เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเที่ยงของวันเสาร์ที่ 12 พค.ที่ผ่านมา ขณะขับรถอยู่ ก็มี SMS เตือนว่าผมมีการรูดบัตรเครดิตที่ออฟฟิศดีโป เป็นเงิน 300 เหรียญ จากนั้นก็มี SMS ขึ้นเตือนอย่างต่อเนื่องอีก 5 ครั้งๆละ 500 1000 สลับกันจนหมดวงเงินที่มีอยู่เป็นเงิน 6 หลัก แบบตั้งตัวไม่ติด ผมเลยตั้งใจว่าเดี่ยวจะต้องรีบติดต่อบัตรเครดิตของธนาคารโดยด่วน เพราะไม่ใช่เราแน่นอน แต่อยู่ระหว่างขับรถยังไม่สามารถติดต่อกลับได้ จึงตัดสินใจขับรถไปที่ห้างที่ธนาคารนี้เปิดทำการอยู่เพื่อประสานงานและแสดงหลักฐานให้เร็วขึ้น สักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ติดต่อมาบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่บัตรเครดิตธนาคารดังกล่าว แจ้งว่าเราน่าจะโดนแฮ้กข้อมูลและถูกนำไปรูด เนื่องจากมีความผิดปรกติชัดเจน ผมจึงแจ้งไปว่า บัตรนี้น่าจะถูกรูดที่ต่างประเทศ และยืนยันว่าขณะเกิดเหตุ กำลังขับรถอยู่ในประเทศไทย ทางเจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้เรายืนยันหนังสือปฏิเสธการใช้บัตรที่จะส่งไปให้ตอบและรีบเซ็นต์กลับมา
จากนั้นในวันเดียวกันผมได้เข้าไปที่ธนาคารและติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ช่วยประสานงานเจ้าหน้าที่บัตรเครดิตอีกครั้งแต่เมื่อรับสายไม่ใช่คนเดิมที่คุย ผมได้สอบถามความเป็นไปได้ในการโจรกรรมและสิ่งที่ควรทำ ด้านเจ้าหน้าที่จึงตอบว่า สาเหตุมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเวลาไปเติมปั๊มน้ำมัน เด็กปั๊มสามารถ skimming บัตรด้วยเครื่องมือขนาดเท่ากับกล่องไม้ขีดไฟ วิธีปลอดภัยที่สุด คือตามไปดูทุกขั้นตอนในการรูดบัตร ซึ่งโดยปรกติทางเจ้าหน้าที่บอกว่าร้อยละ 90 เจ้าของบัตรจะละเลยในการไปตรวจสอบและมักนั่งอยู่ในรถ ทำให้มีโอกาสโดน skimming ได้ และจากนั้นจึงขายข้อมูลให้กับคนรับซื้อในราคาไม่กี่ร้อยบาทโดยจะมีแฮ้กเกอร์ชาวต่างชาติมารับซื้อข้อมูลอีกทีเพื่อไปก๊อปบัตรใหม่เพื่อไปรูดใช้ในต่างประเทศ นอกจากนั้นไม่ว่าจะเป็นร้านค้าต่างๆที่เวลาเราไปซื้อของหรือแม้แต่ร้านอาหารก็อาจทำการ Skimming ข้อมูลเราไปโจรกรรมได้หมด หรือบางรายอาจใช้วิธีโจรกรรมข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ หรือโจรกรรมตามห้างใหญ่ๆ ที่มีการแชร์ข้อมูลอินเตอร์เนต WIFI แบบสาธารณะ ดังนั้นเมื่อเรามีการใช้ข้อมูลธุรกรรมการเงิน จึงไม่มีความปลอดภัยพอ ควรปิด WIFI และใช้อินเตอร์เนตจาก DATA ของตัวเองจะดีกว่า เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว ผมจึงไปไล่ดูในรอบ1-2 เดือนว่าได้ไปรูดที่ไหนมาบ้างจึงพบข้อมูลต่างๆดังรูป
จากข้อมูลการรูดของผมเองจึงเกิดข้อสันนิษฐานไว้ 3 กรณีที่มีโอกาสเป็นไปได้ดังนี้คือ
1. การรูดบัตรในปั๊มน้ำมัน
2. การใช้บัตรในการจองตั๋วเครื่องบิน
3. การรูดบัตรร้านอาหารในต่างประเทศ
กรณีการรูดบัตรในปั๊มน้ำมันได้อธิบายโดยเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ส่วนข้อ 2 ก็มีความเป็นไปได้ เพราะเป็นให้ข้อมูลทั้งหมดแก่เจ้าหน้าที่เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่สามารถจ่ายได้ด้วยวิธีอื่น เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน โดยวันนั้นเจ้าหน้าที่ขอข้อมูลบัตรเครดิตเราทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อ นามสกุล เลขที่บัตร เลขcvv หลังบัตร วันที่หมดอายุบัตร โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า จะเป็นคนคีย์ข้อมูลจ่ายให้เอง ซึ่งวันนั้นเอะใจและรู้สึกว่าเราหละหลวมมากที่ให้ข้อมูลทั้งหมดไป แต่ตอนนั้นรีบร้อนเพราะต้องรีบเตรียมเดินทางไปต่างประเทศในวันเดียวกัน ส่วนกรณีที่ 3 เกิดขึ้นในการรูดที่ร้านอาหารที่สนามบินปักกิ่ง ขณะเดินทางไปต่างประเทศ
บทสรุป จึงขอเตือนทุกคนที่ใช้บัตรเครดิตว่ามีโอกาสเจอแจ๊คพอตอย่างผมได้ จึงอย่าได้ประมาทไม่ว่าใช้บัตรที่ไหนก็ตาม อย่าได้ปล่อยบัตรให้ละสายตาโดยเด็ดขาด หรือให้ข้อมูลในบัตรแก่ใคร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรใดก็ตาม เพราะคุณอาจตกเป็นเหยื่อได้ สุดท้ายขอขอบคุณการจัดการที่ว่องไวและความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่บัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพที่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาให้และยินดีรับผิดชอบโดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะคืนเงินทั้งหมดให้เป็นปรกติและออกบัตรใหม่ให้ทันที จากนั้นไม่กี่วันก็ได้มี SMS แจ้งว่าได้ออกบัตรใหม่เรียบร้อยแล้ว และสามารถใช้งานได้ตามปรกติ แต่อย่างไรก็ตามคนเราไม่ได้โชคดีทุกครั้ง ผมจึงต้องเพิ่มควมระมัดระวังเพิ่มขึ้นและขอเตือนภัยเพื่อนๆทุกคนว่าให้ระมัดระวังอย่าได้ประมาทครับ
หมายเหตุ -หากบทความนี้มีประโยชน์และสามารถเตือนภัยสังคมช่วยกด ด้วยนะครับ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ต่อไป
เตือนภัย เมื่อผมโดนโจรกรรมรูดบัตรเครดิตนับแสนใน 1 นาที
จากนั้นในวันเดียวกันผมได้เข้าไปที่ธนาคารและติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ช่วยประสานงานเจ้าหน้าที่บัตรเครดิตอีกครั้งแต่เมื่อรับสายไม่ใช่คนเดิมที่คุย ผมได้สอบถามความเป็นไปได้ในการโจรกรรมและสิ่งที่ควรทำ ด้านเจ้าหน้าที่จึงตอบว่า สาเหตุมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเวลาไปเติมปั๊มน้ำมัน เด็กปั๊มสามารถ skimming บัตรด้วยเครื่องมือขนาดเท่ากับกล่องไม้ขีดไฟ วิธีปลอดภัยที่สุด คือตามไปดูทุกขั้นตอนในการรูดบัตร ซึ่งโดยปรกติทางเจ้าหน้าที่บอกว่าร้อยละ 90 เจ้าของบัตรจะละเลยในการไปตรวจสอบและมักนั่งอยู่ในรถ ทำให้มีโอกาสโดน skimming ได้ และจากนั้นจึงขายข้อมูลให้กับคนรับซื้อในราคาไม่กี่ร้อยบาทโดยจะมีแฮ้กเกอร์ชาวต่างชาติมารับซื้อข้อมูลอีกทีเพื่อไปก๊อปบัตรใหม่เพื่อไปรูดใช้ในต่างประเทศ นอกจากนั้นไม่ว่าจะเป็นร้านค้าต่างๆที่เวลาเราไปซื้อของหรือแม้แต่ร้านอาหารก็อาจทำการ Skimming ข้อมูลเราไปโจรกรรมได้หมด หรือบางรายอาจใช้วิธีโจรกรรมข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ หรือโจรกรรมตามห้างใหญ่ๆ ที่มีการแชร์ข้อมูลอินเตอร์เนต WIFI แบบสาธารณะ ดังนั้นเมื่อเรามีการใช้ข้อมูลธุรกรรมการเงิน จึงไม่มีความปลอดภัยพอ ควรปิด WIFI และใช้อินเตอร์เนตจาก DATA ของตัวเองจะดีกว่า เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว ผมจึงไปไล่ดูในรอบ1-2 เดือนว่าได้ไปรูดที่ไหนมาบ้างจึงพบข้อมูลต่างๆดังรูป
จากข้อมูลการรูดของผมเองจึงเกิดข้อสันนิษฐานไว้ 3 กรณีที่มีโอกาสเป็นไปได้ดังนี้คือ
1. การรูดบัตรในปั๊มน้ำมัน
2. การใช้บัตรในการจองตั๋วเครื่องบิน
3. การรูดบัตรร้านอาหารในต่างประเทศ
กรณีการรูดบัตรในปั๊มน้ำมันได้อธิบายโดยเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ส่วนข้อ 2 ก็มีความเป็นไปได้ เพราะเป็นให้ข้อมูลทั้งหมดแก่เจ้าหน้าที่เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่สามารถจ่ายได้ด้วยวิธีอื่น เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน โดยวันนั้นเจ้าหน้าที่ขอข้อมูลบัตรเครดิตเราทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อ นามสกุล เลขที่บัตร เลขcvv หลังบัตร วันที่หมดอายุบัตร โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า จะเป็นคนคีย์ข้อมูลจ่ายให้เอง ซึ่งวันนั้นเอะใจและรู้สึกว่าเราหละหลวมมากที่ให้ข้อมูลทั้งหมดไป แต่ตอนนั้นรีบร้อนเพราะต้องรีบเตรียมเดินทางไปต่างประเทศในวันเดียวกัน ส่วนกรณีที่ 3 เกิดขึ้นในการรูดที่ร้านอาหารที่สนามบินปักกิ่ง ขณะเดินทางไปต่างประเทศ
บทสรุป จึงขอเตือนทุกคนที่ใช้บัตรเครดิตว่ามีโอกาสเจอแจ๊คพอตอย่างผมได้ จึงอย่าได้ประมาทไม่ว่าใช้บัตรที่ไหนก็ตาม อย่าได้ปล่อยบัตรให้ละสายตาโดยเด็ดขาด หรือให้ข้อมูลในบัตรแก่ใคร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรใดก็ตาม เพราะคุณอาจตกเป็นเหยื่อได้ สุดท้ายขอขอบคุณการจัดการที่ว่องไวและความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่บัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพที่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาให้และยินดีรับผิดชอบโดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะคืนเงินทั้งหมดให้เป็นปรกติและออกบัตรใหม่ให้ทันที จากนั้นไม่กี่วันก็ได้มี SMS แจ้งว่าได้ออกบัตรใหม่เรียบร้อยแล้ว และสามารถใช้งานได้ตามปรกติ แต่อย่างไรก็ตามคนเราไม่ได้โชคดีทุกครั้ง ผมจึงต้องเพิ่มควมระมัดระวังเพิ่มขึ้นและขอเตือนภัยเพื่อนๆทุกคนว่าให้ระมัดระวังอย่าได้ประมาทครับ
หมายเหตุ -หากบทความนี้มีประโยชน์และสามารถเตือนภัยสังคมช่วยกด ด้วยนะครับ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ต่อไป