สวัสดีครับ ขอปรึกษาหน่อยนะครับ. เรื่องเริ่มมาจากการซื้อรถคันแรก ตอนนั้นเราเรียนมหาวิทยาลัย อายุยังไม่ถึง เลยคุยกับญาติๆ มีพี่คนนึงยินยอมให้ยืมชื่อ ซึ่งวันที่ไปเซ็นเอกสาร พ่อเราได้ให้สินน้ำใจไป 5,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ ตอนที่ได้ภาษีคืน พ่อเราก็ให้อีก 3,000 บาท จนกระทั่งผ่านไป 2 ปีกว่าๆ ..
ช่วงนั้นที่บ้านแย่มากครับ พิษเศรษฐกิจหลายๆอย่าง บ้านโดนยึด ทำให้ขาดส่งค่างวดมาเกือบ 3เดือน แต่ไม่ทันสิ้นเดือนที่สาม แต่เรากับพ่อได้คุยกับทางไฟแนนซ์ แล้วแบ่งเคลียร์ ยอด 3 เดือนเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายญาติได้โวยวายว่าทำให้เขาติดแบลคลิสซึ่ง ณ ตอนนั้น เราได้ทำการขอโทษอย่างมาก เพราะเราไม่รู้รายละเอียด เขาโวยเราก็ขอโทษอย่างเดียว ไม่ได้ตำหนิเขาเลย เพราะฝ่ายเราผิดจริง แต่เรารู้ว่า ในบูโรอาจทำให้เขามีประวัติชำระล่าช้า แต่ไม่ได้ติดแบลคลิสบูโรแต่อย่างใด หลังจากนั้นผ่านไปอีกเกือบ 2 ปี
บ้านเราก็ล้มอีกครั้ง ทำให้เราต้องรีไฟแนนซ์รถ ตอนนั้นยังไม่สามารถโอนชื่อรถได้ เนื่องจากติดชื่อรถคันแรก เราก็คุยกับญาติว่าเราต้องการจะรีไฟแนนซ์ เขาบอกเขาเดือดร้อนพอดี อารมณ์เหมือนกับว่าช่วยกัน ต่างคนต่างเดือดร้อน ตอนแรกตกลงกันว่า เขาจะขอเงินสด 25,000 ยืมอีก 10,000 บาท แล้วจะทยอยคืน เราก็ตกลงกันอย่างดีครับ เขาบอกว่า เขาทำธุรกิจส่งออกปลากับเพื่อน ไม่ต้องห่วง มีคืนเราแน่นอน ได้เงินทีเป็นหมื่น แล้วตัวเขาเอง ก็ชอบบูชาพระเยอะไปหมด เราเป็นคนวิ่งทำเรื่องทั้งหมด เขาก็เร่งเราฝ่ายเดียว ว่าเมื่อไหร่จะได้ จี้เรามาก ขอเอาเงินเข้าบัญชีตัวเอง จะได้เข้าเสตทเม้นของเขา เราก็โอเค ทั้งๆที่ตอนนั้น เรากะไฟแนนซ์ก็รำคาญเขามาก เพราะจะเอาตามใจตัวเองมากๆ ทั้งๆที่เราก็เดือดร้อนไม่แพ้กัน เราตกลงกับไฟแนนซ์ สรุป ได้ยอดจัด 160,000 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้ว เหลือ 106,000 บาท เพราะฉะนั้นเขาต้องโอนให้เรา 71,000 บาท เพราะเขายืมเรารวม 35,000 บาท. แต่เขากลับโอนให้เราแค่ 55,000 บาท พร้อมกับส่งไลน์มาว่า ขอ 35,000 บาท ยืมอีก 10,000 บาท เป็น 45,000 บาท พร้อมกับบล็อกไลน์เราเลย เราติดต่อไม่ได้ เพราะเราไม่ยอม ตกลงกันแล้ว จนเราต้องบอกน้า พอน้าคุยมันตอบกลับมาว่า ใช้เงินหมดแล้ว !! เราโกรธมาก คือเราไม่ยอม เราโวยวาย จนติดต่อได้ มันยอมโอนมาคืน 16,000. บาท แต่กว่าจะได้เราแทบลากเลือด เหมือนขอทาน แต่ก็สมเพชตัวเอง หลังจากนั้นผ่านไป 2 เดือน เราก็ถามว่า ยอด 10,000 บาท ที่จะทยอยคืนนี่เมื่อไหร่ มันตอบกลับมาว่า ไม่ได้บอกว่าจะคืนเร็วๆนี้ เราก็ไม่โอเค 25,000 ก็ได้ไปฟรีๆ มีใครให้ขนาดเราบ้าง ที่ให้เพราะเรารู้สึกผิดที่ชื่อเขาเสีย เราบอกก็บอกไว้ว่าจะผ่อนก็ควรเป็นคำพูดหน่อย มีน้อยให้น้อย มีมากให้มาก. จนผ่านไป มันก็โอนมาบ้าง ไม่โอนบ้าง บอกว่าโดนไล่ออกจากงาน เพราะไปต่อย ผจก. นู่นนี่นั่น คือพ่อเขาน่ะเป็นตำรวจ ก็ชอบเอาอำนาจพ่อมาอวด แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจะเกษียณแล้ว และในขณะนั้นเขาก็อัพลงไทม์ไลน์ในไลน์ อารมณ์อินเลิฟ หูยยย พาแฟนไปเที่ยว ไปซื้อของ นู่นนี่นั่น ถ้าคุณเป็นเราคุณจะอารมณ์เสียมั้ย เราเห็นในเฟสเขา ขายปลา ขายพระ ซื้อพระ สนุกสนาน แล้วก็มาตั้งสเตตัสด่าเรา
จนในที่สุด แม่ของเขาเอง ต้องมาผ่อนให้เราจนครบ เราก็ไม่ได้อะไรก็จบไป. เราก็ผ่อนรถใช้ของเรามาเรื่อยๆ จนถึงวันที่รถของเราปลดล็อครถคันแรก. เราก็เลยติดต่อเขาไปว่า รบกวนทำเอกสารโอนให้หน่อย แต่ถ้าไม่มีเอกสาร ไม่สะดวก ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเอาไปให้เซ็น เตรียมพวกสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านไว้ก็พอ โดยเราติดต่อผ่านแม่เขา ซึ่งก็คือป้าเรา เขาอ่านไลน์แต่เขาไม่ตอบเรา จนวันนี้เราเลยโทรไป เขาบอกว่า เขาจะไม่เซ็นให้ เพราะเราทำให้ชื่อเขาติดแบลคลิส เราบอกว่าไม่ใช่นะ ไม่มีสิททำแบบนี้ เราก็ผ่อนของเรามา นี่เราก็ต้องการให้เขาเซ็น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก เราเลยบอกให้ป้าไปคุยกะเขา เพราะมันยังไม่ตื่น
เหตุการณ์แบบนี้เราควรทำอย่างไรได้บ้างครับ เราเครียดมากเลย รบกวนขอคำแนะนำหน่อยนะครับ 🙏🏻🙏🏻
ญาติไม่ยอมเซ็นโอนรถให้ รบกวนขอคำปรึกษาครับ
ช่วงนั้นที่บ้านแย่มากครับ พิษเศรษฐกิจหลายๆอย่าง บ้านโดนยึด ทำให้ขาดส่งค่างวดมาเกือบ 3เดือน แต่ไม่ทันสิ้นเดือนที่สาม แต่เรากับพ่อได้คุยกับทางไฟแนนซ์ แล้วแบ่งเคลียร์ ยอด 3 เดือนเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายญาติได้โวยวายว่าทำให้เขาติดแบลคลิสซึ่ง ณ ตอนนั้น เราได้ทำการขอโทษอย่างมาก เพราะเราไม่รู้รายละเอียด เขาโวยเราก็ขอโทษอย่างเดียว ไม่ได้ตำหนิเขาเลย เพราะฝ่ายเราผิดจริง แต่เรารู้ว่า ในบูโรอาจทำให้เขามีประวัติชำระล่าช้า แต่ไม่ได้ติดแบลคลิสบูโรแต่อย่างใด หลังจากนั้นผ่านไปอีกเกือบ 2 ปี
บ้านเราก็ล้มอีกครั้ง ทำให้เราต้องรีไฟแนนซ์รถ ตอนนั้นยังไม่สามารถโอนชื่อรถได้ เนื่องจากติดชื่อรถคันแรก เราก็คุยกับญาติว่าเราต้องการจะรีไฟแนนซ์ เขาบอกเขาเดือดร้อนพอดี อารมณ์เหมือนกับว่าช่วยกัน ต่างคนต่างเดือดร้อน ตอนแรกตกลงกันว่า เขาจะขอเงินสด 25,000 ยืมอีก 10,000 บาท แล้วจะทยอยคืน เราก็ตกลงกันอย่างดีครับ เขาบอกว่า เขาทำธุรกิจส่งออกปลากับเพื่อน ไม่ต้องห่วง มีคืนเราแน่นอน ได้เงินทีเป็นหมื่น แล้วตัวเขาเอง ก็ชอบบูชาพระเยอะไปหมด เราเป็นคนวิ่งทำเรื่องทั้งหมด เขาก็เร่งเราฝ่ายเดียว ว่าเมื่อไหร่จะได้ จี้เรามาก ขอเอาเงินเข้าบัญชีตัวเอง จะได้เข้าเสตทเม้นของเขา เราก็โอเค ทั้งๆที่ตอนนั้น เรากะไฟแนนซ์ก็รำคาญเขามาก เพราะจะเอาตามใจตัวเองมากๆ ทั้งๆที่เราก็เดือดร้อนไม่แพ้กัน เราตกลงกับไฟแนนซ์ สรุป ได้ยอดจัด 160,000 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้ว เหลือ 106,000 บาท เพราะฉะนั้นเขาต้องโอนให้เรา 71,000 บาท เพราะเขายืมเรารวม 35,000 บาท. แต่เขากลับโอนให้เราแค่ 55,000 บาท พร้อมกับส่งไลน์มาว่า ขอ 35,000 บาท ยืมอีก 10,000 บาท เป็น 45,000 บาท พร้อมกับบล็อกไลน์เราเลย เราติดต่อไม่ได้ เพราะเราไม่ยอม ตกลงกันแล้ว จนเราต้องบอกน้า พอน้าคุยมันตอบกลับมาว่า ใช้เงินหมดแล้ว !! เราโกรธมาก คือเราไม่ยอม เราโวยวาย จนติดต่อได้ มันยอมโอนมาคืน 16,000. บาท แต่กว่าจะได้เราแทบลากเลือด เหมือนขอทาน แต่ก็สมเพชตัวเอง หลังจากนั้นผ่านไป 2 เดือน เราก็ถามว่า ยอด 10,000 บาท ที่จะทยอยคืนนี่เมื่อไหร่ มันตอบกลับมาว่า ไม่ได้บอกว่าจะคืนเร็วๆนี้ เราก็ไม่โอเค 25,000 ก็ได้ไปฟรีๆ มีใครให้ขนาดเราบ้าง ที่ให้เพราะเรารู้สึกผิดที่ชื่อเขาเสีย เราบอกก็บอกไว้ว่าจะผ่อนก็ควรเป็นคำพูดหน่อย มีน้อยให้น้อย มีมากให้มาก. จนผ่านไป มันก็โอนมาบ้าง ไม่โอนบ้าง บอกว่าโดนไล่ออกจากงาน เพราะไปต่อย ผจก. นู่นนี่นั่น คือพ่อเขาน่ะเป็นตำรวจ ก็ชอบเอาอำนาจพ่อมาอวด แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจะเกษียณแล้ว และในขณะนั้นเขาก็อัพลงไทม์ไลน์ในไลน์ อารมณ์อินเลิฟ หูยยย พาแฟนไปเที่ยว ไปซื้อของ นู่นนี่นั่น ถ้าคุณเป็นเราคุณจะอารมณ์เสียมั้ย เราเห็นในเฟสเขา ขายปลา ขายพระ ซื้อพระ สนุกสนาน แล้วก็มาตั้งสเตตัสด่าเรา
จนในที่สุด แม่ของเขาเอง ต้องมาผ่อนให้เราจนครบ เราก็ไม่ได้อะไรก็จบไป. เราก็ผ่อนรถใช้ของเรามาเรื่อยๆ จนถึงวันที่รถของเราปลดล็อครถคันแรก. เราก็เลยติดต่อเขาไปว่า รบกวนทำเอกสารโอนให้หน่อย แต่ถ้าไม่มีเอกสาร ไม่สะดวก ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเอาไปให้เซ็น เตรียมพวกสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านไว้ก็พอ โดยเราติดต่อผ่านแม่เขา ซึ่งก็คือป้าเรา เขาอ่านไลน์แต่เขาไม่ตอบเรา จนวันนี้เราเลยโทรไป เขาบอกว่า เขาจะไม่เซ็นให้ เพราะเราทำให้ชื่อเขาติดแบลคลิส เราบอกว่าไม่ใช่นะ ไม่มีสิททำแบบนี้ เราก็ผ่อนของเรามา นี่เราก็ต้องการให้เขาเซ็น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก เราเลยบอกให้ป้าไปคุยกะเขา เพราะมันยังไม่ตื่น
เหตุการณ์แบบนี้เราควรทำอย่างไรได้บ้างครับ เราเครียดมากเลย รบกวนขอคำแนะนำหน่อยนะครับ 🙏🏻🙏🏻