนกอื่น ทั้ง Fund Securities เป็นแผนกที่เกี่ยวข้องกับเงินของธนาคารล้วนๆ ไม่เกียวข้องกับลูกค้า ได้ไปดูงานที่สาขา ดูงานหน้าเคาท์เตอร์  รวมถึงลองโทรไปซื้อหุ้น


เอาเข้าจริงๆ บรรยากาศใจที่ทำงานของเราค่อนข้างดี ผ่อนคลาย ไม่ได้จริงจังเหมือนที่คิดเอาไว้ แต่ก็มีบางแผนกที่งานค่อนข้างเยอะ ต้องทำงานล่วงเวลากันหลายชั่วโมง บางแผนกก็ต้องเอาโทรศัพท์มือถือวางไว้ข้างนอก การเข้างานของที่นี่ไม่มีการตอกบัตรเข้างาน แต่เป็นการเดินเข้าไปทักทายคนในแผนก เริ่มตั้งแต่หัวหน้าแผนก เดินไปไปทักทายทุกโต๊ะก่อนจะไปนั่งที่ตัวเอง ตอนกลับก็เหมือนกัน มีวัฒนธรรมองค์กรหลายอย่างที่ค่อนข้างต่างกับประเทศไทย อย่างเรื่องการแต่งตัว ด้วยความที่ชุดฟอร์มของผู้หญิงจะมีตราของธนาคาร ฉะนั้น จะต้องมาเปลี่ยนชุดที่บริษัททั้งก่อนเริ่มงานและเลิกงาน บางบริษัทถ้าเคร่งมากๆ ช่วงพักกลางวันก็ใส่ชุดฟอร์มออกไปข้างนอกไม่ได้ เวลาจะใส่เสื้อโค้ทหรือจะสะพายกระเป๋าก็ต้องถือออกมาใส่ข้างนอก จะใส่ออกมาเลยก็ไม่ได้ ส่วนผู้ชายหรือผู้หญิงคนไหนที่ใส่สูทก็ไม่ต้องมาเปลี่ยนชุด


เรื่องการตรงต่อเวลาก็เหมือนกัน เวลาไปหาลูกค้า เราจะไปถึงก่อนเวลา แต่! จะไม่เข้าไปทันที จะรออยู่ด้านนอกจนกว่าจะถึงเวลานัด หรือคนของบริษัทเห็นแล้วเรียกเข้าไป เพราะเขาถือว่าการเข้าไปก่อนเวลาเป็นเรื่องเสียมารยาท เพราะทำให้ต้องมาคอยดูแลแขก แปลกเนอะ แต่ถ้ากับบริษัทที่ไปบ่อยหรือสนิทกันแล้ว ก่อนเวลานัดสักสิบห้านาทีก็เข้าไปได้


ในเวลางาน เราก็ไม่ได้ต้องเรียนรู้งานแค่ในธนาคารอย่างเดียว เขาจะพาเราออกไปดูงานตามสถานที่ข้างนอกด้วย เกือบทุกที่คือไม่เกี่ยวกับงานธนาคารเลย อย่าง สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ โรงทอผ้า เรือรบ การรถไฟ ทำไมต้องไปดูงานหลายๆที่น่ะเหรอ เพราะจริงๆแล้วทุนนี้มีวัตถุประสงค์ที่ยิ่งใหญ่กว่าการทำงานได้ แต่ต้องไปเรียนรู้จิตวิญญาณในการทำงานที่มุ่งมั่นทุ่มเท ที่เรียกว่าวิถีแห่งโมโนซูคุริ (Monodzukuri) ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้รับการปลูกฝังอย่างเนียน ๆ ในตอนที่เรียนมาอยู่แล้ว แต่เวลามาเจอกับบรรยากาศจริงๆ มันก็สร้างแรงบันดาลใจ และทำให้อินมากขึ้นใช่ไหมล่ะ
ทำให้เรารู้สึกว่า การฝึกงานครั้งนี้สิ่งที่ได้อาจะไม่ใช่งานวิชาการจ๋าไปเลย แต่เป็นประสบการณ์ในการทำงานขององค์กรมากกว่า การเข้าหาคน การปรับตัว มันคุ้มค่าอยู่นะ ถึงจะเหนื่อยกับความที่ที่นี่เป็นเมืองหลวงที่วุ่นวายก็เถอะ หวังว่าประสบการณ์ครั้งนี้ จะช่วยในการทำงานหลังเรียนจบได้นะ!









ส่วนสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนั้น.. ก็เต็สที่ไปเลย!







เว็บไซต์สถาบัน http://www.tni.ac.th/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่