การไปภูกระดึงทริปนี้เป็นครั้งแรกของเราค่ะ เราไปกันทั้งหมด 3 วัน 2 คืน วันแรกเดินขึ้น วันที่สองเดินเที่ยวตามจุดต่างๆ วันที่สามเดินลงค่ะ
ก่อนไปก็พยายามหาข้อมูลแล้วนะ ก็พอรู้นะว่าลำบาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะลำบากขนาดนี้ 555
แนะนำคนที่จะไปให้ออกกำลังกายล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือนเลยค่ะ เพราะทางชันและลื่นมาก พอขึ้นไปสูงๆออกซิเจนในอากาศมันน้อยลง ทำให้เหนื่อยง่าย และหัวใจเต้นแรงมาก ควรพกยานวดไปด้วยนะคะ วันแรกอาจแค่เมื่อยๆแต่ขามันจะล้า มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราต้องเดินเที่ยวข้างบนไง เราเอาแบบเจลเย็นไป พอเจออากาศข้างบน ยิ่งทายิ่งหนาววววว
คนที่ไม่ใช่ขาลุย จ้างลูกหาบ หาบของขึ้นไปเหอะค่ะ 30 บาท/กก. แต่ชีวิตจะดีขึ้นมาก แต่ขาลงเราแบกเป้กลับเอง เราว่ามันไม่เหนื่อยเหมือนขาขึ้น แบกไหว ชิวๆอยู่ ขาลงนี่แนะนำให้ถือไม้ค้ำลงมาด้วย จะช่วยพยุงตัวได้เยอะเลยค่ะ สำหรับคนที่วิ่งลง เหนื่อยน้อยกว่าเดินจริงๆค่ะ แต่ระวังเบรกแตกนะคะ ดูเพื่อนข้างหน้าด้วย
เจ้าของกระทู้ขึ้นไปตอนประมาณ 9 โมงไปถึงหลังแปบ่ายสองนิดนิด ดูระยะทางที่ป้ายข้างล่างเหมือนไม่ไกลนะคะ แต่มันเป็นทางชันค่ะ กว่าจะถึงซำแรก(ซำแฮก)ก็พักไปหลายรอบ พูดจริงๆเลยว่าเกือบจะถอดใจกลับบ้านแล้ว ระหว่างทางโดนฝนเป็นระยะๆ แต่ทางเดินขึ้นไม่เจอทากดูดเลือดนะคะ เจอกับทากนี่คือที่หลังแปเลย
สำหรับคนที่กลัวทากนะคะจะ บอกว่าทากมีทุกที่เลยค่ะ เริ่มตั้งแต่ทางเดินจากหลังแปไปถึงที่พักเลยค่ะ มันจะอยู่ที่หญ้าแถวข้างๆทาง ตรงที่เป็นทางดินนี้จะไม่ค่อยมี บริเวณห้องน้ำเยอะมากค่ะ นี่อาบน้ำอยู่ดีๆ กัดกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เจออีกทีเกาะแน่นแล้ว
สำหรับอุปกรณ์กันทากนะคะ ไม่มีค่ะ555 ถุงกันทาก ไม่ได้กันให้ทากไม่ขึ้นตัวนะคะ แต่ทำให้เห็นทากได้ชัด จะได้เขี่ยออกได้ก่อน
น้ำเกลือเข้มข้น ได้ผลดีมากหยดลงบนทาก ทากนี่หดตัว ปล่อยเราเลยค่ะ
เพื่อนเราเอาผงซักฟอกทาขา ทากก็ไม่ขึ้นนะคะ (แต่วิธีนี้ไม่แนะนำ เดี๋ยวลื่นหัวแตก)
ฤดูนี้แนะนำให้นอนบ้านพัก จะสะดวกหน่อยค่ะ แต่ตอนขึ้นบ้านต้องดูดีๆนะคะ ทากชอบติดมากับรองเท้า ส่วนใครที่ชอบนอนเต็นท์ เต็นท์จะกางอยู่ในศาลาไม่ได้กลางที่สนามหญ้านะคะ ซึ่งเราว่าดี เพราะข้างบนฝนตกทุกวัน ฟ้าก็แรง อยู่กลางสนามก็อาจจะน่ากลัวไปนิดนึง
ร้านข้าวบนนั้น ให้ข้าวจานใหญ่มากกกกกก (แต่ก็กินหมดนะเพราะเหนื่อยมากจริงๆ) ถ้าเป็นผญ.ก็ลองสั่งมา 1 จานกิน 2 คนก็ได้ค่ะ ราคาประมาณจานละ50-60 บาท แต่เราว่าราคานี้ไม่แพง ถ้าเทียบกับปริมาณและความลำบากในการขนขึ้นมา แม่ค้าน่ารัก อัธยาศัยดีทุกร้านค่ะ และหมูกระทะเป็นอะไร ที่ต้องลองอ่ะ แบบอากาศเย็นได้นั่งหน้าเตากินหมูกระทะคือ ฟินลื้มมมมม
ตรงโซนร้านอาหารจะมีกวางกับหมูป่าออกมาหากิน มันกินเศษอาหารที่เราเทให้กินทุกอย่างเลย กวางที่ชื่อเจ้าทองเนี่ยจะเชื่องสามารถจับตัวได้เลยค่ะ แต่ถ้าตัวที่ชื่อเจ้าดื้อนี่จะยังค่อนข้างกลัวคนอยู่
การเดินทางสำหรับคนที่ไม่ได้คิดว่าจะต้องเก็บสถานที่ท่องเที่ยวให้ครบ เราแนะนำว่าเดินไปดูเฉพาะจุดที่สนใจเลยก็ได้ค่ะ อย่างทางเดินตามหน้าผาต่างๆจากที่พัก ก็ทางดีค่ะ เป็นทางราบ สามารถเดินช่วงเยนได้ ส่วนทางที่เป็นพวกน้ำตก เป็นทางชันนะคะ ทากเยอะ น้ำที่น้ำตกเย็นเจี๊ยบ ล้างหน้าแล้วชื่นจายยยย
ช่วงที่เราไปฝนจะตกทุกวันประมาณบ่าย2โมง ฝนมันมาตรงเวลานะคะ จัดสรรทางเดินให้ดี ถ้าไม่อยากเปียกฝนกลางทาง แล้วอีกอย่าง ข้างบนอากาศเย็นนะคะเพราะฉะนั้นเวลาตากแดดอาจจะไม่ได้ค่อยรู้สึกร้อนแต่พอกลับมานี่คือเป็นรอยขอบเสื้อ ขอบกางเกงเลยจร้า
ป.ล. อันนี้เป็นเป็นกระทู้แรกของเรา เราแค่อยากแชร์ประสบการณ์ ถ้าผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยนะคะ
[CR] +++บันทึกความทรงจำ วันฝนพรำที่ภูกระดึง+++
ก่อนไปก็พยายามหาข้อมูลแล้วนะ ก็พอรู้นะว่าลำบาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะลำบากขนาดนี้ 555
แนะนำคนที่จะไปให้ออกกำลังกายล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือนเลยค่ะ เพราะทางชันและลื่นมาก พอขึ้นไปสูงๆออกซิเจนในอากาศมันน้อยลง ทำให้เหนื่อยง่าย และหัวใจเต้นแรงมาก ควรพกยานวดไปด้วยนะคะ วันแรกอาจแค่เมื่อยๆแต่ขามันจะล้า มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราต้องเดินเที่ยวข้างบนไง เราเอาแบบเจลเย็นไป พอเจออากาศข้างบน ยิ่งทายิ่งหนาววววว
คนที่ไม่ใช่ขาลุย จ้างลูกหาบ หาบของขึ้นไปเหอะค่ะ 30 บาท/กก. แต่ชีวิตจะดีขึ้นมาก แต่ขาลงเราแบกเป้กลับเอง เราว่ามันไม่เหนื่อยเหมือนขาขึ้น แบกไหว ชิวๆอยู่ ขาลงนี่แนะนำให้ถือไม้ค้ำลงมาด้วย จะช่วยพยุงตัวได้เยอะเลยค่ะ สำหรับคนที่วิ่งลง เหนื่อยน้อยกว่าเดินจริงๆค่ะ แต่ระวังเบรกแตกนะคะ ดูเพื่อนข้างหน้าด้วย
เจ้าของกระทู้ขึ้นไปตอนประมาณ 9 โมงไปถึงหลังแปบ่ายสองนิดนิด ดูระยะทางที่ป้ายข้างล่างเหมือนไม่ไกลนะคะ แต่มันเป็นทางชันค่ะ กว่าจะถึงซำแรก(ซำแฮก)ก็พักไปหลายรอบ พูดจริงๆเลยว่าเกือบจะถอดใจกลับบ้านแล้ว ระหว่างทางโดนฝนเป็นระยะๆ แต่ทางเดินขึ้นไม่เจอทากดูดเลือดนะคะ เจอกับทากนี่คือที่หลังแปเลย
สำหรับคนที่กลัวทากนะคะจะ บอกว่าทากมีทุกที่เลยค่ะ เริ่มตั้งแต่ทางเดินจากหลังแปไปถึงที่พักเลยค่ะ มันจะอยู่ที่หญ้าแถวข้างๆทาง ตรงที่เป็นทางดินนี้จะไม่ค่อยมี บริเวณห้องน้ำเยอะมากค่ะ นี่อาบน้ำอยู่ดีๆ กัดกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เจออีกทีเกาะแน่นแล้ว
สำหรับอุปกรณ์กันทากนะคะ ไม่มีค่ะ555 ถุงกันทาก ไม่ได้กันให้ทากไม่ขึ้นตัวนะคะ แต่ทำให้เห็นทากได้ชัด จะได้เขี่ยออกได้ก่อน
น้ำเกลือเข้มข้น ได้ผลดีมากหยดลงบนทาก ทากนี่หดตัว ปล่อยเราเลยค่ะ
เพื่อนเราเอาผงซักฟอกทาขา ทากก็ไม่ขึ้นนะคะ (แต่วิธีนี้ไม่แนะนำ เดี๋ยวลื่นหัวแตก)
ฤดูนี้แนะนำให้นอนบ้านพัก จะสะดวกหน่อยค่ะ แต่ตอนขึ้นบ้านต้องดูดีๆนะคะ ทากชอบติดมากับรองเท้า ส่วนใครที่ชอบนอนเต็นท์ เต็นท์จะกางอยู่ในศาลาไม่ได้กลางที่สนามหญ้านะคะ ซึ่งเราว่าดี เพราะข้างบนฝนตกทุกวัน ฟ้าก็แรง อยู่กลางสนามก็อาจจะน่ากลัวไปนิดนึง
ร้านข้าวบนนั้น ให้ข้าวจานใหญ่มากกกกกก (แต่ก็กินหมดนะเพราะเหนื่อยมากจริงๆ) ถ้าเป็นผญ.ก็ลองสั่งมา 1 จานกิน 2 คนก็ได้ค่ะ ราคาประมาณจานละ50-60 บาท แต่เราว่าราคานี้ไม่แพง ถ้าเทียบกับปริมาณและความลำบากในการขนขึ้นมา แม่ค้าน่ารัก อัธยาศัยดีทุกร้านค่ะ และหมูกระทะเป็นอะไร ที่ต้องลองอ่ะ แบบอากาศเย็นได้นั่งหน้าเตากินหมูกระทะคือ ฟินลื้มมมมม
ตรงโซนร้านอาหารจะมีกวางกับหมูป่าออกมาหากิน มันกินเศษอาหารที่เราเทให้กินทุกอย่างเลย กวางที่ชื่อเจ้าทองเนี่ยจะเชื่องสามารถจับตัวได้เลยค่ะ แต่ถ้าตัวที่ชื่อเจ้าดื้อนี่จะยังค่อนข้างกลัวคนอยู่
การเดินทางสำหรับคนที่ไม่ได้คิดว่าจะต้องเก็บสถานที่ท่องเที่ยวให้ครบ เราแนะนำว่าเดินไปดูเฉพาะจุดที่สนใจเลยก็ได้ค่ะ อย่างทางเดินตามหน้าผาต่างๆจากที่พัก ก็ทางดีค่ะ เป็นทางราบ สามารถเดินช่วงเยนได้ ส่วนทางที่เป็นพวกน้ำตก เป็นทางชันนะคะ ทากเยอะ น้ำที่น้ำตกเย็นเจี๊ยบ ล้างหน้าแล้วชื่นจายยยย
ช่วงที่เราไปฝนจะตกทุกวันประมาณบ่าย2โมง ฝนมันมาตรงเวลานะคะ จัดสรรทางเดินให้ดี ถ้าไม่อยากเปียกฝนกลางทาง แล้วอีกอย่าง ข้างบนอากาศเย็นนะคะเพราะฉะนั้นเวลาตากแดดอาจจะไม่ได้ค่อยรู้สึกร้อนแต่พอกลับมานี่คือเป็นรอยขอบเสื้อ ขอบกางเกงเลยจร้า
ป.ล. อันนี้เป็นเป็นกระทู้แรกของเรา เราแค่อยากแชร์ประสบการณ์ ถ้าผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้