รีวิวนี้จะสำหรับคนที่อยากไปบูชา 3 ใน 5 มหาบูชาสถานแห่งประเทศพม่า+เยเลพญา แบบแบ็คแพค แต่มีเวลาจำกัดเหมือนพวกเรา ก่อนไปหารีวิวจากหลายที่ส่วนใหญ่จะใช้เวลา 3 วัน แต่เรามีเวลาแค่ 2 วัน เลยพยายามทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่งทริปนี้ และใช่ค่ะงบที่ใช้ต้องถูกกว่าไปกับทัวร์!!
ก่อนไปก็กังวลและเตรียมใจไปส่วนนึงว่าโปรแกรมต้องแน่นแน่นอน แต่พอไปจริงแพลนที่วางไว้ใช้เวลาได้พอดีและไปได้ครบทุกที่จริงๆ จึงอยากมาแบ่งปันให้คนที่อยากไปแสวงบุญที่พม่าแต่กำลังกังวลปัญหาร้อยแปดได้มีทางเลือกมากขึ้น ต่อไปนี้คือการรีวิวแบบละเอียดยิบ เราจะมาตีแผ่ทุกสิ่ง แจกแจงทุกอย่าง ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ที่อัพเดทล่าสุด และค่าใช้จ่ายที่ใช้ทั้งหมดในทริปนี้ ไปค่ะ เริ่ม!
เริ่มจากเรากดจองตั๋วไปกลับจากหางแดงได้ในราคา 1,990 บาท ประมาณนี้ เดินทางเย็นวันเสาร์เวลา 18.00 น. และกลับเช้าวันอังคารเวลา 8.30 น. (ที่มาของ 3 คืน) เนื่องจากความอยากและทะเยอทะยานในตัวเรามีสูงมาก ที่ want จะไปให้ครบทุกที่ในเวลา 2 วัน ทริปนี้จึงตัดสินใจเช่ารถโดยดูรีวิวจากในพันทิปได้เบอร์ติดต่อมาหลายราย แต่ๆๆๆๆๆ ทุกคนส่ายหน้าให้กับทริปเราทั้งสิ้น หลายคนที่เราติดต่อไปต่างบอกว่าทริปเราเพ้อเจ้อมาก มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครทำกัน (ความจริงเค้าพูดดีๆ นะคะ แต่ทางเราสรุปใจความแบบนี้ค่ะ 55) ซึ่งก็เกือบถอดใจในตอนแรก จนไปได้ไลน์ติดต่อกับอาโกไมค์มาค่ะ (อาโกคือพี่ในภาษาพม่า เบอร์ติดต่อและภาพปลากรอบจะรวมให้ท้ายรีวิวนะคะ) เราแพลนทริปให้ฟังคร่าวๆ พี่เค้าก็บอกว่าสามารถไปตามแพลนเราได้ค่ะ คุณพระ! คุณได้ไปต่อค่ะ โดยทริปนี้รถที่ติดต่อไว้จะไปรับไปส่งเราทุกที่พร้อมรับส่งที่สนามบินค่ะ ดีงามมากเว่อร์
DAY1
ออกจากดอนเมือง 18.00 น. ถึงสนามบินย่างกุ้ง 19.00 น. (ตามเวลาพม่า) โดยมีอาโกตุน มายืนรอรับพร้อมป้ายชื่อเรา แอบเขินเบาๆ (อาโกไมค์ที่คุยกันตอนแรกแฟนคลอดลูกวันที่เราไปพอดีเลยให้อาโกตุนที่เป็นญาติมาแทนซึ่งดีกับพวกเรามากจริงๆค่ะ กราบบบ ) จากสนามบินก็ไปที่แรกกันเลย เจดีย์ชเวดากอง พระธาตุที่เก่าแก่ที่สุดในพม่า สวยงามยิ่งใหญ่เกรียงไกรของจริงค่ะ ควรมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง ใช้เวลาที่นี่เต็มที่ก่อนเข้าที่พัก (ที่พักในย่างกุ้งเราจะพักที่ Backpacker bed & breakfast ทั้ง 2 คืน ที่พักก็ตามราคา ที่นอนสะอาดใช้ได้ ห้องน้ำมีกลิ่นนิดหน่อย มีอาหารเช้า แต่เราออกจากที่พักเช้าทั้ง 2 วันเลยไม่ได้ทานอาหารเช้า) หลังจากเก็บของที่ที่พักแล้วก็ไปเดินเล่นที่ไชน่าทาวน์ของพม่ากันต่อ อยู่ไม่ไกลจากที่พักเดินไปได้ค่ะ บรรยากาศไชน่าทาวน์ก็จะคล้ายๆ ถนนข้าวสารบ้านเราขายอาหารปิ้งย่างและอาหารทะเล แต่อย่าถามหาความเป็นจีนจากที่นี่ เพราะเราจะหาไม่เจอค่ะ
ค่าเข้าชเวดากอง 10,000 จ๊าต ประมาณ 250 บาท
ไปถึงก็ฝนตกหนักมาก แต่สวยสมคำร่ำลือ
ต่อด้วยเดินเล่นที่ Chinatown
DAY2
นัดอาโกตุนมารับตอน 6.00 น. เช้า เพื่อไปเจดีย์กลางน้ำ เยเลพญาที่เมืองสิเรียม จากเจดีย์กลางน้ำก็ยิงยาวไปเมืองหงสาหรือพะโคต่อ แวะตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป ที่วัดไจ๊คะวายก่อนเที่ยง ก่อนยิงยาวอีกครั้งไปท่ารถขนหมูเพื่อขึ้นไปพระธาตุอินแขวนค่ะ เราถึงท่ารถประมาณบ่ายสามโมง โชคดีไปถึงแล้วคนเยอะ ไม่ต้องร้องเพลงรออะไรทั้งสิ้น ความบันเทิงจัดเต็มมากสมคำร่ำลือ เขย่ากันไปสามพันโค้งได้จนถึงด้านบน จากนั้นเดินต่ออีกไปยังที่พัก ที่พักคืนนี้เราจองที่ Yoe yoe lay hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่ใกล้พระธาตุมากที่สุด (บนพระธาตุมี 3 โรงแรม) เดินประมาณสามก้าวก็ถึงค่ะ (อันนี้เว่อร์ไป 555) แต่ใกล้จริงๆ คอนเฟิร์ม ที่พักต้องจองก่อนไปนะคะ เราจองผ่านทางอีเมลล์ของโรงแรมและโอนเงินผ่านเวิสเทินยูเนี่ยน ค่าธรรมเนียมประมาณหนึ่งร้อยบาทค่ะ ไม่แพง แต่อย่าคาดหวังอะไรกับโรงแรมมากนะคะไปแสวงบุญค่ะ ท่องไว้ๆ ฮึบๆ ไปถึงก็ไหว้พระธาตุให้ครบ 3 ครั้งเหมือนรีวิวต่างๆ ที่บอกไว้คือก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ตอนกลางคืน และตอนเช้าตรู่
ระหว่างทางไป เยเลพญา
นั่งเรือข้ามฟากไป ค่าเรือข้ามฝากไปเจดีย์กลางน้ำเหมา ไปกลับ 5,000 จ๊าต ประมาณคนละ 125 บาท
ค่าเข้าเจดีย์กลางน้ำ 3,000 จ๊าต ประมาณ 75 บาท
มาต่อที่วัดไจ๊คะวาย มีตักบาตรพระ แต่ต้องมาถึงก่อนเที่ยง
เฉพาะข้าวสวยที่เราจะนำเอามาใส่บาตรนี้ ทางวัดจะหุงข้าวใส่ถังใหญ่ ตั้งเอาไว้อยู่ตรงหน้าห้องฉันอาหาร พวกเราก็ไปตักเอาข้าวในถังใหญ่นั้น โดยการใช้จาน อลูมิเนียมเล็กๆที่เขาวางเอาไว้ที่ปากถังตักไป
วัดนี้มีชื่อเสียงและเป็นวัดใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองหงสาวดี เพราะเป็นโรงเรียนที่สอนพระพุทธศาสนา จึงมีคนส่งลูกหลานมาบวชเรียนธรรมะที่นี่กันเป็นจำนวนมากนับพันรูป
จากวัดไจ๊คะวาย ก็มุ่งหน้าสู่ พระธาตุอินทร์แขวนกัน
เรามาถึงประมาณ 15.00 น. อาโกตุนทำเวลาได้ดีมาก พาพวกเราไปส่งขึ้นรถขนหมู
รถเต็ม แบบเต็มจริงๆ ถึงจะออก
มีจอดแวะระหว่างทางเล็กน้อย อุดหนุนชาวบ้าน
ค่าเข้าอินแขวน คนละ 6,000 จ๊าด ประมาณ 150 บาท
บรรยากาศระหว่างทางที่จะเดินไปพระธาตุ
ใกล้ถึงทางเข้าแล้ว
ถึงตรงนี้ต้องถอดรองเท้าเดิน จะปูด้วยกระเบื้องหินอ่อนตลอดทางจนไปถึงพระธาตุ
ตอนเราไปถึงฝนตกหนักมากๆ จนถึงอีกวันนึงเลย แต่ด้วยแรงศรัทธาที่มี ก็หยิบเสื้อกันฝนที่เตรียมมา ใส่ไปไหว้กัน 3 เวลา
อันนี้เป็นบรรยากาศของตอนเช้า วันที่ 3
DAY3
เช้านี้ฝนก็ยังตกประหนึ่งเราไปโกรธกันมาแต่ชาติปางไหน แต่ด้วยศรัทธาอันแรงกล้าหลังจากทานอาหารเช้าที่รสชาติเกือบใช้ได้ ก็ฝ่าฝนออกมาไหว้พระธาตุยามเช้าและใส่บาตรพระที่ยืนตากฝนรอบิณฑบาตอยู่ ก่อนกลับลงมาเพื่อแวะเที่ยวเมืองหงสา และกลับเข้าย่างกุ้งกันค่ะ วันนี้ถือเป็นวันจัดเต็มชุดใหญ่ไฟกระพริบ ที่หงสาเราแวะพระราชวังบุเรงนอง มหาเจดีย์ชเวมอดอ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเหลียว (พระนอนยิ้มหวาน เราสามารถหาซื้อของฝากได้ที่นี่นะคะ ราคาจะถูกกว่าที่อื่น) และวัดไจ๊ปุ่น (พระสี่ทิศ) กลับเข้าย่างกุ้ง แวะวัดพระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตยี (พระนอนตาหวาน) และเทพทันใจที่วัดโบตาทาว จากนั้นก็กลับที่พักที่เดิมในย่างกุ้ง ก่อนออกมาเดินชิวๆ เที่ยวห้างของพม่ากันที่ junction city ขนาดไม่ใหญ่โตมากแต่มีร้านอาหารหลายร้าน พวกเรารอดตายจากที่นี่ 55 มี KFC ร้านราเมง ร้านชา KOI The’ และ miniso เหมือนที่ไทยค่ะ หลังจากหนังท้องตึง ระหว่างเดินกลับที่พักจะผ่านเจดีย์สุเล เลยแวะเป็นที่สุดท้าย และเดินถ่ายรูปเมืองย่างกุ้งยามค่ำคืนส่งท้ายก่อนกลับค่ะ
ค่าเข้าสถานที่เที่ยงในเมืองหงสาคิดเหมา 4 ที่ คนละ 10,000 จ๊าต ประมาณ 250 บาท
รัฐบาลพม่าทำได้คือ ขุดเอาซากเสาขึ้นมาเก็บ และสร้างพระราชวังเลียนแบบของเดิมทับลงไป ตัวอาคารสร้างใหม่มี 2 ส่วน
ส่วนแรกเรียกว่า “กามโบสะตาหริ” หรือ “กัมโพชธานี” เป็นส่วนที่เอาไว้ว่าราชการ
และส่วนที่ 2 คือ “บัลลังก์ผึ้ง” เป็นส่วนที่บรรทม
บรรยากาศภายในพระราชวังบุเรงนอง
ฝนยังคงตกตลอด
“บัลลังก์ผึ้ง”
ออกเดินทางไปต่อที่ เจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaikpun Pagoda) หรือ พระสี่ทิศ เมืองหงสาวดี มีอายุกว่า 500 ปี เป็นวัดที่สร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ไปยัง 4 ทิศ แทนความหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์
เป็นพระนอนปางพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวกว่า 70 เมตร เป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดและมีความงดงามที่สุดของประเทศพม่า
หรือพระธาตุมุเตา เป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในพม่าและเป็นหนึ่งในเจดีย์โบราณที่เก่าแก่มีอายุกว่า 2,600 ปี
เทพทันใจ”(นัตโบโบยี) ณ เจดีย์โบตาทาวน์ เป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่าให้การสักการะและนับถือเป็นอย่างมาก
และสุดท้าย เจดีย์สุเล เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม เมืองย่างกุ้ง
เรียกได้ว่า 2 วันของเราเก็บครบตามที่ตั้งใจได้หมด แต่ละที่ก็ใช้เวลาสบายๆ ไม่ต้องรีบร้อนอะไร อาหารที่พม่าก็ตามที่คนอื่นๆ เคยรีวิวเลยค่ะ แล้วแต่ความชอบจริงๆ แต่ทางเราไม่ไหวกับกลิ่นเครื่องเทศของเค้าและความเค็มเท่าไหร่ ราคาก็ไม่แรงค่ะพอกับที่ไทย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปนี้ตกคนละประมาณ 8,000 บาท (ไม่รวมค่าของฝาก เงินที่ใช้เราแลกเงินจ๊าตไปจากที่ super rich ต้องโทรไปจองก่อนวันไป 1 วัน สะดวกดีไม่ต้องไปแลกหลายครั้งหรือกลัวแบงค์ยับ) ฝนก็ตกตามฤดูของเค้านะคะ อย่าไปโกรธเคืองอะไรเค้าเลยค่ะ ทำใจสบายๆ พกร่ม เสื้อกันฝนและยาไปทุกอย่างหายห่วงค่ะ พม่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดและข้อมูลติดต่อไกด์จะมาบอกใน comment
Myanmar in the Rainy Season >> ไปพม่ากันมั้ย รีวิวพม่าหน้าฝน (ย่างกุ้ง สิเรียม หงสาวดี มอญ) เก็บครบทุกที่ 2 วัน 3 คืน
ก่อนไปก็กังวลและเตรียมใจไปส่วนนึงว่าโปรแกรมต้องแน่นแน่นอน แต่พอไปจริงแพลนที่วางไว้ใช้เวลาได้พอดีและไปได้ครบทุกที่จริงๆ จึงอยากมาแบ่งปันให้คนที่อยากไปแสวงบุญที่พม่าแต่กำลังกังวลปัญหาร้อยแปดได้มีทางเลือกมากขึ้น ต่อไปนี้คือการรีวิวแบบละเอียดยิบ เราจะมาตีแผ่ทุกสิ่ง แจกแจงทุกอย่าง ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ที่อัพเดทล่าสุด และค่าใช้จ่ายที่ใช้ทั้งหมดในทริปนี้ ไปค่ะ เริ่ม!
เริ่มจากเรากดจองตั๋วไปกลับจากหางแดงได้ในราคา 1,990 บาท ประมาณนี้ เดินทางเย็นวันเสาร์เวลา 18.00 น. และกลับเช้าวันอังคารเวลา 8.30 น. (ที่มาของ 3 คืน) เนื่องจากความอยากและทะเยอทะยานในตัวเรามีสูงมาก ที่ want จะไปให้ครบทุกที่ในเวลา 2 วัน ทริปนี้จึงตัดสินใจเช่ารถโดยดูรีวิวจากในพันทิปได้เบอร์ติดต่อมาหลายราย แต่ๆๆๆๆๆ ทุกคนส่ายหน้าให้กับทริปเราทั้งสิ้น หลายคนที่เราติดต่อไปต่างบอกว่าทริปเราเพ้อเจ้อมาก มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครทำกัน (ความจริงเค้าพูดดีๆ นะคะ แต่ทางเราสรุปใจความแบบนี้ค่ะ 55) ซึ่งก็เกือบถอดใจในตอนแรก จนไปได้ไลน์ติดต่อกับอาโกไมค์มาค่ะ (อาโกคือพี่ในภาษาพม่า เบอร์ติดต่อและภาพปลากรอบจะรวมให้ท้ายรีวิวนะคะ) เราแพลนทริปให้ฟังคร่าวๆ พี่เค้าก็บอกว่าสามารถไปตามแพลนเราได้ค่ะ คุณพระ! คุณได้ไปต่อค่ะ โดยทริปนี้รถที่ติดต่อไว้จะไปรับไปส่งเราทุกที่พร้อมรับส่งที่สนามบินค่ะ ดีงามมากเว่อร์
DAY1
ออกจากดอนเมือง 18.00 น. ถึงสนามบินย่างกุ้ง 19.00 น. (ตามเวลาพม่า) โดยมีอาโกตุน มายืนรอรับพร้อมป้ายชื่อเรา แอบเขินเบาๆ (อาโกไมค์ที่คุยกันตอนแรกแฟนคลอดลูกวันที่เราไปพอดีเลยให้อาโกตุนที่เป็นญาติมาแทนซึ่งดีกับพวกเรามากจริงๆค่ะ กราบบบ ) จากสนามบินก็ไปที่แรกกันเลย เจดีย์ชเวดากอง พระธาตุที่เก่าแก่ที่สุดในพม่า สวยงามยิ่งใหญ่เกรียงไกรของจริงค่ะ ควรมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง ใช้เวลาที่นี่เต็มที่ก่อนเข้าที่พัก (ที่พักในย่างกุ้งเราจะพักที่ Backpacker bed & breakfast ทั้ง 2 คืน ที่พักก็ตามราคา ที่นอนสะอาดใช้ได้ ห้องน้ำมีกลิ่นนิดหน่อย มีอาหารเช้า แต่เราออกจากที่พักเช้าทั้ง 2 วันเลยไม่ได้ทานอาหารเช้า) หลังจากเก็บของที่ที่พักแล้วก็ไปเดินเล่นที่ไชน่าทาวน์ของพม่ากันต่อ อยู่ไม่ไกลจากที่พักเดินไปได้ค่ะ บรรยากาศไชน่าทาวน์ก็จะคล้ายๆ ถนนข้าวสารบ้านเราขายอาหารปิ้งย่างและอาหารทะเล แต่อย่าถามหาความเป็นจีนจากที่นี่ เพราะเราจะหาไม่เจอค่ะ
ค่าเข้าชเวดากอง 10,000 จ๊าต ประมาณ 250 บาท
ไปถึงก็ฝนตกหนักมาก แต่สวยสมคำร่ำลือ
ต่อด้วยเดินเล่นที่ Chinatown
DAY2
นัดอาโกตุนมารับตอน 6.00 น. เช้า เพื่อไปเจดีย์กลางน้ำ เยเลพญาที่เมืองสิเรียม จากเจดีย์กลางน้ำก็ยิงยาวไปเมืองหงสาหรือพะโคต่อ แวะตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป ที่วัดไจ๊คะวายก่อนเที่ยง ก่อนยิงยาวอีกครั้งไปท่ารถขนหมูเพื่อขึ้นไปพระธาตุอินแขวนค่ะ เราถึงท่ารถประมาณบ่ายสามโมง โชคดีไปถึงแล้วคนเยอะ ไม่ต้องร้องเพลงรออะไรทั้งสิ้น ความบันเทิงจัดเต็มมากสมคำร่ำลือ เขย่ากันไปสามพันโค้งได้จนถึงด้านบน จากนั้นเดินต่ออีกไปยังที่พัก ที่พักคืนนี้เราจองที่ Yoe yoe lay hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่ใกล้พระธาตุมากที่สุด (บนพระธาตุมี 3 โรงแรม) เดินประมาณสามก้าวก็ถึงค่ะ (อันนี้เว่อร์ไป 555) แต่ใกล้จริงๆ คอนเฟิร์ม ที่พักต้องจองก่อนไปนะคะ เราจองผ่านทางอีเมลล์ของโรงแรมและโอนเงินผ่านเวิสเทินยูเนี่ยน ค่าธรรมเนียมประมาณหนึ่งร้อยบาทค่ะ ไม่แพง แต่อย่าคาดหวังอะไรกับโรงแรมมากนะคะไปแสวงบุญค่ะ ท่องไว้ๆ ฮึบๆ ไปถึงก็ไหว้พระธาตุให้ครบ 3 ครั้งเหมือนรีวิวต่างๆ ที่บอกไว้คือก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ตอนกลางคืน และตอนเช้าตรู่
ระหว่างทางไป เยเลพญา
นั่งเรือข้ามฟากไป ค่าเรือข้ามฝากไปเจดีย์กลางน้ำเหมา ไปกลับ 5,000 จ๊าต ประมาณคนละ 125 บาท
ค่าเข้าเจดีย์กลางน้ำ 3,000 จ๊าต ประมาณ 75 บาท
มาต่อที่วัดไจ๊คะวาย มีตักบาตรพระ แต่ต้องมาถึงก่อนเที่ยง
เฉพาะข้าวสวยที่เราจะนำเอามาใส่บาตรนี้ ทางวัดจะหุงข้าวใส่ถังใหญ่ ตั้งเอาไว้อยู่ตรงหน้าห้องฉันอาหาร พวกเราก็ไปตักเอาข้าวในถังใหญ่นั้น โดยการใช้จาน อลูมิเนียมเล็กๆที่เขาวางเอาไว้ที่ปากถังตักไป
วัดนี้มีชื่อเสียงและเป็นวัดใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองหงสาวดี เพราะเป็นโรงเรียนที่สอนพระพุทธศาสนา จึงมีคนส่งลูกหลานมาบวชเรียนธรรมะที่นี่กันเป็นจำนวนมากนับพันรูป
จากวัดไจ๊คะวาย ก็มุ่งหน้าสู่ พระธาตุอินทร์แขวนกัน
เรามาถึงประมาณ 15.00 น. อาโกตุนทำเวลาได้ดีมาก พาพวกเราไปส่งขึ้นรถขนหมู
รถเต็ม แบบเต็มจริงๆ ถึงจะออก
มีจอดแวะระหว่างทางเล็กน้อย อุดหนุนชาวบ้าน
ค่าเข้าอินแขวน คนละ 6,000 จ๊าด ประมาณ 150 บาท
บรรยากาศระหว่างทางที่จะเดินไปพระธาตุ
ใกล้ถึงทางเข้าแล้ว
ถึงตรงนี้ต้องถอดรองเท้าเดิน จะปูด้วยกระเบื้องหินอ่อนตลอดทางจนไปถึงพระธาตุ
ตอนเราไปถึงฝนตกหนักมากๆ จนถึงอีกวันนึงเลย แต่ด้วยแรงศรัทธาที่มี ก็หยิบเสื้อกันฝนที่เตรียมมา ใส่ไปไหว้กัน 3 เวลา
อันนี้เป็นบรรยากาศของตอนเช้า วันที่ 3
DAY3
เช้านี้ฝนก็ยังตกประหนึ่งเราไปโกรธกันมาแต่ชาติปางไหน แต่ด้วยศรัทธาอันแรงกล้าหลังจากทานอาหารเช้าที่รสชาติเกือบใช้ได้ ก็ฝ่าฝนออกมาไหว้พระธาตุยามเช้าและใส่บาตรพระที่ยืนตากฝนรอบิณฑบาตอยู่ ก่อนกลับลงมาเพื่อแวะเที่ยวเมืองหงสา และกลับเข้าย่างกุ้งกันค่ะ วันนี้ถือเป็นวันจัดเต็มชุดใหญ่ไฟกระพริบ ที่หงสาเราแวะพระราชวังบุเรงนอง มหาเจดีย์ชเวมอดอ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเหลียว (พระนอนยิ้มหวาน เราสามารถหาซื้อของฝากได้ที่นี่นะคะ ราคาจะถูกกว่าที่อื่น) และวัดไจ๊ปุ่น (พระสี่ทิศ) กลับเข้าย่างกุ้ง แวะวัดพระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตยี (พระนอนตาหวาน) และเทพทันใจที่วัดโบตาทาว จากนั้นก็กลับที่พักที่เดิมในย่างกุ้ง ก่อนออกมาเดินชิวๆ เที่ยวห้างของพม่ากันที่ junction city ขนาดไม่ใหญ่โตมากแต่มีร้านอาหารหลายร้าน พวกเรารอดตายจากที่นี่ 55 มี KFC ร้านราเมง ร้านชา KOI The’ และ miniso เหมือนที่ไทยค่ะ หลังจากหนังท้องตึง ระหว่างเดินกลับที่พักจะผ่านเจดีย์สุเล เลยแวะเป็นที่สุดท้าย และเดินถ่ายรูปเมืองย่างกุ้งยามค่ำคืนส่งท้ายก่อนกลับค่ะ
ค่าเข้าสถานที่เที่ยงในเมืองหงสาคิดเหมา 4 ที่ คนละ 10,000 จ๊าต ประมาณ 250 บาท
รัฐบาลพม่าทำได้คือ ขุดเอาซากเสาขึ้นมาเก็บ และสร้างพระราชวังเลียนแบบของเดิมทับลงไป ตัวอาคารสร้างใหม่มี 2 ส่วน
ส่วนแรกเรียกว่า “กามโบสะตาหริ” หรือ “กัมโพชธานี” เป็นส่วนที่เอาไว้ว่าราชการ
และส่วนที่ 2 คือ “บัลลังก์ผึ้ง” เป็นส่วนที่บรรทม
บรรยากาศภายในพระราชวังบุเรงนอง
ฝนยังคงตกตลอด
“บัลลังก์ผึ้ง”
ออกเดินทางไปต่อที่ เจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaikpun Pagoda) หรือ พระสี่ทิศ เมืองหงสาวดี มีอายุกว่า 500 ปี เป็นวัดที่สร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ไปยัง 4 ทิศ แทนความหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์
เป็นพระนอนปางพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวกว่า 70 เมตร เป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดและมีความงดงามที่สุดของประเทศพม่า
หรือพระธาตุมุเตา เป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในพม่าและเป็นหนึ่งในเจดีย์โบราณที่เก่าแก่มีอายุกว่า 2,600 ปี
เทพทันใจ”(นัตโบโบยี) ณ เจดีย์โบตาทาวน์ เป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่าให้การสักการะและนับถือเป็นอย่างมาก
และสุดท้าย เจดีย์สุเล เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม เมืองย่างกุ้ง
เรียกได้ว่า 2 วันของเราเก็บครบตามที่ตั้งใจได้หมด แต่ละที่ก็ใช้เวลาสบายๆ ไม่ต้องรีบร้อนอะไร อาหารที่พม่าก็ตามที่คนอื่นๆ เคยรีวิวเลยค่ะ แล้วแต่ความชอบจริงๆ แต่ทางเราไม่ไหวกับกลิ่นเครื่องเทศของเค้าและความเค็มเท่าไหร่ ราคาก็ไม่แรงค่ะพอกับที่ไทย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปนี้ตกคนละประมาณ 8,000 บาท (ไม่รวมค่าของฝาก เงินที่ใช้เราแลกเงินจ๊าตไปจากที่ super rich ต้องโทรไปจองก่อนวันไป 1 วัน สะดวกดีไม่ต้องไปแลกหลายครั้งหรือกลัวแบงค์ยับ) ฝนก็ตกตามฤดูของเค้านะคะ อย่าไปโกรธเคืองอะไรเค้าเลยค่ะ ทำใจสบายๆ พกร่ม เสื้อกันฝนและยาไปทุกอย่างหายห่วงค่ะ พม่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดและข้อมูลติดต่อไกด์จะมาบอกใน comment