คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เรื่องแดด สำหรับกุหลาบจริงๆแล้วให้โดนแดดต่อวันเวลายิ่งนานยิ่งดี
แต่ควรให้โดนแดดจัดๆไม่ต่ำกว่า 5-6 ชั่วโมงต่อวัน
ในภูมิประเทศเขตหนาวที่แดดไม่แรงคือไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน
ส่วนจะให้เลื้อยเป็นพุ่มสวยๆแบบในภาพที่เห็นกันทั่วไป
แดดทั้งวันควรส่องสม่ำเสมอจากทุกมุมของต้นกุหลาบพอๆกัน
ถ้าแสงส่องจากด้านใดด้านหนึ่ง และอีกด้านไม่มีแสงส่องมา อย่างเช่น ติดมุมตึก แล้วมุมตึกบังแสง
กุหลาบจะไม่แตกกิ่งก้านทั้งต้น เท่าๆกัน แต่จะยืดกิ่งก้านยาวไปทางที่มีแดดส่องมาเยอะที่สุดเท่านั้น
เป็นธรรมชาติของต้นไม้ที่จะยืดกิ่งเข้าไปหามุมที่แสงที่จ้าที่สุด เพื่อสังเคาระห์แสงให้ได้มากที่สุด
อีกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับกุหลาบคือเวลาเตรียมเครื่องปลูก
ต้องทำให้โปร่งหน่อย ให้น้ำและอากาศถ่ายเทให้ดี ไม่ควรใส่ดินทั้งกระถาง
ดินมีได้มากสุดต้องไม่เกินกว่า50%ของทั้งกระถาง ต่ำกว่า50%ได้แต่ห้ามเกิน ดินราวๆ35%-40% กำลังดี
ส่วนเนื้อดินที่เอามาใช้แนะนำว่าให้ใช้ขุยมะพร้าวที่หมักเย็นและล้างยางแล้วจะดีกว่าเอาดินเหนียวมาผสม
อีกครึ่งนึงให้ใส่อินทรีย์วัตถุที่เนื้อหยาบๆ ไปผสมแทน อย่างเปลือกถั่ว
ใบก้ามปู(ถ้าใบก้ามปูระวังเศษดินที่ติดมาตอนกวาดใบมาขายเรา ถ้าไม่ร่อนเศษดินออกมาให้มากใส่ไปนานเข้ากระถางจะแน่นอีก)
ฟางข้าว เป็นต้น
แต่อย่าใช้กาบมะพร้าวสับผสม เพราะอมน้ำมากไปรากจะขึ้นราได้ง่าย
แต่ใช้รองก้นกระถางกันดินไหลออกไปรวมกันที่รูระบายน้ำตรงก้นกระถางได้
แต่ไม่เหมาะที่จะผสมกับดินทั้งกระถาง
ต้องเข้าใจว่ากุหลาบจะจู้จี้มากที่สุดเรื่องเครื่องปลูก และความชื้นในดิน นอกจากเรื่องแดดกับปุ๋ย
แล้งไปก็ไม่ทน แต่ชื้นแฉะไปรากก็เน่าได้อีก (ชื้นหรือหมาดๆได้แต่ห้ามแฉะ)
อากาศในดินน้อยรากก็ขาดอากาศตายได้อีก
ส่วนเรื่องรดน้ำ ถ้าให้ดีคือรดตอนเช้าก่อนแดดแรง จะดีที่สุด
ส่วนใบและดอกเปียกแล้วราขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับเวลาที่รด ถ้ารดก่อน4โมงเย็นใบเปียกไม่เป็นไร
เพราะเดี๋ยวก็แห้ง แต่หลัง4โมงหรือฟ้ามืดแล้วการรดให้ใบเปียกความชื้นจะสะสมแล้วราขึ้นได้ง่าย
แต่กุหลาบบางสายพันธุ์ที่ทนโรดและแมลงมากๆ ก็ไม่มีผลกับเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่ทางที่ดีคือ หลังฟ้ามืดห้ามรดให้ใบหรือดอกเปียก ตอนฟ้าสว่างไม่เป็นไร
ส่วนกุหลาบที่ได้มาน่าจะเป็นกุหลาบอังกฤษ ที่ต้นเป็นพุ่มกึ่งเลื้อยกลีบกลีบเยอะๆแน่นๆ แต่ไม่แน่ใจเรื่องชื่อ
น่าจะ bishop's castle หรือเปล่า แล้วดอกมีกลิ่นหอมเหมือนมอญหรือเปล่า
ต้นนี้ในตลาดชอบเอามาขายกันทั่วไป เลี้ยงง่ายเหมือน วาเลนไทน์ ฟูซิเลีย หรือ มอญ
แต่ควรให้โดนแดดจัดๆไม่ต่ำกว่า 5-6 ชั่วโมงต่อวัน
ในภูมิประเทศเขตหนาวที่แดดไม่แรงคือไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน
ส่วนจะให้เลื้อยเป็นพุ่มสวยๆแบบในภาพที่เห็นกันทั่วไป
แดดทั้งวันควรส่องสม่ำเสมอจากทุกมุมของต้นกุหลาบพอๆกัน
ถ้าแสงส่องจากด้านใดด้านหนึ่ง และอีกด้านไม่มีแสงส่องมา อย่างเช่น ติดมุมตึก แล้วมุมตึกบังแสง
กุหลาบจะไม่แตกกิ่งก้านทั้งต้น เท่าๆกัน แต่จะยืดกิ่งก้านยาวไปทางที่มีแดดส่องมาเยอะที่สุดเท่านั้น
เป็นธรรมชาติของต้นไม้ที่จะยืดกิ่งเข้าไปหามุมที่แสงที่จ้าที่สุด เพื่อสังเคาระห์แสงให้ได้มากที่สุด
อีกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับกุหลาบคือเวลาเตรียมเครื่องปลูก
ต้องทำให้โปร่งหน่อย ให้น้ำและอากาศถ่ายเทให้ดี ไม่ควรใส่ดินทั้งกระถาง
ดินมีได้มากสุดต้องไม่เกินกว่า50%ของทั้งกระถาง ต่ำกว่า50%ได้แต่ห้ามเกิน ดินราวๆ35%-40% กำลังดี
ส่วนเนื้อดินที่เอามาใช้แนะนำว่าให้ใช้ขุยมะพร้าวที่หมักเย็นและล้างยางแล้วจะดีกว่าเอาดินเหนียวมาผสม
อีกครึ่งนึงให้ใส่อินทรีย์วัตถุที่เนื้อหยาบๆ ไปผสมแทน อย่างเปลือกถั่ว
ใบก้ามปู(ถ้าใบก้ามปูระวังเศษดินที่ติดมาตอนกวาดใบมาขายเรา ถ้าไม่ร่อนเศษดินออกมาให้มากใส่ไปนานเข้ากระถางจะแน่นอีก)
ฟางข้าว เป็นต้น
แต่อย่าใช้กาบมะพร้าวสับผสม เพราะอมน้ำมากไปรากจะขึ้นราได้ง่าย
แต่ใช้รองก้นกระถางกันดินไหลออกไปรวมกันที่รูระบายน้ำตรงก้นกระถางได้
แต่ไม่เหมาะที่จะผสมกับดินทั้งกระถาง
ต้องเข้าใจว่ากุหลาบจะจู้จี้มากที่สุดเรื่องเครื่องปลูก และความชื้นในดิน นอกจากเรื่องแดดกับปุ๋ย
แล้งไปก็ไม่ทน แต่ชื้นแฉะไปรากก็เน่าได้อีก (ชื้นหรือหมาดๆได้แต่ห้ามแฉะ)
อากาศในดินน้อยรากก็ขาดอากาศตายได้อีก
ส่วนเรื่องรดน้ำ ถ้าให้ดีคือรดตอนเช้าก่อนแดดแรง จะดีที่สุด
ส่วนใบและดอกเปียกแล้วราขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับเวลาที่รด ถ้ารดก่อน4โมงเย็นใบเปียกไม่เป็นไร
เพราะเดี๋ยวก็แห้ง แต่หลัง4โมงหรือฟ้ามืดแล้วการรดให้ใบเปียกความชื้นจะสะสมแล้วราขึ้นได้ง่าย
แต่กุหลาบบางสายพันธุ์ที่ทนโรดและแมลงมากๆ ก็ไม่มีผลกับเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่ทางที่ดีคือ หลังฟ้ามืดห้ามรดให้ใบหรือดอกเปียก ตอนฟ้าสว่างไม่เป็นไร
ส่วนกุหลาบที่ได้มาน่าจะเป็นกุหลาบอังกฤษ ที่ต้นเป็นพุ่มกึ่งเลื้อยกลีบกลีบเยอะๆแน่นๆ แต่ไม่แน่ใจเรื่องชื่อ
น่าจะ bishop's castle หรือเปล่า แล้วดอกมีกลิ่นหอมเหมือนมอญหรือเปล่า
ต้นนี้ในตลาดชอบเอามาขายกันทั่วไป เลี้ยงง่ายเหมือน วาเลนไทน์ ฟูซิเลีย หรือ มอญ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
ในภาพ soeur Emmanuelle rose ค่ะ กุหลาบฝรั่งเศษ ก้านแขนงเล็ก ๆ ดอกเดี่ยว ๆ ถ้าก้านสมบูรณ์หน่อย จะแตกได้เป็นช่อ 2 - 4 ดอกแล้วแต่ปริมาณการสะสมอาหารของลำต้น
ส่วน Bishop's castle หรือกุหลาบเลื้อยอังกฤษพันธุ์นิยม ดอกจะติดช่อง่ายกว่ามาก ช่อหนึ่งอาจะมี 5 - 8 ช่อเลย ทรงกลีบ สี คล้ายกัน แต่กลิ่นหอมไปคนละโทน
จะทำเลื้อยก็ได้ แต่ก้านจะแข็งไปซักหน่อย ปรกติ กุหลาบที่เรียกกันว่า Climber ก้านจะอ่อน ดัดได้ในปีสองปีแรก พอดัดเข้าซุ้มอายุเกิน 3 - 4 ปี ก้านจะหนาแข็งไปเลย ซึ่งกุหลาบหลายพันธุ์มันกึ่งพุ่มกึ่งเลื้อยแบบนี้แหละ คือมีกิ่งแขนงแบบ kink ที่แข็ง แล้วก็มี scandent ที่อ่อนยืด ดัดได้ปะปน soeur Emmanuelle ก็เป็นแบบนั้น
เรื่องเครื่องปลูก หลายเจ้าในไทย เน้นไปที่แกลบ - ขุยมะพร้าว หวังจะให้มันดินโปร่งมาก ๆ ระบายน้ำดี แต่เก็บความชื้นได้ แต่ตามมาด้วยปัญหาราค่ะ
รามีหลายชนิดทั้งดีทั้งร้าย ถ้าโดนราร้ายเล่นงานก็เป็น die back ได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน
หากผสมเครื่องปลูกแล้วไม่อยากโดนเล่นงานจนปวดหัว ควรผสมไตรโคเดอม่ารด หรือ พวกราไมคอไรซา โรยรากก่อนลงกระถางหรือลงดินค่ะ
ราชนิดดีพวกนี้มันกำจัดราอื่นในดิน โดยเฉพาะไมคอไรซา ที่ทำหน้าที่เหมือน "พ่อครัว" ของพืช โดยจะเกาะตามรากพืชแล้วแปรสารอาหารย่อยยากจำพวก โพแทสเซียม ฟอสฟอรัสป้อนพืชได้ดีกว่า หากจะเลี้ยงกุหลาบสายอินทรีย์ที่ไม่อยากพึ่งเคมีมากนักควรศึกษาไว้ ได้ผลช้ากว่าการใช้เคมี แต่เป็นผลดีต่อพืชในระยะยาว หากสั่งกุหลาบเดวิดออสตินมาจากอังกฤษ เขาก็จะมีผงราชนิดนี้แหละให้โรยบนรากก่อนลงปลูก รากจะเดินไวแข็งแรง และกุหลาบสมบูรณ์ทนโรคกว่าปรกติมาก
เรื่องปุ๋ย ก็สำคัญค่ะ กุหลาบกินเก่งเพราะขยันออกดอกแตกกิ่ง
จริง ๆ ถ้าจะพึ่งเคมี ก็ ใช้ออสโมโค๊ด สูตรเสมอรองพื้น เติม สูตเร่งดอกช่วงติดดอกสลับ 3 - 6 เดือน ก็ง่ายดีค่ะ ไม่ต้องมาเสียเวลาให้บ่อยทุกอาทิตย์ แต่ ถ้าจะเลี้ยงสายอินทรีย์ .... ปัสสาวะ + เปลือกกล้วย คือปุ๋ยกุหลาบชั้นเยี่ยมค่ะ
ปัสสาวะมนุษย์นี่แหละ แต่ต้องมั่นใจว่าไม่เป็นโรคทางเดินปัสสาวะหรือทานยาอะไรต่อเนื่องนะ เช้า ๆ ฉิ๊งฉ่องเสร็จ ตวงเก็บไว้แก้วหนึ่ง เจือจางโดยการผสมน้ำเปล่าอีก 8 แก้ว รดกุหลาบไปเลยค่ะไม่ต้องหมัก ไนโตรเจนและกำมะถันสูง แถมมีกรดยูริคที่ฆ่าเชื้อบางตัวในดิน กุหลาบปลื้ม กุหลาบชอบกำมะถัน และดินเป็นกรดอ่อน ๆ ค่ะ ได้ดูดกำมะถันช่วงติดดอกสะสม ดอกจะหอม
ส่วนเปลือกกล้วย ทานเหลือ ๆ เอาไปตากแห้งจนกรอบแล้วเอามาตำโรยรอบโคนได้เลยค่ะ โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สูง ช่วยเรื่องคุณภาพดอก ขนาด สี ทำได้อาทิตย์ละครั้งก็ดี แต่ไม่ต้องถี่ขนาดทำทุกวัน
อีกเรื่องที่คนปลูกกุหลาบควรทราบ ควรหา companion plant ให้น้องด้วย
กุหลาบชอบกระเทียมค่ะ ตระกูลหัวหอมก็ได้ เพราะมีกำมะถันสูง ปลูกใกล้ ๆ ในระยะรากกุหลาบมันจะแบ่งกำมะถันให้กุหลาบหอมขึ้น สีสวยขึ้น
ถ้าเน้นหอมแบบดอกสวยด้วย ลองปลูกต้นหอมฝรั่ง ( Chives ) ใกล้ ๆ โคนกุหลาบดูค่ะ หรือ เอาที่ สวยเสมอกัน แนะนำดอกออเลี่ยม
นอกจากนั้น การปลูกดอกซัลเวียร์(สีอะไรก็ได้ แต่ไทยที่เห็นเยอะคือบลูซัลเวียร์) เสจ มิ้นท์ เจอราเนียม อนิสฮิซซอป หรือ ออริกาโนรอบ ๆ จะช่วยเรื่องขับแมลง ให้ธรรมชาติดูแลกันเอง เราก็แค่เสริมเคมีธาตินาน ๆ ครั้งกระตุ้นพอ
ส่วนตัวปลูกซัลเวียร์ กับ catmint ตระกูล Nepata ใกล้กุหลาบค่ะ ไม่เคยเจอปัญหาเพลี้ยเลย แต่ก็มีฉีดราบิวเวอเรียร์บ้างบางคราว เพราะนังมะลิข้าง ๆ ดันโดนเล่นงานแทน
ส่วน Bishop's castle หรือกุหลาบเลื้อยอังกฤษพันธุ์นิยม ดอกจะติดช่อง่ายกว่ามาก ช่อหนึ่งอาจะมี 5 - 8 ช่อเลย ทรงกลีบ สี คล้ายกัน แต่กลิ่นหอมไปคนละโทน
จะทำเลื้อยก็ได้ แต่ก้านจะแข็งไปซักหน่อย ปรกติ กุหลาบที่เรียกกันว่า Climber ก้านจะอ่อน ดัดได้ในปีสองปีแรก พอดัดเข้าซุ้มอายุเกิน 3 - 4 ปี ก้านจะหนาแข็งไปเลย ซึ่งกุหลาบหลายพันธุ์มันกึ่งพุ่มกึ่งเลื้อยแบบนี้แหละ คือมีกิ่งแขนงแบบ kink ที่แข็ง แล้วก็มี scandent ที่อ่อนยืด ดัดได้ปะปน soeur Emmanuelle ก็เป็นแบบนั้น
เรื่องเครื่องปลูก หลายเจ้าในไทย เน้นไปที่แกลบ - ขุยมะพร้าว หวังจะให้มันดินโปร่งมาก ๆ ระบายน้ำดี แต่เก็บความชื้นได้ แต่ตามมาด้วยปัญหาราค่ะ
รามีหลายชนิดทั้งดีทั้งร้าย ถ้าโดนราร้ายเล่นงานก็เป็น die back ได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน
หากผสมเครื่องปลูกแล้วไม่อยากโดนเล่นงานจนปวดหัว ควรผสมไตรโคเดอม่ารด หรือ พวกราไมคอไรซา โรยรากก่อนลงกระถางหรือลงดินค่ะ
ราชนิดดีพวกนี้มันกำจัดราอื่นในดิน โดยเฉพาะไมคอไรซา ที่ทำหน้าที่เหมือน "พ่อครัว" ของพืช โดยจะเกาะตามรากพืชแล้วแปรสารอาหารย่อยยากจำพวก โพแทสเซียม ฟอสฟอรัสป้อนพืชได้ดีกว่า หากจะเลี้ยงกุหลาบสายอินทรีย์ที่ไม่อยากพึ่งเคมีมากนักควรศึกษาไว้ ได้ผลช้ากว่าการใช้เคมี แต่เป็นผลดีต่อพืชในระยะยาว หากสั่งกุหลาบเดวิดออสตินมาจากอังกฤษ เขาก็จะมีผงราชนิดนี้แหละให้โรยบนรากก่อนลงปลูก รากจะเดินไวแข็งแรง และกุหลาบสมบูรณ์ทนโรคกว่าปรกติมาก
เรื่องปุ๋ย ก็สำคัญค่ะ กุหลาบกินเก่งเพราะขยันออกดอกแตกกิ่ง
จริง ๆ ถ้าจะพึ่งเคมี ก็ ใช้ออสโมโค๊ด สูตรเสมอรองพื้น เติม สูตเร่งดอกช่วงติดดอกสลับ 3 - 6 เดือน ก็ง่ายดีค่ะ ไม่ต้องมาเสียเวลาให้บ่อยทุกอาทิตย์ แต่ ถ้าจะเลี้ยงสายอินทรีย์ .... ปัสสาวะ + เปลือกกล้วย คือปุ๋ยกุหลาบชั้นเยี่ยมค่ะ
ปัสสาวะมนุษย์นี่แหละ แต่ต้องมั่นใจว่าไม่เป็นโรคทางเดินปัสสาวะหรือทานยาอะไรต่อเนื่องนะ เช้า ๆ ฉิ๊งฉ่องเสร็จ ตวงเก็บไว้แก้วหนึ่ง เจือจางโดยการผสมน้ำเปล่าอีก 8 แก้ว รดกุหลาบไปเลยค่ะไม่ต้องหมัก ไนโตรเจนและกำมะถันสูง แถมมีกรดยูริคที่ฆ่าเชื้อบางตัวในดิน กุหลาบปลื้ม กุหลาบชอบกำมะถัน และดินเป็นกรดอ่อน ๆ ค่ะ ได้ดูดกำมะถันช่วงติดดอกสะสม ดอกจะหอม
ส่วนเปลือกกล้วย ทานเหลือ ๆ เอาไปตากแห้งจนกรอบแล้วเอามาตำโรยรอบโคนได้เลยค่ะ โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สูง ช่วยเรื่องคุณภาพดอก ขนาด สี ทำได้อาทิตย์ละครั้งก็ดี แต่ไม่ต้องถี่ขนาดทำทุกวัน
อีกเรื่องที่คนปลูกกุหลาบควรทราบ ควรหา companion plant ให้น้องด้วย
กุหลาบชอบกระเทียมค่ะ ตระกูลหัวหอมก็ได้ เพราะมีกำมะถันสูง ปลูกใกล้ ๆ ในระยะรากกุหลาบมันจะแบ่งกำมะถันให้กุหลาบหอมขึ้น สีสวยขึ้น
ถ้าเน้นหอมแบบดอกสวยด้วย ลองปลูกต้นหอมฝรั่ง ( Chives ) ใกล้ ๆ โคนกุหลาบดูค่ะ หรือ เอาที่ สวยเสมอกัน แนะนำดอกออเลี่ยม
นอกจากนั้น การปลูกดอกซัลเวียร์(สีอะไรก็ได้ แต่ไทยที่เห็นเยอะคือบลูซัลเวียร์) เสจ มิ้นท์ เจอราเนียม อนิสฮิซซอป หรือ ออริกาโนรอบ ๆ จะช่วยเรื่องขับแมลง ให้ธรรมชาติดูแลกันเอง เราก็แค่เสริมเคมีธาตินาน ๆ ครั้งกระตุ้นพอ
ส่วนตัวปลูกซัลเวียร์ กับ catmint ตระกูล Nepata ใกล้กุหลาบค่ะ ไม่เคยเจอปัญหาเพลี้ยเลย แต่ก็มีฉีดราบิวเวอเรียร์บ้างบางคราว เพราะนังมะลิข้าง ๆ ดันโดนเล่นงานแทน
แสดงความคิดเห็น
วิธีดูแล กุหลาบเลื้อยให้เป็นพุ่มหนาๆ